เรื่องราวของโค้ชผู้ใช้ความเงียบสงบเข้าสู้ แต่มอบความจริงใจ ความมั่นใจ ความชัดเจนให้แก่ลูกทีมทุกคน เสมือนเป็นพ่อคนที่สอง ที่ให้คำแนะนำถึงวิธีการเล่น แทนการชี้นิ้วออกคำสั่ง ใช้ประโยชน์จากจุดแข็งและกำจัดจุดอ่อนได้อย่างมืออาชีพ จนสามารถปั้นแข้งดาวรุ่งไปอยู่ระดับเวิล์ดคลาสได้สำเร็จ เรื่องราวการบริหารจัดการที่น่าสนใจของเขาจะเป็นอย่างไร? ติดตามอ่านต่อได้ที่เว็บไซต์ KUBET
หลักสูตรปราบเด็กดื้อให้เป็นแข้งระดับเวิล์ดคลาส โดย อ.คาร์โล อันเชล็อตติ
เนื้อหาต่อจากพาร์ทสอง ที่เล่าถึงวิธีการรับมือกับลูกทีม ความเป็นกันเองที่พร้อมรับฟังปัญหาอย่างเต็มใจ และให้คำปรึกษาแก่ลูกทีมได้ทุกเรื่องจนเสมือนเป็นพ่อคนที่สอง ความเข้าอกเข้าใจ เข้าถึงลูกทีมของ “คาร์โล อันเชล็อตติ” ทำให้เขาถูกยกย่องว่าเป็นโค้ชที่แตกต่างจากคนอื่นๆ

ด้วยความที่ภาพลักษณ์ของ “อันเชล็อตติ” เป็นตาแก่ใจดี สไตล์ชิลๆ แต่กลับชี้แนะได้อย่างเด็ดขาดชัดเจน ไม่ว่าเขาจะแนะนำอะไร ลูกทีมก็เชื่อฟังเขาไปสะหมด รวมถึงดาวรุ่งแข้งดังที่เขาปั้นมากับมืออย่าง จูด เบลลิงแฮม, โรดริโก และ วีนีซุส จูเนียร์ ที่เคยมีปัญหาก่อนหน้านี้ แต่เมื่อพบอันเช่กลับกลายเป็นเพชรเม็ดงาม ที่เขาสามารถดึงศักยภาพทั้งสามออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม
จูด เบลลิงแฮม

“จูด เบลลิงแฮม” ย้ายมาจาก ดอร์ทมุนด์ ซัมเมอร์ปีที่แล้ว ด้วยค่าตัวแตะร้อยล้านปอนด์ กับเด็กที่เพิ่งอายุ 20 ปี ทั้งราคาและค่าตัวขนาดนี้มีความกดดันตามมาเสมอ แต่ทว่าสิ่งที่อันเชล็อตติทำนั่นคือ การสร้างพื้นที่ใหม่ให้กับจูด เพราะเขาเล็งเห็นศักยภาพทั้งฝีเท้าและความถนัดในตัวของเด็กคนนี้ เขาจึงหาระบบการเล่นที่เหมาะสมกับเขามากที่สุด
ซึ่งในก่อนหน้านั้น จูด เติบโตขึ้นมาเป็นมิดฟิลด์บ็อกซ์ทูบ็อกซ์ แต่พอมาในซีซั่นนี้ขยับขึ้นมาเป็นเพลย์เมกเกอร์ระดับสูงเบอร์ 10 ที่ทำหน้าที่เหมือนกับนักลอบสังหารที่อยู่ในพื้นที่ที่ถูกต้อง
จูดยังบอกอีกว่า “อันเชล็อตติ มอบความอิสระให้แก่ผม เมื่อคุณได้อิสระและการบอกกล่าววิธีการที่ชัดเจน มันทำให้งานของคุณสนุกมากยิ่งขึ้น” ส่วนอันเชล็อตตินั้นได้ออกมาพูดถึงเรื่องที่ยกระดับจูดเป็นเบอร์ 10 เช่นกันว่า เขาค่อนข้างมั่นใจในแง่ความคิดความอ่านในการตัดสินใจของตัวจูด เบลลิงแฮม เพราะเขารู้ว่าตนเองต้องทำอะไรในจังหวะสุดท้าย

