KUBET สรุปข่าวประเด็นร้อน “มาโน่ โพลกิ้ง” ที่ตอนนี้กลายเป็นอดีตกุนซือทีมชาติไทยเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา หลังพาทีมชนะอาเซียนมา 2 สมัยซ้อน แม้ผลงานในระดับเอเชียจะไม่ค่อยดีนัก ทำให้มาดามแป้งตัดสินใจแต่งตั้ง “มาซาตาดะ อิชิอิ” ขึ้นแท่นกุนซือทีมชาติไทยคนใหม่อย่างรวดเร็ว โดยวันนี้เคยูจะมาสรุปใจความสำคัญสถานการณ์ทั้งสองกุนซือตอนนี้ เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
“มาโน่ โพลกิ้ง” แยกทางทีมชาติไทย
ประเด็นแรก “มาโน่ โพลกิ้ง” อดีตกุนซือทีมชาติไทย ถึงแม้ก่อนหน้านี้เขาจะพาทีมชาติไทยบุกไปชนะทีมชาติสิงคโปร์ถึงถิ่นสำเร็จด้วยสกอร์ 3-1 ในการแข่งขันคัดบอลโลกนัดที่ 2 ที่สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ แต่สุดท้ายก็ต้องแยกทางกับทีมชาติไทย หลังมีการประกาศแต่งตั้งกุนซือชาวญี่ปุ่นอย่าง “มาซาตาดะ อิชิอิ” ขึ้นเป็นกุนซือทีมชาติไทยคนใหม่อย่างรวดเร็ว โดยล่าสุด “มาโน่ โพลกิ้ง” ได้ออกมาเปิดใจบนอินสตาแรกมครั้งแรกหลังแยกทางกับทีมชาติไทย โดยระบุว่า

“ขอขอบคุณสำหรับการเดินทางอันน่าเหลือเชื่อตลอด 2 ปีที่ผ่านมากับทีมที่น่าทึ่ง ผมมีความทรงจำที่น่าอัศจรรย์ใจ ขอขอบคุณทุกท่านที่เป็นส่วนหนึ่งของบทชีวิตในอาชีพการทำงานของผม อย่ายอมแพ้ เพราะความฝันยังไม่จบ ผมแค่ต้องการจะพักตอนนี้ เพลิดเพลินไปกับครอบครัวและเพื่อนฝูงและฉลองคริสต์มาสอันแสนสุขในบราซิล”
สำหรับเป้าหมายในฤดูกาลนี้ “มาโน่ โพลกิ้ง” จะต้องจะพาทีมชนะ 2 นัดรวดใน 2 เกมแรก แต่ทว่ากลับทำผลงานได้ไม่ค่อยดีนัก ถึงแม้ในนัดสุดท้ายนั้นเขาจะพาทีมคว้าชัยชนะการบุกถล่มสิงคโปร์สำเร็จ แต่นัดก่อนนั้นกลับพ่ายยับให้กับจีน 1-2 เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2566
ซึ่งทำให้เขาต้องยุติผลงานในทีมชาติไทย เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระยะเวลาทั้งสิ้น 2 ปี 2 เดือน หรือ 784 วัน การแข่งขันทั้งหมด 37 นัด เก็บชัยชนะ 21 นัด เสมอ 8 นัด แพ้ 8 นัด และยังคว้า 2 แชมป์ในศึกการแข่งขันระดับอาเซียน คือ รายการชิงแชมป์อาเซียน (AFF Suzuki Cup 2020) และ ชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน 2022 (AFF Mitsubishi Electric Cup 2022)


