เปิด 10 สนามบอลที่ดีที่สุดในบริเตน จะมีสนามไหนบ้างที่ได้รับการอันดับให้เป็นสนามที่ดีที่สุดโดยวัดจากบรรยากาศของการแข่งขันและเสียงเชียร์ของผู้เข้าชม จะเป็นสนามไหนบ้างก็ตามมาดูได้เลยครับ KUBET ได้รวบรวมมาให้คุณแล้ว
10 สนามฟุตบอลที่ดีที่สุดใน บริเตน
ด้านนิตยสารฟุตบอลชื่อดังของต่างประเทศ ได้จัดอันดับ 10 สนามฟุตบอลที่ดีที่สุดในสหราชอาณาจักร (อังกฤษ ,สกอตแลนด์, เวลส์ และ ไอร์แลนด์เหนือ) โดยสนามที่ยอดเยี่ยมจะพิจารณาจากบรรยากาศของสังเวียนการแข่งขันเป็นอันดับต้นๆรวมทั้งเรื่องเสียงเชียร์และความคึกคักของแฟนๆที่เข้ามาดูการแข่งขันจะเป็นสนามของสโมสรไหนกันบ้าง ตามมาดูกันได้เลยครับ
1.) ไอบร็อกซ์ (เรนเจอร์ส)
มาอันที่อันดับหนึ่งกันเลยกับสนาม ไอบร็อกซ์ (Rangers Football Club) ของสโมสรฟุตบอลอาชีพของสกอตแลนด์ อย่าง “กลาสโกว์เรนเจอร์ส” ที่ตั้งอยู่ในเมืองกลาสโกว์ ซึ่งเล่นในพรีเมียร์ชิปของสกอตแลนด์ แม้ว่าชื่อสโมสรจะยังไม่ใช่ชื่ออย่างเป็นทางการก็ตามแต่ก็มักเรียกกันว่ากลาสโกว์เรนเจอร์ส นอกสกอตแลนด์อยู่ดี สโมสรฟุตบอลแห่งนี้เป็นที่เก่าแก่ที่สุดเป็นอันดับสี่ในสกอตแลนด์อีกด้วย
สโมสรเรนเจอร์ส ก่อตั้งขึ้นโดยเด็กวัยรุ่นสี่คนขณะที่พวกเขาเดินผ่านสวนสาธารณะเวสต์เอนด์ (ปัจจุบันคือสวนสาธารณะเคลวินโกรฟ) ในปี 1872 ซึ่งพวกเขาได้หารือเกี่ยวกับแนวคิดในการก่อตั้งสโมสรฟุตบอลและได้ทำการสร้างมาจนถึงปัจจุบัน สนามกีฬาไอบร็อกซ์ ซึ่งเป็นสนามเหย้าของเรนเจอร์ส ออกแบบโดยสถาปนิก “ อาร์ชิบัลด์ ลีตช์” และเปิดให้ใช้ในปี 1929 ซึ่งเป็นสนามฟุตบอลที่ใหญ่เป็นอันดับสามในสกอตแลนด์
เรนเจอร์ส ได้รับการยอมรับให้เป็นสมาชิกของลีกฟุตบอลในสกอตแลนด์ และอยู่ในดิวิชั่นที่ 4 จากนั้นเรนเจอร์สได้รับการเลื่อนชั้นสามครั้งในรอบสี่ปี โดยกลับไปสู่พรีเมียร์ชิป เมื่อเริ่มฤดูกาล 2016–17 เรนเจอร์สกลายเป็นสโมสรเดียวในสกอตแลนด์ที่ได้รับถ้วยรางวัลในประเทศทุกรายการ ในปี 2020–21 แถมเรนเจอร์สคว้าแชมป์สกอตแลนด์พรีเมียร์ชิป ซึ่งเป็นแชมป์สกอตแลนด์ครั้งแรกในรอบสิบปี อีกด้วย – BY KUBET
2.) เซลติก พาร์ค (เซลติก)