ซึ่งการที่เอานักเตะเข้าใกล้กับพื้นที่ที่อันตรายที่สุด คุณจะได้นักเตะที่สามารถชี้เป็นชี้ตายให้กับผลการแข่งขันของทีมได้ และเขาก็มั่นใจตรงนั้นว่าจูดทำได้ นอกจากนี้แม้จูดจะอายุเพียง 20 ปี แต่เขากลับเล่นได้เหมือนนักเตะวัย 30 ปี ทั้งคาแรกเตอร์ บุคลิกภาพของเขานั้นเหมาะสมกับเบอร์ 10 อย่างมากที่สุด เพราะเขานั้นมักจะปรากฏตัวในช่วงสำคัญของเกมเสมอ เขารู้ว่าต้องทำอะไรเมื่ออยู่ในสถานการณ์นั้น และนี่คือคุณสมบัติที่ตามหาในนักเตะวัยนี้ไม่ได้อีกแล้ว
ติดตามข่าวสารฟุตบอล โปรแกรมบอล วิเคราะห์บอลและประวัตินักเตะที่คุณไม่เคยทราบ ได้ที่เว็บไซต์ KUBET
โรดริโก

ในส่วนของ “โรดริโก” ก่อนหน้าที่จะย้ายมาอยู่กับอันเชล็อตตินั้น เขาเป็นเพียงเด็กดาวรุ่งที่ไม่สามารถพบจุดเด่นของตัวเองได้ เล่นได้ทุกตำแหน่ง แต่เมื่อเขามาอยู่กับอันเชล็อตติ สิ่งที่เขาได้รับเพิ่มขึ้นมาคือ ความคมในการจบสกอร์ และบางครั้งก็ขยับขึ้นไปยืนเป็นเบอร์ 9 ซึ่งภาพรวมชัดเจนมากขึ้น หลังเข้าซีซั่น 2023-24 นี้ เมื่อเบนเซมาอำลาถิ่น ทำให้โรดริโกได้ขยับขึ้นมาเป็นแถวหน้าอย่างเบอร์ 9 ซึ่งเจ้าตัวยังบอกเลยว่า
“อันเชล็อตติ คือส่วนสำคัญในเรื่องนี้ ผมยอมรับเลยว่า อันเช่สนับสนุนผมมาตลอด แม้ผมจะบอกเสมอว่าผมไม่ชอบเล่นตำแหน่งเบอร์ 9 แต่อันเช่ก็มักจะมีวิธีการโน้มน้าวคุณเสมอ มันยากที่ถูกเปลี่ยนตำแหน่งกะทันหัน แต่ถ้าอันเช่คิดว่าผมทำได้ ผมก็จะเชื่อใจเขา 100% ผมพร้อมที่จะทำในสิ่งที่เขาบอก เพราะมันจะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่ๆ”
โรดริโก กล่าว
ติดตามข่าวสารฟุตบอล โปรแกรมบอล วิเคราะห์บอลและประวัตินักเตะที่คุณไม่เคยทราบ ได้ที่เว็บไซต์ KUBET
วีนีซุส จูเนียร์

สุดท้าย ในส่วนของ “วีนีซุส จูเนียร์” กว่าที่เขาจะสามารถโผล่เหนือน้ำขึ้นมาได้ ก็ถูกวิจารณ์มาอย่างหนักหน่วง แม้ในตอนที่เขามีประเด็นกับเบนเซมา ที่เขาบอกไม่ต้องจ่ายบอลให้กับวีนีซุส เพราะเขาเลี้ยงบอลเยอะเกินไป เล่นไม่เข้าระบบต่างๆ แต่พอมาเจอกับอันเชล็อตติ
วีนีซุสเติบโตขึ้นจากเดิมทั้งความคิด ความสามารถและวิธีการเล่น ซึ่งสิ่งที่กุนซืออย่างเขาต้องการไม่ใช่การตำหนิหรือต่อว่าเขาแต่อย่างใด แต่เป็นการเลือกใช้คำพูดว่า ‘อยากให้เขานั้นเลือกยิงประตูเร็วขึ้นหนึ่งจังหวะ และสัมผัสบอลให้น้อยลงเวลาอยู่ในกรอบเขตโทษคู่แข่ง’

