พ่อกับลูกชายมักจะมีความสัมพันธ์ที่เหนี่ยวแน่นของสถาบันครอบครัว ลูกชายหลายคนเดินตามรอยเท้าพ่อเพื่อสานต่อความหวัง ในโลกฟุตบอลมีมากมายหลายคู่ที่ทำอาชีพเดียวกัน ซึ่งจะมีใครบ้างนั้น ติดตามรับชมได้ที่ KUBET
การที่ลูกชายเดินตามรอยพ่อนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกใจอะไร หลายๆครอบครัวที่เราเห็นกันในชีวิตประจำวันก็มีหลายบ้านที่เป็นแบบนั้น เช่นเดียวกันกับโลกฟุตบอล มีนักฟุตบอลหลายคนเลือกเดินตามรอยพ่อ เพราะเห็นพ่อเป็นแบบอย่าง พ่อของบางคนอาจจะเป็นนักเตะชื่อดัง แต่ลูกชายไม่ดังเหมือนพ่อ หรือบางคนพ่อไม่ได้ดังและเก่งมากมาย แต่ลูกชายกลับกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ก็มี ซึ่งเคยูคัดคู่พ่อลูกที่น่าสนใจมาให้แล้วที่นี่ ไปดูกันเลย
คู่พ่อลูกในโลกฟุตบอล EP.1
ตระกูลฮาแลนด์
เริ่มกันที่คู่แรก ซึ่งน่าจะเป็นรายชื่อลำดับต้นๆ ที่แฟนบอลหลายคนนึกภาพออก นั่นคือ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ กองหน้าดาวรุ่งของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เชื่อว่าแฟนบอลส่วนใหญ่ก็น่าจะรู้จักกันดีว่าเขาเป็นลูกชายของ อัลฟ์-อิงเก้ ฮาแลนด์ ที่เป็นอดีตนักเตะทีมชาตินอร์เวย์ เขาเคยลงเล่นกับน็อตติ้งแฮมฟอเรสต์, ลีดส์ และแมนซิตี้มาก่อน
จริงๆ แล้ว เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์เองเกิดที่เมืองลีดส์ประเทศอังกฤษ สมัยที่พ่อเขาลงเล่นในพรีเมียร์ลีก และจากการเคี่ยวเข็ญของพ่อมาตั้งแต่เด็กๆ พร้อมกับพรสวรรค์ทำให้ฮาแลนด์กลายเป็นกองหน้าที่มีความสามารถราวกับปีศาจ
ฮาแลนด์ (คนพ่อ) เล่นตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับกับแบ็กขวา เส้นทางค้าแข้งของเขาไม่ได้ดาวเด่นรุ่งเรืองมากนัก เขาเล่นให้กับทีมที่ไม่ใช่ยักษ์ใหญ่ อาจจะมีแค่ลีดส์ที่เป็นท็อปทีมในเวลานั้น ไม่เคยคว้าแชมป์อะไร ติดทีมชาติแค่ 34 เกม ซึ่งถ้าเทียบกับลูกชายที่เป็นกองหน้าเบอร์ต้นๆของโลกในเวลานี้ ถือว่าห่างชั้นกันเยอะ แต่ก็ต้องให้เครดิตเขาในการปั้นลูกชายให้ได้มาถึงจุดนี้
ติดตามข่าวสารฟุตบอล โปรแกรมบอล วิเคราะห์บอลและประวัตินักเตะที่คุณไม่เคยทราบ ได้ที่เว็บไซต์ KUBET
ตระกูลชไมเคิล
