KUBET กับ 8 เหตุการณ์เหยียดผิวที่ย่ำแย่ที่สุดในจักรวาลฟุตบอล เรื่องราวของความเหลื่อมล้ำ และการเหยียดที่ยังมีให้เห็นอยู่ในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเหยียดเชื้อชาติ สัญชาติ สีผิว วัฒนธรรม ของคนที่อาศัยอยู่ในต่างพื้นที่ ไม่เว้นแม้แต่เหล่าคนดังที่ได้รับความเสียหายจากเรื่องเหล่านี้ เพียงเพราะว่ากลุ่มคนหนึ่งต้องการที่จะด้อยค่าผู้อื่นให้รู้สึกต่ำต้อยกว่าตน เรื่องราวที่สร้างบาดแผลในใจให้ใครหลายคน เช่นเดียวกับวงการกีฬาระดับโลกอย่างฟุตบอลก็มีเหตุการณ์ดังกล่าวปรากฏให้เห็นเช่นกัน
วันนี้เคยูเบทได้ทำการรวบรวม 8 เหตุการณ์การเหยียดผิวที่ย่ำแย่ที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในสนามแข่งแห่งมิตรภาพและความเท่าเทียม การกระทำยอดแย่ของเหล่าแฟนบอล รวมถึงการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลอย่างไม่น่าให้อภัย
8 เหตุการณ์เหยียดผิวที่ย่ำแย่ที่สุดในจักรวาลฟุตบอล
เหตุการณ์ที่ 1 ดานี่ อัลเวส กินกล้วยจากพวกเหยียดผิว
ในปี 2014 เหตุการณ์เหยียดชาติเกิดขึ้นเมื่อ ดานี่ อัลเวส เดินไปเตะมุม ก่อนแฟนบอลจะขว้างกล้วยใส่เขา นั่นทำให้เขาหยิบขึ้นมาปอกกินตอนนั้นเลยก่อนจะเล่นต่ออย่างสบายใจ หลังจากนั้นเพื่อนนักเตะชาวอเมริกาใต้หลายคนก็ออกมาล้อเลียนในเชิงบวกด้วยการโพสต์ภาพถือกล้วย หรือกินกล้วยโชว์ การกระทำที่แสดงถึงการให้กำลังใจและอยู่เคียงข้างเขาเสมอ สำหรับแฟนบอลที่ทำการเหยียดผิว ถูกสั่งแบนห้ามเข้าชมฟุตบอลตลอดชีวิต
"ผมหยิบมันขึ้นมากินแบบไม่ได้ตระเตรียมมาก่อน ใครจะไปนึกว่าจะมีคนโยนกล้วยลงมาในสนาม" ดานี่ อัลเวส
เหตุการณ์ที่ 2 ปิแอร์ เวโบ้
ในปี 2020 กับศึกยูฟ่าแชมป์เปียนลีก ปารีสลงเล่นเกมสุดท้ายในรอบแบ่งกลุ่ม กรรมการที่เดินไปข้างสนามก่อนจะถามว่าใครคือโค้ชที่แสดงความไม่พอใจและโวยวายออกมา ก่อนโคเตรดชูจะชี้ไปที่ปิแอร์แล้วพูดว่า “คนดำคนนั้น” นั่นทำให้เขาไม่พอใจอย่างแรง พลางถามคู่กรณีว่าทำไมถึงพูดเช่นนั้น ทำไมไม่เรียกชื่อของเขาดีๆ เหตุการณ์ลามไปถึงนักเตะที่อยากจะออกจากสนามเพื่อแสดงความไม่พอใจเช่นกัน และหนึ่งในนั้นคือเอ็มบัปเป้ ที่พูดออกมาเลยว่า “ผมจะไม่เล่นต่อนะครับ ถ้าชายคนนั้นยังทำหน้าที่ในสนาม” ซึ่งนั่นเองก็ทำให้คนอื่นๆ ไม่อยากเล่นแล้วเหมือนกัน เป็นอันสิ้นสุดของเกมในวันนั้น
(สามารถติดตามข่าวสารการเคลื่อนไหวของวงการฟุตบอลได้ทางเว็บไซต์ KUBET)
เหตุการณ์ที่ 3 หลุยส์ ซัวเรซ และ ปาทริซ เอฟร่า
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2011 ศึกแดงเดือดระหว่างแมนยูกับลิเวอร์พูล ได้เกิดการปะทะกันระหว่าง หลุยส์ ซัวเรซ และ ปาทริซ เอฟร่า ซึ่งหลังจบเกมปาทริซได้ร้องต่อสมาคมฟุตบอลว่าหลุยส์ใช้คำพูดเหยียดผิว เชื้อชาติกับตน ซึ่งหลุยส์ก็ออกมายอมรับว่าเขาพูดคำว่านิโกรจริง นั่นทำให้หลุยส์ถูกตัดสินลงโทษแบน 8 นัด และปรับเงินจำนวน 4 หมื่นยูโร แน่นอนว่า ไม่ว่าเขาจะพูดมันออกมาด้วยความไม่เจตนา แต่เขาก็ไม่สมควรแสดงคำพูดแบบนั้นออกมา เนื่องจากมันสะท้อนตัวตนของเขาได้ดีเหมือนกัน
เหตุการณ์ที่ 4 เควิน ปรินซ์ บัวเต็ง