เซลติก พาร์ค เป็นสนามฟุตบอล ซึ่งปัจจุบันเป็นสนามเหย้าของทีมฟุตบอลเซลติกในพรีเมียร์ลีกสกอตแลนด์ ในพื้นที่พาร์คเฮดของเมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ ด้วยความจุของสนามคือ 60,832 ที่นั่ง จึงเป็นสนามฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดในสกอตแลนด์ และเป็นสนามกีฬาที่ใหญ่เป็นอันดับแปดในสหราชอาณาจักร ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกที่มีชื่อว่า “ Duncan and Kerr” โดยคนในเมืองนั้นส่วนใหญ่จะเรียกสนามแห่งนี้ว่าพาร์คเฮด หรือ พาราไดซ์ อีกด้วย
เซลติกมีฐานะการเงินย่ำแย่ในช่วงต้นปี 1990 และไม่มีการจัดการแข่งขันใดๆ จนกระทั่งเฟอร์กัส แม็กคานน์ ได้เข้าควบคุมสโมสรในเดือนมีนาคม 1994 เขาได้ทำการพัฒนาสนามกีฬาแห่งนี้ขึ้น โดยจะค่อยๆสร้างใหม่แล้วเสร็จในเดือนสิงหาคม 1998 ส่วนของที่นั่งได้รับการติดตั้งในปี 2016 ที่ผ่านมา และทำให้บรรยากาศในสนามกลับมาคึกคักได้อีกครั้ง
3.) แอนฟิลด์ (ลิเวอร์พูล)
แอนฟิลด์ เป็นสนามฟุตบอลในเขตแอนฟิลด์ เมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ ซึ่งจุที่นั่งได้ทั้งหมด 61,276 ที่นั่ง ทำให้ที่นี่เป็นสนามฟุตบอลที่ใหญ่เป็นอันดับห้าในอังกฤษ ที่นี่เป็นสนามเหย้าของสโมสรลิเวอร์พูลนับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 1892 เดิมที เป็นสนามเหย้าของสโมสรเอฟเวอร์ตันในปี 1884 ถึง 1891 ก่อนที่เอฟเวอร์ตันจะย้ายไปที่กูดิสันพาร์คหลังจากมีปัญหานิดหน่อยกับประธานสโมสร และก็กลายมาเป็นรังของหงส์แดงนับตั้งแต่นั้นมา
แอนฟิลด์ มีจำนวนผู้เข้าชมสูงสุดเป็นประวัติการณ์คือ 61,905 ตน ซึ่งมันเกิดขึ้นในเกมการแข่งขันระหว่างลิเวอร์พูลและวูล์ฟแฮมป์ตันในปี 1952 สนามฟุตบอลแห่งนี้ได้รับการรองรับจากสหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรปให้เป็นสนามในระดับ 4 ดาว ซึ่งทำให้แอนฟิลด์สามารถจัดการแข่งขันฟุตบอลระดับชาติหรือรายการแข่งขันใหญ่ๆได้ รวมถึงการจัดการแข่งขันของทีมชาติอังกฤษได้อีกด้วย โดยในปี 2014 ได้มีการขยายอัฒจันทร์ขึ้นเพื่อเพิ่มความจุให้มากขึ้น
4.) คราเวน คอทเทจ (ฟูแล่ม)
คราเวน คอทเทจ เป็นสนามฟุตบอลในเมืองฟูแล่ม ลอนดอนตะวันตก ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นสนามเหย้าของทีมฟูแล่มมาตั้งแต่ปี 1896 ความจุของสนามคือ 22,384 คน สถิติการเข้าชมที่เยอะที่สุดของสนามนี้คือ 49,335 คน โดยเป็นการแข่งขันที่เจอกันในเกมที่พบกับมิลล์วอลล์ในปี 1938 ซึ่งสนามบอลแห่งนี้มีที่ตั้งถัดจากสวนสาธารณะบิชอปริมฝั่งแม่น้ำเทมส์ อีกด้วย ปกติเดิมทีสนามฟุตบอลแห่งนี้เคยเป็นที่พักล่าสัตว์
