การแข่งขันฟุตบอลที่แพ้ขาดลอยที่สุดในประวัติศาสตร์ จบด้วยสกอร์ 149-0 ประตู โดยผู้ชนะได้แก่สโมสรเอเอส อาเดมา และผู้แพ้คือ เอสโอ เลอ เออมีร์นเรื่องราวทั้งหมดจะเป็นยังไงวันนี้ KUBET ได้รวบรวมข้อมูลมาให้คุณแล้วครับ
สโมสรผู้ชนะอย่าง AS Adema (เอเอส อาเดมา)
AS Adema (เอเอส อาเดมา) เป็นสโมสรฟุตบอลมาลากาซีที่ตั้งอยู่ในเมืองอันตานานารีโว มาดากัสการ์ พวกเขาคว้าแชมป์ THB Champions League ได้ถึงสี่ครั้งในปี 2002, 2006, 2012 และ 2021 ในปี 2002 พวกเขายังได้ผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศของ CAF Cup โดยที่พวกเขาแพ้ Al-Masry จากอียิปต์ นอกจากนี้ เอเอส อาเดมาชนะการแข่งขันแชมเปี้ยนส์ลีก โดยแข่งขันกับทีมเอสโอ เลอ เออมีร์น อีกด้วย
สโมสรผู้พ่ายแพ้อย่าง SO Emyrne (เอสโอ เลอ เออมีร์น)
SO Emyrne (เอสโอ เลอ เออมีร์น) เป็นสโมสรกีฬาของมาลากาซีที่ตั้งอยู่ในเมืองอันตานานาริโว ประเทศมาดากัสการ์ พวกเขาคว้าแชมป์ THB Champions League ในปี 2544 และรองแชมป์ในรายการ Coupe de Madagascar ในปี 2003
การแข่งขันในวันนั้น
ในการแข่งขันฟุตบอลวันนั้นต้องพาย้อนกลับไปชมเหตุการณ์ที่หลายๆท่านต้องไม่เชื่อสายตาตัวเองอย่างแน่นอนว่ามีฟุตบอลใดในโลกที่สามารถทำประตูกันได้ถล่มทลายแบบนี้ได้เช่นนี้อย่าง เอเอส อาเดมา ชนะ เอสโอ เลอ เออมีร์น ไปถึง 149-0 ประตู อย่างไรก็ตามมันคือความจริงและเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2002 หรือเมื่อประมาณเกือบ 22 ปี ที่แล้วในเกมลีกสูงสุดของประเทศมาดากัสการ์ ซึ่งทำลายสถิติเดิมที่ อาร์โบอัธ เอาชนะ บอน แอค คอร์ด 36-0 ประตู
โดยการแข่งขันของอาร์โบอัธ และ บอน แอค คอร์ด เกิดขึ้นในปี 1885 หรือเมื่อร้อยกว่าปีที่แล้ว อย่างราบคาบ และแน่นอนว่าสกอร์ดังกล่าวเกิดขึ้นไม่ได้แน่นอน หากไม่มีการเตรียมการหรือตกลงล่วงหน้ากันมาก่อน เนื่องจากการแข่งขันฟุตบอลเขาแข่งขันกันเพียง 90 นาทีเท่านั้น ซึ่งหมายความว่า เอเอส อาเดมา จะต้องทำประตูได้ทุกๆ 36 วินาที เลยทีเดียว ซึ่งมันดูไม่น่าเป็นไปได้อยู่แล้วถ้าเทียบกับองค์ประกอบหลายๆอย่าง – BY KUBET
ซึ่งความจริงของการแข่งขันฟุตบอลวันนั้นคือ การที่ได้ 149 ประตูที่เกิดขึ้นนั้นเป็น เอสโอ เลอ เออมีร์น ที่ยิงเข้าประตูตัวเองแล้วรีบนำบอลมาตั้งเขี่ยเริ่มเล่น แล้วก็ยิงเข้าประตูตัวเองไปเรื่อยๆแบบนี้จบจบเกม เนื่องจากต้องการแสดงอารยะขัดขืนต่อทีมงานผู้ตัดสินในเกมก่อนหน้านี้ ที่พวกเขาระบุว่าโดนปล้นชัยชนะไป นั้นคือเกมที่เสมอกับ ดีเอสเอ อันตาตานาริโว ด้วยสกอร์ 2-2 ประตู นั่นเอง ทำให้เหตุการณ์ยิงประตูตัวเองจึงเกิดขึ้นนั่นเอง
และสิ่งสำคัญคือเรื่องทั้งหมดนี้มันคือคำสั่งของกุนซือของทีมที่สั่งการให้นักเตะของตัวเองยิงประตูตัวเองเสียเลย ทำเอาแฟนบอลหลายคนออกมาเรียกร้องขอเงินค่าตั๋วคือเป็นการใหญ่และลุกลามเป็นดราม่าระดับโลกทันที (เรียกได้ว่าแก้เผ็ดได้เจ็บแสบมากครับสำหรับกุนซือรายนี้ ทำเอาเสียหายไปทั้งระบบกันเลยทีเดียว)
หลังจากจบเกมดังกล่าว สมาคมฟุตบอลมาดากัสการ์ ไม่รอช้า สั่งลงดาบแบน ซากาเบ กุนซือของสโมสรเอสโอ เลอ เออมีร์น เป็นเวลา 3 ปี รวมไปถึงผู้เล่นอย่าง มามิซัว ราซาฟอนดราโกโต , มานิตรานิรินา อันเดรีย เนียอินา , นิโกลัส ราโกตัวริมานานา และคนสุดท้ายคือ โดมินิเก้ ราโกโตนานดราซานา ไปจนจบฤดูกาล ซึ่งเหตุการณ์นี้ก็ยังคงถูกพูดถึงในฐานะการแข่งขันฟุตบอลที่มีการยิงประตูมากที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ยากจะมีใครมาทำลายได้ นั่นเอง
เรื่องนี้ไม่รู้ว่าจะโทษใครดีเลย แต่สำหรับผู้ตัดสินของเกมนั้นไม่มีการรายงานว่าได้รับโทษหรือตรวจสอบเกมการแข่งขันก่อนหน้านี้แต่อย่างใด มีแต่สโมสรเอสโอ เลอ เออมีร์นที่ได้รับความเสียหายและถูกทำโทษนั่นเอง และเชื่อว่าเหตุการณ์แบบนี้น่าจะมีการเกิดขึ้นอีกแล้วไม่ว่าจะเป็นมุมไหนของโลก เพราะมันเสียหายเยอะจริงๆครับ ไม่รู้จะสงสารกุนซือ หรือนักเตะของเอสโอ เลอ เออมีร์น ดีครับ
จบไปแล้วสำหรับ การแข่งขันฟุตบอลที่แพ้ขาดลอยที่สุดในประวัติศาสตร์ จบด้วยสกอร์ 149-0 ประตู สโมสรเอสโอ เลอ เออมีร์นทำไปทั้งหมดก็เพื่อประท้วงการตัดสินของผู้ตัดสินเท่านั้น ซึ่งถือเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลเองทีเดียว สำหรับใครที่ต้องการดูการแข่งขันฟุตบอลสดก็สามารถเข้ามาดูกันได้ที่ KUBET ได้เลยนะครับ
