สวัสดีครับ ยังอยู่กับเส้นทางฟุตบอลจอมถล่มอย่างเจเรมี่ ฟริมปง โดยวันนี้พวกเราKUBET จะพาทุกคนไปต่อกับเนื้อหาเจเรมี่ จอมถล่มแห่งเลเวอร์คูเซ่น Part1 ใครที่ไม่อยากพลาด ไม่อยากงงที่อ่านพาร์ทสอง ลองไปอ่านพาร์ทแรกกันก่อนได้นะครับ เรื่องราวชีวิตบนเส้นทางนักเตะของเขาจะเป็นอย่างไรบ้าง เจเรมี่มีที่มาที่ไปจะเป็นอย่างไร ตามมากันเลยครับ
เส้นทางนักเตะของเจเรมี่สู่เรือใบสีฟ้า
ในปี 2010 เจเรมี่ได้เข้าแข่งขันรายการระดับเยาวชนที่ถูกจัดขึ้นที่เมืองแมนเชสเตอร์ ด้วยฟอร์มที่ยอดเยี่ยมในทัวร์นาเมนต์นั้น ทำให้เขาถูกทาบทามโดยแมวมองของแมนเชสเตอร์ซิตี้ ให้เข้าสู่ระบบเยาวชนของทีมในวัยเพียงเก้าขวบ แต่ช่วงแรกเจเรมี่มักจะมีปัญหากับการเข้าสังคม เขาขี้อายเกินกว่าจะพูดกับใครได้นาน นำมาซึ่งฟอร์มการเล่นที่มีปัญหา
แต่สุดท้ายก็ยังเป็นคนในครอบครัวที่คอยชี้แนะให้เขาอยู่ตลอด โดยเฉพาะพี่ชายอย่างที่อยู่ข้างเขาเสมอ ก่อนที่เขาจะงัดความมั่นใจขึ้นมาและโชว์ศักยภาพอย่างต่อเนื่องในระดับจูเนียร์ และเขาก็ไม่เคยที่จะหยุดพัฒนาตัวเองแม้แต่ครั้งเดียว จนเวลาล่วงเลยผ่านไปเมื่อเขาอายุ15 ปี ก็ถูกดันขึ้นสู่ทีมฟุตบอลU18 ในฤดูกาล 2016-17 ในช่วงเดียวกับที่ทีมตอนนั้นมีดาวรุ่งตัวท็อปอย่างฟิล โฟเด้น และ เจเดน ซานโซ่ อยู่ด้วย ซึ่งเจเรมี่ก็ไม่ได้รู้สึกกดดันแต่อย่างใด เขายังคงทำประตูได้มากมาย และก้าวขึ้นสู่ทีมสำรองของแมนฯซิตี้ได้สำเร็จ
อย่างที่เรารู้กันดีอยู่แล้วว่าการที่จะก้าวขึ้นไปเล่นให้กับแมนฯซิตี้ในยุคของเปป กวาร์ดิโอลา ที่นับเวลาเดียวกันทีมก็มีแบ็กขวาระดับตำนานอย่างไคล์ วอล์กเกอร์ ยืนขวางอยู่แล้วเต็มๆ ถึงแม้เขาจะอยู่ในสายตาเปปบ้าง แต่มันก็เป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขายังไม่ดีพอสำหรับแมนฯซิตี้ชุดใหญ่ในตอนนั้น และเขาก็ได้รับคำแนะนำจากพี่ชายว่า “นักฟุตบอลที่สมบูรณ์แบบก็จำเป็นต้องได้เล่นชุดใหญ่” สุดท้ายก็ถึงเวลาที่เขาต้องจากไปเพื่ออาชีพที่มั่นคงของเขาเอง
KUBET การที่ฟอร์มของนักเตะมีขึ้นมีลงแอดเห็นได้ในหลายๆคนเลย และนักเตะที่ฟอร์มดีอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลานานก็มีได้หลายคนเช่นกัน บางทีก็อาจจะขึ้นอยู่กับทีมด้วย ต่อให้ฟอร์มดีขนาดไหน แต่ถ้าไม่มีโอกาสได้ลงเตะ ก็ไม่ได้โชว์ฝีเท้า ไม่ได้โชว์ศักยภาพให้ทีมอื่นเห็นอยู่ดี “ยืนให้ถูกที่ จะมีค่าเอง” ประโยคนี้ยังจริงเสมอครับ
แจ้งเกิดที่สก็อตแลนด์
เจเรมี่ในวัย 18 ปีได้ตัดสินใจย้ายไปร่วมกับ เซลติก ทีมยักษ์ใหญ่แห่งลีกสก็อตแลนด์ด้วยราคาเพียง 350,000 ปอนด์ ในช่วงซัมเมอร์ฤดูกาล 2019-20 พร้อมสวมเสื้อหมายเลข 30 ให้กับทีม และเพียงเกมแรกที่เขาลงเล่นในเกมลีก คัพ ที่พบกับแพททริค ทิสเทล ในเดือนกันยายนปี 2019 เขาได้รับแมนออฟเดอะแมตช์ทันที หลังช่วยให้ทีมชนะไปได้ 5-0 ก่อนจะแทรกตัวเองขึ้นเป็นตัวจริงได้ในเวลานั้น
จากนั้นก็ได้ประเดิมสนามยุโรปครั้งแรกในรายการยูฟ่ายูโรปาลีก ในเกมกับเอฟซี โคเปนเฮเกน สุดท้ายเขาก็จบฤดูกาลด้วยผลงาน2ประตู กับอีก4แอสซิสต์ จาก 24 เกมทุกรายการ ในบทบาททั้งแบ็ก วิงแบ็ก และตัวริมเส้น พร้อมคว้ารางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมของสโมสร จากการโหวตของแฟนบอลในเดือนมิถุนายน 2020 อีกด้วย
ซึ่งฤดูกาลนั้นฤดูกาลเดียวก็เพียงพอ ที่จะทำให้เขากลายเป็นเป้าสนใจของไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ทีมพี่ใหญ่จากเยอรมัน ที่พร้อมคว้าเขาไปปั้นต่อทันที เส้นทางในโลกฟุตบอลของเจเรมี่ยังไม่จบเพียงเท่านี้ ชีวิตอาชีพนักบอลจะเป็นอย่างไร และเขามาถึงจุดที่เป็นจอมถล่มของเลเวอร์คูเซ่นได้อย่างไร ติดตามเนื้อหาเพิ่มเติมกันได้ต่อที่ พาร์ทที่สาม กันได้เลยครับ
KUBET – เว็บไซต์ให้คำปรึกษาข่าวฟุตบอล ข้อมูลฟุตบอลอัพเดทแบบเรียลไทม์ ช่วยให้คุณเรียนรู้เกมฟุตบอลล่าสุดและครอบคลุมที่สุด คะแนนฟุตบอล ลีกฟุตบอล สโมสรฟุตบอล และข้อมูลฟุตบอลโลก รวมถึงข้อมูลอื่นๆที่คุณอยากรู้ เช่นประวัติความเป็นมาของสโมสร หรือที่มาที่ไปของโลโก้แต่ละสโมสร โดยไม่ต้องออกจากบ้าน