ต่อจาก EP.3 สำหรับที่มาของฉายาแต่ละสโมสรฟุตบอลทั้ง 20 ทีมในพรีเมียร์ลีก 2023/24 ในอีพีนี้เหลืออีก 5 ทีมชื่อดังสุดท้ายจะมีประวัติศาสตร์ความเป็นมาอย่างไร ตามKUBETไปดูกันเลย
16.ทอตนัมฮอตสเปอร์ – ไก่เดือยทอง
ทอตนัมฮอตสเปอร์ หรือเรียกสั้นๆว่า สเปอร์ส มีจุดเริ่มต้นสโมสรมาจากนักเรียนกลุ่มหนึ่งได้ร่วมแรงร่วมใจและรวมเงินกันสร้างสโมสรขึ้นมา อีกทั้งยังตั้งชื่อทีม Hotspur จากการยอมรับของสมาชิกทุกคน ซึ่งชื่อนี้เป็นฉายาของเซอร์เฮนรี เพอร์ซี่ (Sir Henry Percy) อัศวินผู้ห้าวหาญในสนามรบ ตามตำนานท้องถิ่นเล่าว่าเขาขี่ม้าได้รวดเร็ว รุนแรงและดุดันมากที่สุด
นอกจากนี้เซอร์เพอร์ซี่มักจะสวมรองเท้าที่มีเดือยเหล็กเล็กๆที่ส้นเท้า ที่เอาไว้กระตุ้นม้าให้วิ่งเร็วขึ้น และนี่จึงเป็นที่มาของคำว่า Hotspur ต่อมาได้มีการรวมชื่อกับทีมท้องถิ่นทีมอื่นเข้าด้วยกัน จึงกลายมาเป็น ทอตนัมฮอตสเปอร์
สำหรับช่วงเริ่มต้นสโมสรพวกเขาใช้สัญลักษณ์เป็น ตัว H แต่เมื่อถึงนัดชิงถ้วยเอฟเคคัพปี 1901 สโมสรได้เปลี่ยนโลโก้ใหม่เป็น Cockerel หรือ ไก่กระทงหนุ่ม ที่ขาจะมีเดือยแหลมคม แสดงถึงการต่อสู้อย่างไม่ย่อท้อ เหมือนกับ Hotspur ชื่อทีมต้นกำเนิด จากนั้นตราสโมสรก็ได้มีการปรับเปลี่ยนเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ได้ปรับเป็นสไตล์มินิมอลที่เหลือเพียงไก่กระทงหนุ่มยืนอยู่บนลูกบอล
โดยฉายาที่แฟนบอลชาวไทยนิยมเรียกกัน คือ ไก่เดือยทอง ส่วนชาวอังกฤษจะเรียกฉายาพวกเขาว่า The Lilywhites (ลิลลี่ไวท์) หรือ ดอกลิลลี่สีขาว ที่มาจากสีเสื้อสโมสรที่มักใส่สีขาวล้วนเป็นหลักนั่นเอง
ติดตามข่าวสารฟุตบอล โปรแกรมบอล วิเคราะห์บอลและประวัตินักเตะที่คุณไม่เคยทราบ ได้ที่เว็บไซต์ KUBET
17.แมนเชสเตอร์ ซิตี้ – เรือใบสีฟ้า
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หรือเรียกสั้นๆว่า แมนซิตี้ ก่อตั้งขึ้นในปี 1880 ที่โบสถ์เซนต์มากส์ในพื้นที่ที่ยากจนที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองแมนเชสเตอร์ที่ชื่อว่า เวสต์กอร์ตัน ในอังกฤษ โดยแมนซิตี้มีฉายาว่า ซิตีเซนส์ (The Citizens) หรือพลเมืองแห่งแมนเชสเตอร์ แต่ในประเทศไทยจะรู้จักกันดีในชื่อฉายาว่า เรือใบสีฟ้า เนื่องจากทีมเอาโลโก้ของสภาเมืองมาใช้ตั้งแต่ยุคแรกๆ
- ภาพเรือใบ หมายถึง สัญลักษณ์ของเมืองท่าอังกฤษ นับตั้งแต่มีการขุดคลองแมนเชสเตอร์ขึ้นมา
- แถบ 3 ขีด หมายถึง แม่น้ำทั้ง 3 สายที่สำคัญในเมือง ได้แก่ แม่น้ำเออร์เวลล์, แม่น้ำเอิร์กและแม่น้ำเม็ดล็อค