คู่พ่อลูกต่อมาที่เล่นในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เหมือนกัน และที่เด็ดกว่าคือเขาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้เหมือนกันอีกด้วย นั่นคือ ปีเตอร์ และ แคสเปอร์ ชไมเคิล ทั้งสองคนเล่นตำแหน่งผู้รักษาประตูเหมือนกัน โดยปีเตอร์เป็นตำนานของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดยุคที่กำลังรุ่งเรืองในช่วงปี 90 คว้าแชมป์มามากมายกับทัพปีศาจแดง โดยเฉพาะทริปเปิลแชมป์เมื่อปี 1999 เป็นผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดคนหนึ่งในยุคพรีเมียร์ลีก
ขณะที่แคสเปอร์ เคยไปชูถ้วยพรีเมียร์ลีกกับพ่อของเขาที่แมนยูสมัยเป็นเด็ก ชีวิตค้าแข้งด้อยกว่าพ่อเล็กน้อย ตรงที่แม้ว่าเขาจะขึ้นสู่ชุดใหญ่กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในยุคที่กำลังเปลี่ยนผ่านสู่ความยิ่งใหญ่ แต่ก็ยึดตัวจริงไม่ได้ เล่นแต่กับทีมที่ไม่ใหญ่นัก แต่เขามาเจอจุดลงตัวกับเลสเตอร์ ซิตี้ เล่นกันมาตั้งแต่อยู่แชมเปียนชิพจนขึ้นมาสู่พรีเมียร์ลีก อยู่เฝ้าเสากับจิ้งจอกสยาม 11 ซีซั่น 479 นัดจากทุกรายการ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกกับทีมได้ในฤดูกาล 2015-16 และแชมป์เอฟเอคัพ ในฤดูกาล 2020-21
ปัจจุบันนี้แคสเปอร์อายุ 37 ปีเข้าไปแล้ว ยังไม่ประกาศแขวนสตั๊ดใดๆ ทีมล่าสุดที่เขาเล่นคือ อันเดอร์เลทช์ในเบลเยียม
ติดตามข่าวสารฟุตบอล โปรแกรมบอล วิเคราะห์บอลและประวัตินักเตะที่คุณไม่เคยทราบ ได้ที่เว็บไซต์ KUBET
ตระกูลไรท์
อีกคู่พ่อลูกที่คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้เหมือนกัน นั่นคือ เอียน ไรท์ และ ณอน ไรท์-ฟิลลิปป์ ความจริงทั้งสองไม่ได้เป็นพ่อลูกกันแท้ๆ แต่ณอนเป็นลูกบุญธรรมที่เกิดจากแฟนเก่าของเอียน ไรท์ แต่ทั้งคู่ก็รักกันเหมือนคนในครอบครัว ฝั่งพ่อ “เอียน ไรท์” คือตำนานของอาร์เซนอล เขาลงเล่นให้กับปืนใหญ่ไป 7 ซีซั่น ยิงได้ 185 ประตูจากทุกรายการ เขาเคยพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 1997-98 เคยได้แชมป์เอฟเอคัพ 2 สมัย, ลีกคัพ 1 สมัย และคัพวินเนอร์สคัพ 1 สมัย
ขณะที่ณอนนั้นเติบโตขึ้นมากับอะคาเดมี่ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขึ้นมาเล่นทีมชุดใหญ่ของเรือใบสีฟ้าในช่วงปี 2000 ต้นๆ ก่อนจะตามหาความสำเร็จแล้วย้ายไปเชลซีในฤดูกาล 2005-06 และคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกที่นั่น แต่ก็เล่นอยู่ไม่นาน เนื่องจากคู่แข่งเยอะ ทำให้เขาเป็นตัวหลักถาวรไม่ได้ จึงย้ายกลับมาแมนซิตี้อีกครั้งในปี 2008 แต่ก็เป็นช่วงปลายอาชีพค้าแข้งของเขาแล้ว เขาได้ย้ายไปคิวพีอาร์ในเวลาต่อมา จากนั้นก็ไปเล่นในอเมริกาและแขวนสตั๊ดในปี 2017