โดยที่พักล่าสัตว์นี้เป็นของราชวงศ์และที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 300 ปี สนามกีฬานี้ยังถูกใช้งานโดยสหรัฐอเมริกา, ออสเตรเลีย, ไอร์แลนด์, และทีมชาติชายของแคนาดา และเคยเป็นสนามเหย้าของสโมสรรักบี้ลีก ฟูแล่มอาร์แอลเอฟซี อีกด้วยก่อนที่จะมาเป็นรังของฟูแล่มในปัจจุบันนี้ – BY KUBET
5.) โอลด์ แทรฟฟอร์ด (แมนฯ ยูไนเต็ด)
โอลด์ แทรฟฟอร์ด เป็นสนามฟุตบอลในโอลด์แทรฟฟอร์ด แห่งประเทศอังกฤษ และเป็นสนามเหย้าของสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด โดยมีความจุทั้งหมด 74,310 ที่นั่งจึงเป็นสนามฟุตบอลของสโมสรที่ใหญ่ที่สุดและสนามฟุตบอลที่ใหญ่เป็นอันดับสองที่รองมาจากสนามกีฬาเวมบลีย์ ในสหราชอาณาจักร และใหญ่เป็นอันดับ 12 ในยุโรป ซึ่งอยู่ห่างจากสนามคริกเก็ตโอลด์ แทรฟฟอร์ด ประมาณ 800 ม. และอยู่ติดกับสถานีรถไฟ
โอลด์แทรฟฟอร์ด มีอีกชื่อหนึ่งว่า “โรงละครแห่งความฝัน” ตั้งชื่อโดยบ็อบบี้ ชาร์ลตัน ถือเป็นสนามเหย้าของยูไนเต็ดมาตั้งแต่ปี 1910 แม้ว่าสโมสรจะใช้ถนนเมนโร้ดร่วมกับคู่แข่งในท้องถิ่นอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในช่วงปี 1941 ถึง 1949 เป็นผลมาจากความเสียหายจากการระเบิดในสงครามโลกครั้งที่ 2 นั่นเอง โอลด์แทรฟฟอร์ดได้รับการขยายหรือต่อเติมที่นั่งอยู่หลายครั้งในช่วงปี 1990 และ 2000
รวมไปถึงการเพิ่มที่นั่งให้กับอัฒจันทร์ทางทิศเหนือ ทิศตะวันตก และทิศตะวันออกซึ่งสนามนี้จากมีความจุเดิมที่ 80,000 ที่นั่ง การขยายที่นั่งในอนาคตมีแนวโน้มเพิ่มตรงชั้นที่สองของอัฒจันทร์ทางทิศใต้ ทำให้มีความจุเพิ่มขึ้นเป็น 88,000 ที่นั่งอีกด้วย สถิติการเข้าชมสนามแห่งนี้ที่มีคนดูมากที่สุดอยู่ในปี 1939 มีผู้ชมถึง 76,962 คน จากการแข่งขันศึกเอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศระหว่างวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส และ กริมสบีทาวน์
จบไปแล้วสำหรับ 5 สนามบอลที่ดีที่สุดในบริเตน แต่ยังไม่สุดนะครับยังเหลืออีก 5 สนาม จะเป็นรังเหย้าของสโมสรใดบ้างต้องตามมาดูกันต่อที่ EP.2 ได้เลยนะครับ ส่วนใครที่ตอนนี้กำลังอยากดูกรแข่งขันบอลสดอยู่ไม่ว่าจะเป็นลีกไทย หรือต่างประเทศ ก็สามารถเข้ามาดูได้ที่ KUBET ได้เลยนะครับ