โดยแมนซิตี้ใช้โลโก้รูปแบบนี้เรื่อยมา ปรับเปลี่ยนไปเพียงเล็กน้อย แต่ยังคงรูปแบบเดิมมาเสมอ จนกระทั่งตราสโมสรในปัจจุบันที่ให้แฟนๆได้มีส่วนร่วมโหวต ภายในประกอบไปด้วย โล่ เรือใบ แม่น้ำสามสาย และ ดอกกุหลาบสีแดงที่แสดงถึงที่ตั้งอย่างมณฑลแลงคาเชอร์
18.อาร์เซนอล – ปืนใหญ่
อาร์เซนอล ฉายาคือ The Gunners หรือ ปืนใหญ่ ก่อตั้งขึ้นในเขตวูลวิชของลอนดอนในปี 1886 ซึ่งเป็นที่ตั้งของรอยัลอาร์เซนอล กรมทหารปืนใหญ่และโรงพยาบาลทหารเรือหลายแห่ง ทั้งนี้อาร์เซนอลได้ลงเล่นเป็นเวลา 2 ปี โดยไม่มีตราสัญลักษณ์
หลังจากนั้นได้นำตราแผ่นดินวูลวิชมาใช้ ซึ่งมีปืนใหญ่ และต่อมาสโมสรได้ย้ายไปไฮบิวรี่ในปี 1913 แต่ทว่าปืนใหญ่ยังคงอยู่บนโลโก้เสมอมา เป็นจุดเด่นจุดเดียวที่ยังคงเอกลักษณ์เอาไว้ ถึงแม้จุดอื่นๆจะเปลี่ยนแปลงรูปแบบอยู่หลายครั้ง ในปัจจุบัน ตราสโมสรถูกออกแบบให้ทันสมัย เด่นชัด ปืนใหญ่สีทองบนพื้นสีแดง ที่ดูแล้วคลาสสิคและน่าเกรงขามสุดๆ
ติดตามข่าวสารฟุตบอล โปรแกรมบอล วิเคราะห์บอลและประวัตินักเตะที่คุณไม่เคยทราบ ได้ที่เว็บไซต์ KUBET
19.แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด – ปีศาจแดง
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฉายาคือ The Red Devils คนไทยเรียกว่า ปีศาจแดง หรือ ผีแดง ก่อตั้งขึ้นบนพื้นฐานสโมสรนิวตันฮีตแอลวายอาร์ ในปี 1878 ฝ่ายบริหารของสถานีรถไฟในพื้นที่แมนเชสเตอร์ของนิวตันฮีตได้ก่อตั้งสโมสรขึ้น โดยในทีมส่วนใหญ่เป็นพนักงานของบริษัทรถไฟ และในปี 1888 สโมสรได้เข้าร่วมลีกท้องถิ่น
ในปี 1902 นิวตันฮีตมีหนี้สิน 2,670 ปอนด์ จึงถูกเจ้าหน้าที่ให้ยกเลิกกิจการสโมสรไป จนกระทั่ง กัปตันแฮร์รี่ สแตฟฟอร์ด (Harry Stafford) และนักธุรกิจท้องถิ่น 4 คนได้ลงทุน 500 ปอนด์สำหรับใช้หนี้
ทำให้สามารถช่วยทีมปีศาจแดงจากการล้มละลายลงได้ และเพื่อเป็นการเริ่มต้นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของทีม พวกเขาจึงเปลี่ยนไปใช้ชื่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ในช่วงแรก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ใช้โลโก้เดียวกับสภาเมือง เช่นเดียวกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพียงแต่ใช้สีแดงเป็นหลัก
แต่ยุคที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของปีศาจแดงเกิดขึ้นในยุคการคุมทีมของแมตต์ บัสบี จนได้รับฉายาว่า เด็กๆของบัสบี ซึ่งเป็นฉายาที่ไม่น่าเกรงขามเอาสะเลย