อย่างที่บอกไปข้างต้น เกี่ยวกับจุดเด่นวิธีการสื่อสารของอันเชล็อตตินั้น เป็นเพียงคำบอกกล่าว ให้คำแนะนำหาทางออก ไม่ใช่คำสั่งเหมือนกุนซือคนอื่นๆ ที่สำคัญเขาโน้มน้าวใจลูกทีมให้เชื่อมั่นในสถานการณ์ของตนเองว่า เป็นนักเตะคนสำคัญของทีม เพียงแค่ต้องเล่นให้มั่นใจมากขึ้น มั่นใจในการจ่าย มั่นใจในการยิง เหมือนกับที่เขานั้นมั่นใจในการเลี้ยงบอลของเขานั่นเอง
ติดตามข่าวสารฟุตบอล โปรแกรมบอล วิเคราะห์บอลและประวัตินักเตะที่คุณไม่เคยทราบ ได้ที่เว็บไซต์ KUBET
บทส่งท้าย “คาร์โล อันเชล็อตติ”
อันเชล็อตติมีวาทศิลป์ในการเข้าหานักเตะอย่างยอดเยี่ยม การใช้คำพูดที่น่าฟัง สามารถสร้างผลลัพธ์ที่น่าประทับใจได้ ระหว่างทางไม่มีกระทบแตกหัก แต่ปลายทางคือนักเตะเล่นในแบบที่เป็นประโยชน์ให้กับทีมได้
อย่างไรก็ตาม เรอัลมาดริด ถือว่าอยู่ในช่วงเปลี่ยนถ่ายรุ่นใหม่เช่นเดียวกัน เพราะเขานั้นสูญเสียนักเตะดาวรุ่งไปหลายคน ทั้ง คาริม เบนเซมา, คาเซมิโร่, โทนี่ โครส, ลูกา มอดริชก็ไม่สามารถเล่นได้ทุกสัปดาห์แล้ว กลับกลายเป็นเด็กดาวรุ่งรุ่นใหม่นี่แหละ ที่ต้องก้าวขึ้นมาเป็นกระดูกสันหลังใหม่ให้กับทีม

ไม่เพียงแค่ จูด เบลลิงแฮม, โรดริโก หรือ วีนีซุส แต่พวกเขายังมีนักเตะฝีเท้าดีคนอื่นๆอีกอย่าง เฟเดริโก วัลเวเด, โอเรเลียง ชัวเมนี, เอดัวร์โด กามาวีงกา นักเตะเหล่านี้ที่กล่าวไปเป็นผู้เล่นตัวหลักทั้งหมดที่ขยับขึ้นมาแถวหน้าได้อย่างแนบเนียนในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ ในตอนนี้เรอัลมาดริดกลายเป็นทีมที่เต็มไปด้วยนักเตะรุ่นใหม่ที่มีพลังหนุ่มร้อนแรง โดยมีกุนซือวัยเก๋ามากประสบการณ์คอยประคับประคองอย่างกลมกล่อมและลงตัวสุดๆ
ทั้งหมดนี้ก็ต้องยกความดีความชอบให้แก่กุนซือใหญ่แห่งราชันชุดขาวอย่าง อันเชล็อตติ ที่สามารถเข้าถึงนักเตะทุกคนได้อย่างสบายใจ ชี้จุดอ่อนของแต่ละคนได้แบบละมุนละม่อม เป็นคำแนะนำสะมากกว่าคำสั่ง แล้วดึงเอาจุดแข็งของแต่ละคนออกมาใช้ประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่าที่สุด
รวมถึงยังมอบความไว้วางใจให้กับบรรดากลุ่มเด็กดาวรุ่ง เพื่อการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็คือการบริหารจัดการของสุดยอดโค้ชที่มีเกียรติยศมากมาย แต่ยังคงทิ้งภาพลักษณ์ความสบายๆ เรียบง่าย ทว่าอัดแน่นไปด้วยความชัดเจนและความเอาใจใส่ในตัวบุคลากรทั้งหมด
สามารถติดตามอ่านข้อมูลข่าวสารฟุตบอลอื่นๆ ผ่านทางเว็บไซต์ KUBET World ให้คุณอัพเดทข่าวสารวงการฟุตบอลแบบเรียลไทม์ โปรแกรมบอล วิเคราะห์บอลแบบจัดเต็ม ประวัตินักเตะที่คุณไม่เคยทราบ พร้อมรับชมถ่ายทอดสดฟุตบอลทุกแมตช์จนจบฤดูกาล เพียงเป็นสมาชิกเคยูเบท ลุ้นเกมเดิมพันสุดมันส์และรับสิทธิประโยชน์อีกมากมาย สมัครเลย!