ติดตามข่าวสารฟุตบอล โปรแกรมบอล วิเคราะห์บอลและประวัตินักเตะที่คุณไม่เคยทราบ ได้ที่เว็บไซต์ KUBET
เอียน ไรท์มีลูกชายแท้ๆอีกคน และเป็นพี่น้องแม่เดียวกันกับณอน นั่นก็คือ แบรดลีย์ ไรท์-ฟิลลิปป์ เขาก็เดินตามรอยแมนซิตี้เช่นกัน แต่ไม่ค่อยได้รับโอกาสลงเล่นมากนัก จึงย้ายไปอยู่กับเซาแธมป์ตันในลีกแชมเปียนชิพ แล้วก็ย้ายไปอีกหลายทีมในลีกรองของอังกฤษ ก่อนจะย้ายไปอเมริกาและแขวนสตั๊ดในปี 2021
ตระกูลแฟรงค์-แลมพาร์ด
มาต่ออีกคู่ในพรีเมียร์ลีกอีกเช่นเคย คือ สองพ่อลูกตระกูลแฟรงค์-แลมพาร์ดอย่าง แฟรงค์ แลมพาร์ด ซีเนียร์ กับ แฟรงค์ แลมพาร์ด จูเนียร์ โดยที่แฟรงค์คนพ่อเล่นตำแหน่งแบ็กซ้าย เป็นตำนานของเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ลงเล่นให้กับทีมขุนค้อนไปมากกว่า 500 นัดในช่วงปี 1967-1985 ก่อนจะไปปิดท้ายอาชีพที่ เซาธ์เอนด์ ยูไนเต็ด เคยคว้าแชมป์เอฟเอคัพ 2 สมัย ในปี 1975 และ 1980
ขณะที่ลูกชายอย่างเจมส์ เป็นกองกลางระดับเวิลด์คลาส เริ่มเล่นให้กับเวสต์แฮมเหมือนกับพ่อของตน และย้ายไปเชลซีในช่วงปี 2001 ในยุคแรกเริ่มสู่ความยิ่งใหญ่ของสิงห์บูลส์ เป็นกองกลางจอมถล่มประตูที่มีทีเด็ดลูกยิงไกล มีความเป็นมืออาชีพ และความเป็นผู้นำสูง เขาเป็นตำนานของเชลซี เป็นดาวซัลโวสูงสุดของสโมสรที่ 211 ประตู แถมยังพาทีมคว้าแชมป์มากมาย ทั้งพรีเมียร์ลีก 3 สมัย, เอฟเอคัพ 3 สมัย, ลีกคัพ 3 สมัย รวมถึงแชมเปียนส์ลีกและยูโรปาลีกอย่างละ 1 สมัย
หลังจากเลิกเล่นเขาผันตัวไปเป็นโค้ชผู้สอน เขาเริ่มกับการคุมทีมดาร์บีเคาน์ตีและทำผลงานได้ดีพอสมควร จนได้โอกาสไปคุมเชลซีอยู่ช่วงหนึ่งในปี 2019-2021 แรกๆก็เหมือนจะดี แต่ฟอร์มของทีมก็เริ่มดรอปลงจนเขาถูกปลดและย้ายไปคุมทัพเอฟเวอร์ตันในปีต่อมา แต่ก็ฟอร์มแย่ไม่แพ้กัน จากการคุม 44 นัด ชนะ 12 นัดเท่านั้น
คู่พ่อลูกที่เหลือจะมีใครบ้าง? ติดตามอ่านข่าวสารฟุตบอลต่อได้ที่ EP.2 ผ่านทางเว็บไซต์ KUBET World ให้คุณอัพเดทก่อนใครแบบเรียลไทม์ รวมถึงโปรแกรมบอล วิเคราะห์บอลแบบจัดเต็ม ประวัตินักเตะที่คุณไม่เคยทราบ พร้อมรับชมถ่ายทอดสดฟุตบอลทุกแมตช์จนจบฤดูกาล เพียงเป็นสมาชิกเคยูเบท ลุ้นเกมเดิมพันสุดมันส์และรับสิทธิประโยชน์อีกมากมาย สมัครสมาชิกที่นี่!