8 นักเตะตำนานเชลซี กับความภาคภูมิใจที่แฟนสิงห์บลูไม่มีวันลืม [EP.1] – KUBET

KUBET กับ 8 นักเตะตำนานเชลซี กับความภาคภูมิใจที่แฟนสิงห์บลูไม่มีวันลืม [EP.1] เรื่องราวของตำนานนักเตะจากทีมเชลซี ที่ล้วนแล้วแต่เติบโตพร้อมกับสร้างความภาคภูมิใจให้กับทีมและแฟนบอลได้ไม่รู้ลืม เรื่องราวและสถิติที่พวกเขาเหล่านั้นได้สร้างเอาไว้จะมีเรื่องใดบ้างไปรับชมกันได้เลยกับ

8 นักเตะตำนานเชลซี กับความภาคภูมิใจที่แฟนสิงห์บลูไม่มีวันลืม [EP.1]

คนที่ 1 ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา

อดีตนักฟุตบอลของเชลซีในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ เคยเป็นกัปตันทีมชาติโกตดิวัวร์ เจ้าของสถิติยิงประตูสูงสุดในทีมชาติที่ 65 ประตู รวมถึงเป็นนักเตะผู้ทำประตูสูงสุดในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2006-2007 ด้วยจำนวน 20 ประตู รวมถึง ผู้ทำประตูสูงสุดในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2009-2010 ด้วยจำนวน 29 ประตู ซึ่งสถิติทั้งหมดเป็นช่วงเวลาที่เขาสังกัดอยู่เชลซี แน่นอนว่าเรื่องราวของเขาไม่ได้มีแค่สถิติที่ทำไว้กับทีมเชลซีเท่านั้น ดร็อกบายังสร้างความประทับใจไม่รู้ลืมเรื่องการกระทำที่ช่วยชีวิตคนในบ้านเกิดของเขาอีกนับไม่ถ้วน

จากการประกาศให้มีการจัดการแข่งขันฟุตบอลขึ้นกลางเมืองที่มีแต่สงครามเพื่อยุติเรื่องราวทั้งหมด ซึ่งทั้งสองฝ่ายขัดแย้งก็เหตุด้วย หลังจากนั้นคำขอร้องของเขาก็สามารถยุติความเลวร้ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในบ้านเกิดของเขาได้สำเร็จ ทำให้ประเทศบ้านเกิดของเขากลับมามีความสุขได้ดังเดิมอีกครั้ง

(สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของวงการฟุตบอลได้ทางเว็บไซต์ KUBET)

คนที่ 2 จานลูก้า วิอัลลี่

อดีตผู้จัดการทีมและนักฟุตบอลชาวอิตาลีในตำแหน่งกองหน้าของเชลซี ปัจจุบันเขาเสียชีวิตแล้วด้วยโรคมะเร็ง อย่างไรก็ดี สำหรับเรื่องราวและความทรงจำที่เหล่าแฟนสิงห์บลูไม่เคยลืมเลยเกี่ยวกับวิอัลลี่ ยังคงชัดเจนอยู่เสมอ ย้อนกลับไปในช่วงปลายปี 90 ท้ายเส้นทางการค้าแข้งของวิอัลลี่ ได้ตัดสินใจมาเล่นให้พรีเมียร์ลีก เข้าร่วมกับเชลซีที่กำลังสร้างชื่อเสียงด้วยการเป็นน้องใหม่ในวงการพรีเมียร์ลีกอยู่เช่นกัน

หนึ่งในคีย์สำคัญที่ช่วยสร้างรากฐานให้กับเชลซีและทิ้งความสำเร็จให้คนรุ่นต่อไปได้เดินตามและเอาเป็นแบบอย่างไว้มากมาย ด้วยการเป็นแชมป์เอฟเอคัพในปี 1996 -97 ลีกคัพ 1997-98 และยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ 1997-98 แถมเขายังสามารถคว้ารางวัลส่วนตัวอีกมากมายทั้ง ผู้ทำประตูสูงสุดในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี,ทีมยอดเยี่ยมในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป,ผู้ทำประตูสูงสุดในโกปปาอีตาเลีย,ผู้ทำประตูสูงสุดในยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ,ผู้ทำประตูสูงสุดในเซเรียอา,ผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีโดยนิตยสารเวิลด์ซอกเกอร์ และอีกมากมาย