จนได้มีการระดมความคิดในการตั้งฉายาใหม่ โดยก่อนหน้านั้น ในช่วงทศวรรษ 1930 มีทีมลักบี้ชื่อว่า Salford ได้สวมเสื้อสีแดงไปแข่งขันในฝรั่งเศส ทำให้กลายเป็นที่รู้จักในชื่อ Salford Red Devils จากนั้นเมื่อบัสบีได้ยินชื่อนี้ เขาก็ชอบทันทีและประกาศว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ควรเป็นที่รู้จักในชื่อ The Red Devils
ในไม่ช้าสโมสรได้ออกแบบโลโก้ใหม่ ที่มีปีศาจสีแดงอยู่ตรงกลาง ด้านบนยังคงทิ้งเอกลักษณ์เรือใบเอาไว้เป็นสัญลักษณ์ของเมืองแมนเชสเตอร์
ติดตามข่าวสารฟุตบอล โปรแกรมบอล วิเคราะห์บอลและประวัตินักเตะที่คุณไม่เคยทราบ ได้ที่เว็บไซต์ KUBET
20.ลิเวอร์พูล – หงส์แดง
สำหรับทีมสุดท้ายในพรีเมียร์ลีกอย่าง ลิเวอร์พูล คนไทยรู้จักการในชื่อฉายา หงส์แดง แต่จริงๆแล้วในอังกฤษไม่ได้เรียกกันแบบนั้น แต่ใช้ชื่อว่า The Reds
ในช่วงเริ่มต้นสโมสรปี 1892 ลิเวอร์พูลไม่ได้สวมชุดสีแดงเลยด้วยซ้ำ พวกเขาสวมเสื้อสีขาวสลับฟ้า ต่อมาเปลี่ยนเป็นเสื้อสีแดงและกางเกงสีขาว
จนมาในปี 1965 เป็นยุครุ่งเรืองของลิเวอร์พูลภายใต้การคุมทัพของ บิลล์ แชงคลี (Bill Shankly) ซึ่งเขาเป็นหนึ่งในกุนซือที่มีจิตวิทยาสูงมาก
โดยแชงคลีคิดว่าการใช้สีจะมีผลกระทบทางจิตวิทยา สีแดงคือความอันตรายและอำนาจ เขาจึงเกิดไอเดีย All Reds ขึ้นมา ซึ่งเป็นการให้ลูกทีมสวมชุดสีแดงทั้งเสื้อและกางเกง
โดยลูกทีมของเขายังบอกอีกว่ารู้สึกฮึกเหิมมากกว่าเดิม จนกระทั่งในปี 1965 ลิเวอร์พูลก็ได้สวมชุดสีแดงล้วนลงสนาม แถมผลงานยังยอดเยี่ยม โดดเด่นอย่างมาก ตั้งแต่นั้นมาลิเวอร์พูลก็ไม่เคยกลับไปสวมกางเกงสีขาวอีกเลย
สำหรับตราสโมสรที่คนไทยเรียกว่าหงส์แดงนั้น แท้จริงแล้วมันคือ นกลิเวอร์เบิร์ด (Liver Bird) ซึ่งเป็นนกประจำท้องถิ่นของเมืองลิเวอร์พูล มีลักษณะเหมือนนกกาน้ำ
โดยตราสโมสรแรกนำมาจากตราสัญลักษณ์ประจำเมืองที่เป็นสัญลักษณ์ทางทะเลที่สะท้อนถึงความรุ่งโรจน์ของท่าเรือลิเวอร์พูล ตรงกลางมีนกกาน้ำ 2 ตัวคาบสาหร่ายอยู่ในปาก บริเวณใกล้เคียงมีเทพเจ้ากรีกโบราณอย่าง ไทรทันและเนปจูนประกบข้าง
จนกระทั่งในปี 1950 ตราสโมสรถูกออกแบบให้ดูมีพลังขึ้น รูปร่างคล้ายกับนกฟินิกซ์สีแดงในตำนานและกลายมาเป็นโลโก้ที่ใช้จนถึงในปัจจุบัน
จบไปแล้วสำหรับที่มาของ 20 ฉายาสโมสรฟุตบอลในพรีเมียร์ลีก สามารถติดตามข่าวทั้งหมด ผ่านทางเว็บไซต์ KUBET World ให้คุณอัพเดทข่าวสารวงการฟุตบอลแบบเรียลไทม์ โปรแกรมบอล วิเคราะห์บอลแบบจัดเต็ม ประวัตินักเตะที่คุณไม่เคยทราบ พร้อมรับชมถ่ายทอดสดฟุตบอลทุกแมตช์จนจบฤดูกาล เพียงเป็นสมาชิกเคยูเบท ลุ้นเกมเดิมพันสุดมันส์และรับสิทธิประโยชน์อีกมากมาย สมัครเลย!