ในปี 2013 แฟนบอลฝ่ายตรงข้ามส่งเสียลิงและเรียกชื่อของเควินตลอด ตั้งแต่เริ่มเกม นั่นทำให้เขาหมดความอดทนก่อนจะเตะบอลอัดไปยังที่นั่งของเหล่าแฟนบอลกลุ่มดังกล่าวก่อนจะถอดเสื้อแล้วเดินออกจากสนามทันที นั่นทำให้เกมดังกล่าวถูกยกเลิกเช่นกัน รวมถึงการเดินประท้วงของทีมฟุตบอลเอซีมิลาน ในเกมต่อไปที่เอซีมิลานต้องไปเยือนกรุงโรม เหล่าแฟนบอลทีมกรุงโรมร้องเพลงเหยียดผิวเควินอีกครั้ง เรื่องราวพวกนี้ไม่มีวันหมดไปเลยจริงๆ
“ทุกครั้งที่เจออะไรแบบนี้มันบั่นทอนความอยากเล่นฟุตบอลของผมลงเรื่อยๆ” เควิน ปรินซ์ บัวเต็ง
เหตุการณ์ที่ 5 มาริโอ บาโลเตลลี
ชายผู้ประสบกับปัญหาการเหยียดเชื้อชาติ สีผมมาตั้งแต่เด็ก เขาโดนกระทำมาตลอดตั้งแต่ในตอนที่เรียนอยู่ในโรงเรียนประถม มัธยมกับเพื่อนๆ ก็มักจะถูกตีตัวออกห่างเนื่องจากสีผิวของเขา การถูกปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียม หรือแม้แต่ในสนามฟุตบอล ก็มีจะมีแฟนบอลตะโกนด่าเขา เหยียดเชื้อชาติ สีผิวของเขาอยู่เสมอ หรือแม้แต่การร้องเพลงเหยียดผิวใส่ เขาร้องเรียนต่อสมาคมฟุตบอลแล้วก็ไม่มีวี่แววว่าจะดีขึ้น จนเจ้าตัวเองก็คิดว่าการเหยียดผิวที่ฝรั่งเศสเป็นเรื่องถูกกฎหมายด้วยงั้นหรือ
(สามารถติดตามข่าวสารการเคลื่อนไหวของวงการฟุตบอลได้ทางเว็บไซต์ KUBET)
เหตุการณ์ที่ 6 มัลกี้ แม็คเคย์
ในปี 2014 แชทของมัลกี้ ผู้จัดการทีมสโมสรฟุตบอลคาร์ดิฟฟ์ซิตีในประเทศอังกฤษ ได้ถูกเปิดเผยออกมาสู่สาธารณะ ซึ่งเนื้อหาในแชทมีข้อความเหยียดเชื้อชาติจำนวนมากหนึ่งในเหยื่อที่ถูกกล่าวถึงคือ คิม โบ-คยอง แนวรุกทีมชาติเกาหลีใต้ ด้วยการเหยียดชาติเอเชีย แถมยังใช้คำพูดแทนนักฟุตบอลว่า หมา รวมถึงการพูดถึงทีมตัวเองว่า ไม่ได้มีคนขาวอะไรมากมายแต่ก็คุ้มที่จะเจรจา นั่นทำให้เขาโดนโจมตีอย่างหนักหลังแชทหลุดดังกล่าว ทว่าเขาก็ไม่ได้รับการลงโทษแต่อย่างใด
เหตุการณ์ที่ 7 มอยเซ่ คีน
ในปี 2019 ตลอดเกมการแข่ง คีน โดยแฟนบอลฝ่ายตรงข้ามร้องเพลงเหยียดสีผิวตลอดทั้งเกม กระทั่งในตอนที่เขาทำประตูได้ คีนก็เดินไปดีใจบริเวณที่มีแฟนบอลฝ่ายตรงข้ามนั่งอยู่ นั่นสร้างความไม่พอใจให้เหล่าแฟนบอลฝ่ายตรงข้ามเช่นกัน หลังจบเกม มักซ์ อัลเลกรีมองว่า การกระทำของคีน ไม่สมควรอย่างยิ่ง ควรมีรับมือวิธีที่ดีกว่านี้แม้ว่าคนพวกนั้นจะน่ารังเกียจแค่ไหนก็ตาม
เหตุการณ์ที่ 8 แบร์นาร์โด้ ซิลวา และ แบ็งฌาแมง เมนดี้
แบร์นาร์โด้ ซิลวา แซวภาพตอนเด็กของแมนดี้ ด้วยการนำขนมที่มีช็อกโกแลตเคลือบมาเทียบกัน พร้อมกับให้ทายว่าเขาเป็นใคร ก่อนแมนดี้จะมาตอบกลับมาติดตลก เนื่องจากทั้งสองเป็นเพื่อนกันในตอนที่อยู่แมนซิตี้ ทว่าเรื่องนี้กลับถูกมองว่ามันไม่เหมาะสม และมันไม่ใช่มุกตลกที่จะเอามาล้อกัน เจ้าตัวเองก็ออกมาอธิบายว่าไม่ได้ตั้งใจจะเหยียดสีผิวเพื่อน เพราะเขาแค่ล้อเล่นกันเฉยๆ ทว่าการกระทำของเขาก็ถูกลงโทษด้วยการสั่งแบนยาว 6 เกม
และนี่ก็คือ 8 เหตุการณ์การเหยียดผิวที่เคยเกิดขึ้นในสนามฟุตบอล ซึ่งปัจจุบันก็ยังคงมีอยู่ แม้ว่าจะมีการลงโทษแล้วก็ตามแต่ก็ไม่สามารถหยุดยั้งหรือห้ามปราบความคิดต่ำต้อย ยอดแย่พวกนั้นได้เลย สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของวงการฟุตบอล สาระน่ารู้ โปรแกรมการแข่งขัน การวิเคราะห์ผลบอลก่อนแข่งได้ผ่านเว็บไซต์ KUBET