ทำไมต้อง “มาซาตาดะ อิชิอิ” ?
ประเด็นต่อมาหลังจากข่าวแยกทางของ “มาโน่ โพลกิ้ง” มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ ก็ได้แต่งตั้งกุนซือชาวญี่ปุ่น “มาซาตาดะ อิชิอิ” อย่างเป็นทางการและรวดเร็วติดจรวดเพื่อมาคุมทัพช้างศึก โดยเจ้าตัวได้เผยสาเหตุที่ตัดสินใจเลือก อิชิอิ โดยระบุว่า
“เราต้องเลือกโค้ชที่รู้จัก คุ้นเคย และมีข้อมูลผู้เล่นทีมชาติไทยมากที่สุด ก่อนเลือกอิชิอิ โค้ชชาวญี่ปุ่น พร้อมทีมงานสตาฟฟ์โค้ชส่วนตัวเข้ามาคุมทัพทันที”

ซึ่ง KUBET ได้รวบรวมข้อมูลจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือจากหลายสำนักข่าว ว่าด้วยเรื่องเหตุผลที่มาดามแป้งเลือก อิชิอิ และแฟนบอลทั่วประเทศไทยต่างก็เชื่อมั่นในตัวกุนซือคนใหม่ คาดหวังว่าจะสามารถพาไปบอลโลกในปี 2026 ได้สำเร็จ เหตุผลมีดังนี้
1. แพสชั่นและความกระหายเต็มเปี่ยม
ความกระหายของอิชิอิคือการที่ได้คุมทัพทีมชาติไทยสักครั้งหนึ่งในชีวิต หลังจากที่เขาได้บอกลากับต้นสังกัดสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทีมชาติไทยได้แต่งตั้งเขาเป็นผู้อำนวยการเชิงเทคนิคในช่วงศึกชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ แต่ในฤดูกาลนั้นทีมชาติไทยกลับทำผลงานได้น่าประทับใจ โดยการคว้ารองแชมป์ อิชิอิก็รู้สึกว่ายังไม่ได้ทำงานอย่างเต็มที่ จึงได้บอกลาทีมชาติไทยไป ส่งผลให้ มาโน่ โพลกิ้ง ได้รับตำแหน่งต่อไปในรอบฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก 2026

ในช่วงที่เขาลาออกไปนั้น ก็ได้มีหลากหลายสโมสรที่ต้องการตัวเขาไปช่วยคุมทัพ ทั้งสโมสรในประเทศญี่ปุ่นและเวียดนาม แต่อย่างไรก็ตาม ส่วนลึกในใจของอิชิอิ เขามีแพชชั่นที่จะคุมทัพทีมชาติไทยให้ได้สักครั้งหนึ่ง ซึ่งทีมชาติที่เขาจะได้ไปรับช่วงต่อโดยไม่ต้องผ่านรอยต่อใดๆทั้งสิ้น ก็มีเพียงทีมชาติไทยที่เขาอยู่มาอย่างยาวนาน ผู้ที่รู้จักเบื้องหลังทีมเป็นอย่างดีที่สุด
ปัจจุบันเขาอายุ 56 ปีและมีประสบการณ์การเป็นโค้ชมาอย่างโชกโชน ทั้งยังประสบความสำเร็จในหลายๆสโมสรที่เขาเคยคุมทัพอีกด้วย เพราะฉะนั้นการมาคุมทัพทีมชาติไทย จะช่วยปลุกไฟในตัวเขาขึ้นมาและได้รับประสบการณ์แปลกใหม่ และนั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมถึงต้องเป็นเขาเท่านั้น
2.ความสำเร็จที่จับต้องได้
“มาซาตาดะ อิชิอิ” เข้ามาคุมทัพสมุทรปราการซิตี้ในปี 2019 ได้ทำการเปลี่ยนแปลงโฉมทั้งสโมสรจากทีมที่เคยเป็นทีมชั้นล่างจนกลายมาเป็นทีมชั้นกลางค่อนล่างที่สามารถสู้กับทีมชั้นนำได้อย่างดี และจบในอันดับที่ 6 ของตารางไทยลีก ทั้งยังปั้นนักเตะไทยที่ไม่ได้มีชื่อเสียงมากมาย จนกลายเป็นนักเตะที่มีชื่อเสียงโด่งดังและติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ได้ อย่างเช่น พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี, ปฏิวัติ คำไหม, ศุภนันท์ บุรีรัตน์ รวมถึงเอร์เนสโต อมันเตกี ภูมิภาที่สามารถติดทีมชาติไทยได้เช่นกัน และยังมีนักเตะอีกมากมาย