และนี่ก็เป็นเหตุให้เขาได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นที่ 5 และชั้นที่ 3 อีกด้วย

คนที่ 3 แฟรงก์ แลมพาร์ด

ล่าสุดเป็นผู้จัดการทีมชั่วคราวของเชลซี ในพรีเมียร์ลีก อดีตของเขาเองก็เคยเป็นนักฟุตบอลในทีมของเชลซีมาแล้วเช่นกัน เดิมทีครอบครัวของแลมพาร์ดเดินทางสายอาชีพนักฟุตบอลมาตั้งแต่รุ่นลุงของเขา เรียกได้ว่า เครือญาติ ผู้คนรอบข้างของเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับฟุตบอลทั้งหมด เขาเริ่มต้นค้าแข้งที่ เวสต์แฮมยูไนเต็ด สร้างสถิติเอาไว้ทั้งหมด ด้วยการลงเล่น 148 นัด ทำสกอร์ให้ทีมได้ 24 ประตู ก่อนเขาจะย้ายเข้าสู่สโมสรยักษ์ใหญ่อย่างเชลซีในปี 2001 ด้วยค่าตัว 11 ล้านปอนด์ ในตำแหน่งกองกลาง

(สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของวงการฟุตบอลได้ทางเว็บไซต์ KUBET)

แลมพาร์ดกลายเป็นกองกลางที่สามารถทำประตูได้มากกว่ากองหน้าคนแรกของประวัติศาสตร์ลูกหนัง  เขาสามารถพาเชลซีเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศเอฟเอคัพได้สำเร็จ นับเป็นครั้งแรกของทีมสิงห์บลูที่สามารถเข้ารองลึกได้ขนาดนั้น แม้จะพ่ายในศึกครั้งนั้นแต่ปีต่อไป เขาก็สามารถพาทีมคว้ามแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้สำเร็จในปี 2011 ตามด้วย แชมป์ยูฟ่ายูโรปาลีก 2013,แชมป์พรีเมียร์ลีก2004-2010,แชมป์เอฟเอคัพ2007-2009 – 2010-2012,แชมป์ลีกคัพ2005-2007 และ แชมป์เอฟเอคอมมิวนิตีชีลด์ปี 2005 และ 2009

คนที่ 4 จานฟรังโก้ โซล่า

อดีตนักฟุตบอลและผู้จัดการทีมชาวอิตาลี ในปี 2532 เขาเคยเล่นให้กับนาโปลี ในช่วงเวลาเดียวกับ ดิเอโก มาราโดนาจากนั้นก็ย้ายมาอยู่กับทีมปาร์มา สามารถนำทีมคว้าแชมป์คัพวินเนอร์สคัพในปี 2537 เอกลักษณ์ที่โดดเด่น สไตล์การเล่นของเขาในตอนนั้นคือลูกฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษ ที่ยากจะลอกเลียนแบบแม้ว่าเขาจะตัวเล็กกว่าเพื่อนร่วมทีมแต่เขาก็สร้างความสุดยอดให้ได้เห็นแล้วว่า ตัวเล็กก็ไม่ใช่อุปสรรคในการยอมแพ้ ก่อนจะตัดสินใจย้ายไปอยู่กับเชลซีในปี 1996

เขาขึ้นเป็นตัวหลักแผงหน้าของเชลซีและทีมชาติอิตาลีทันที ก่อนนำความสำเร็จมาสู่ทีมได้ เขาสามารถนำทีมเข้าสู่รอบลึกๆ ของศึก เอฟ เอ คัพ ก่อนจะเข้าไปลุ้นแชมป์ในพรีเมียร์ลีกได้ในปี 2540

และนี่ก็คือ 4 อันดับจาก 8 นักเตะในตำนานของเชลซี ที่เปรียบเสมือนความภาคภูมิใจของแฟนสิงห์บลูตั้งแต่ในอดีตมาจนถึงปัจจุบัน สำหรับ 4 อันดับที่เหลือจะเป็นใครกันบ้างสามารถรับชมต่อได้ใน EP.2 ผ่านเว็บไซต์ KUBET ได้เลย