ผลงานการคุมทัพของอิชิอิ ค่อนข้างยอดเยี่ยมในหลายนัด โดยเขาเคยพาทีมบุกถล่มการท่าเรือ 6-3 ชนะเมืองทอง ยูไนเต็ด 4-2 ชนะแบงค็อก ยูไนเต็ด 3-1 ถล่มชลบุรี 4-0 และยังเคยเอาชนะบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 3-1 มาแล้ว
ในฤดูกาลแรกที่เขาเข้ามาคุมทัพสมุทรปราการซิตี้ เขาสามารถพาทีมยิงได้ทั้งหมด 58 ประตู เป็นรองเพียงบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แถมพา บาร์รอส ทาร์เดลี คว้าดาวซัลโวและ เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ เป็นจอมแอสซิสต์ในยุคของเขา หลังจากนั้นเขาย้ายไปคุมทัพบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดในฤดูกาล 2021-22 และ 2022-23 พาทีมบุรีรัมย์คว้าทุกแชมป์ในประเทศไทย แถมยังเป็นทริปเปิ้ลแชมป์ 2 ปีติดต่อกันอีกด้วย
3.รู้จักนักเตะไทยเป็นอย่างดีที่สุด
เขาเข้ามาอยู่ในวงการไทยลีกจากการคุมทัพสมุทรปราการซิตี้ตั้งแต่ปี 2019 จนถึงปัจจุบันอยู่ไทยมานานถึง 4 ปี ทั้งยังรู้จักกับนักเตะคนไทยมากมาย แถมยังปั้นมาแล้วหลายคน ซึ่งช่วงที่เขาได้คุมทัพทีมชาติไทยก็ได้วิเคราะห์เกมและฝึกซ้อมหลายอย่าง และยังสามารถดึงศักยภาพของนักเตะออกมาได้ดีที่สุด หากบอกชื่อเขาไปในวงการฟุตบอลก็คงไม่มีใครไม่รู้จักอย่างแน่นอน และการที่เขาเข้ามาคุมทัพทีมชาติไทยครั้งนี้ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาเรียนรู้ศักยภาพของนักเตะมากมาย
4.มาตรฐานระดับเอเชีย
โค้ชที่จะพาทีมชาติไทยขึ้นไปอยู่ในเลเวลระดับเอเชีย ด้วยความที่เขาเคยทำงานร่วมกับทีมงานระดับเอเชียมาแล้ว และยังรู้จักรูปแบบการเล่นในเจลีกและหลายประเทศ แถมยังเคยพาทีมในเจลีกไปแข่งกับสโมสรยักษ์ใหญ่อย่างเรอัล มาดริดมาแล้ว นั่นทำให้อิชิอิเป็นเหตุผลตัวเลือกแรกๆที่มาดามแป้งเลือกเขา
สามารถติดตามข่าวสารวงการลูกหนัง ต่อได้ที่เว็บไซต์ KUBET World ให้คุณอัพเดทข่าวสารวงการฟุตบอลแบบเรียลไทม์ โปรแกรมบอล วิเคราะห์บอลแบบจัดเต็ม ประวัตินักเตะที่คุณไม่เคยทราบ พร้อมรับชมถ่ายทอดสดฟุตบอลทุกแมตช์จนจบฤดูกาล เพียงเป็นสมาชิกเคยูเบท ลุ้นเกมเดิมพันสุดมันส์และรับสิทธิประโยชน์อีกมากมาย สมัครเลย!