KUBET FOOTBALL กับเรื่องราวของนักฟุตบอลผู้จงรักภักดี ที่สังกัดอยู่ในทีมเดิม พร้อมลงเล่นมาแล้วเป็นร้อยๆ แมตซ์ รวมถึงสร้างสกอร์ให้ทีมอย่างมหาศาล และไม่ว่าจะได้รับข้อเสนอใดเกี่ยวกับค่าเหนื่อยที่มหาศาลของเขา เขาก็บอกปัดไปทุกครั้ง เนื่องจากทั้งของเขามีให้เลสเตอร์คนเดียว “เจมี่ วาร์ดี้” จิ้งจอกกองหน้า แชมป์ลีกคนสุดท้ายของเลสเตอร์ที่ยังเหลืออยู่
“เจมี่ วาร์ดี้”
"อย่ามองข้ามอัญมณี เพียงเพราะว่ามันอยู่ในบรรจุภัณฑ์ ไม่สวยงาม" เจมี่ วาร์ดี้
นี่คือคำพูดที่ตราตรึงอยู่ในใจของคนฟังเสมอมา คำพูดของนักฟุตบอลอาชีพชาวอังกฤษ ที่ปัจจุบันเล่นอยู่ในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าให้กับสโมสรเลสเตอร์ซิตี้ และทีมชาติอังกฤษ ความสามารถของเขาที่ไม่ได้มีเพียงแค่ครองพื้นที่กองหน้าเท่านั้น เจมี่ยังสามารถเล่นในตำแหน่งปีกได้อีกด้วย
จากนักเตะสมัครเล่นนอกลีก สู่นักเตะผู้คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ จุดเริ่มต้นของเจมี่ เขาเป็นแค่นักฟุตบอลสมัครเล่นทั่วไป เขาเติบโตในประเทศอังกฤษ ประเทศที่มีเรื่องราวของฟุตบอลอยู่รอบตัวเขา หากจะถามว่าแวดวงฟุตบอลของเขาอยู่ระดับไหนของวงการ ก็แทบจะไม่ติดอยู่ในรายชื่อทีมฟุตบอลท้องถิ่นด้วยซ้ำ แน่นอนว่าพรีเมียร์ลีกเป็นลีกสูงสุดของวงการฟุตบอลในประเทศ รองลงมาก็เป็นระดับภูมิภาค และท้องถิ่น ก่อนจะเป็นการเล่นบอลทั่วไปกับเพื่อนฝูง หมู่บ้านเสียมากกว่า และนั่นเอง คือชีวิตนักฟุตบอลเขาที่อยู่ล่างสุดของห่วงโซ่วงการฟุตบอล
หลายครั้งที่เขาเปิดเผยว่าอยากจะล้มเลิกแล้วหันไปหางานทำเพื่อเลี้ยงชีพต่อ ทว่าความฝันที่ถูกละเลยก็ไม่อาจสลัดทิ้งได้ เจมี่เลือกที่จะเดินทางเข้าไปคัดตัวตามศูนย์ฝึกฟุตบอลที่มีชื่อเสียงเพราะกับทำงานไปด้วยในเวลาเดียวกัน เขาใช้เวลา 8-10 ชั่วโมงในการทำงานต่อวัน เวลาที่เหลือก็ใช้ในการฝึกซ้อมฟุตบอลด้วยตัวเอง เขาทำอยู่แบบนี้มาเรื่อยๆ จนกระทั่งโอกาสมาถึง
ในปี 2007 เขาได้รับการติดต่อจากทีมฟุตบอลเล็กๆอย่าง สต็อกส์บริดจ์พาร์กสตีลส์ และนี่เองก็คือจุดเริ่มต้นที่บอกเขาว่า เขามาถูกทางแล้ว
"จริงๆ แล้วนักเตะนอกลีกก็ไม่ใช่คนที่ไม่มีฝีเท้าอะไรขนาดนั้น เพียงแค่บางคนไม่ได้รับโอกาส" Steve Walsh อดีตแมวมอง สโมสรเลสเตอร์ซิตี้
(ติดตามข่าวสารการเคลื่อนไหวของวงการฟุตบอลได้ทางเว็บไซต์ KUBET)
มีนักเตะอีกหลายคนที่เติบโตมาจากเกมนอกลีก และสามารถเข้าร่วมกับสโมสรดังในลีกได้ เส้นทางของเจมี่ทำให้มุมมองของนักเตะนอกลีกเปลี่ยนไป จากที่ไม่กล้าฝันที่จะก้าวเข้าสู่ลีกใหญ่ พวกเขาก็ได้จุดประกายความฝันขึ้นใหม่อีกครั้ง ว่าความฝันเหล่านั้นสามารถเป็นจริงได้อย่างแน่นอน
พรีเมียร์ลีกเคยทำซีรี่ย์เรื่อง The Jamie Vardy Story a Fairy Tale COME True เรื่องราวเกี่ยวกับนักเตะนอกลีกที่สามารถก้าวขึ้นมาสู่พรีเมียร์ลีกได้ ซีรี่ย์ถูกปล่อยให้รับชมหลังจากในยุคที่เจมี่โด่งดัง นั่นทำให้ทุกคนให้ความสำคัญกับพื้นที่นอกลีกมากขึ้น และเชื่อในคำพูดที่ว่าพื้นที่เหล่านั้น มีนักเตะที่มีพรสวรรค์ซ่อนอยู่ อาจจะไม่ใช่สุดยอดนักเตะแต่สิ่งที่พวกเขามีมากกว่านักเตะดาวรุ่งในสโมสรใหญ่ๆ คือประสบการณ์ทั้งหมด ทั้งความผิดหวัง การถูกปฏิเสธ ความเจ็บปวดจนชินชา ทุกคนลงความเห็นกันว่าเกมฟุตบอลนอกลีกเป็นเกมของลูกผู้ชาย
"ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด หลังจากเจมี่ วาร์ดี้ ประสบความสำเร็จ แน่นอนว่าทีมในลีกใหญ่ๆไม่ได้ส่งแมวมองมาดูนักเตะจากนอกลีก แต่สิ่งที่ตามมาคือพวกเขาจะใช้ฐานข้อมูลของนักเตะระดับล่างเพิ่มมากขึ้น พวกเขาต้องการเช็คฟอร์มของนักเตะระดับล่างมากขึ้น นั่นทำให้การค้นหานักฟุตบอลกว้างขึ้นด้วยไม่ว่าจะสนามเล็กใหญ่แค่ไหน " Barry Smith กุนซือ สโมสรAldershot town F.C. (ทีมนอกลีก)
การแจ้งเกิด
ในปี 2010 เขาได้รับคำเชิญจาก เอฟซีแฮลิแฟกซ์ทาวน์ ผู้เล่นในตำแหน่งกองหน้าลงเล่นทั้งหมด 37 นัด ทำสกอร์ให้ทีม 26 ลูก ภายในปีเดียว เจมี่ถูกซื้อตัวไปจาก ฟลีตวุดทาวน์ ทีมสโมสรลีกที่ใหญ่ขึ้น เขาทำสถิติให้ทีมทั้งหมดในการลงเล่น 36 นัด 31 ประตู ก่อนจะถูกซื้อตัวภายในปีเดียวกันจาก เลสเตอร์ซิตี้ ในปี 2012 ด้วยราคา 1 ล้านปอนด์ กราฟชีวิตที่พุ่งขึ้นไม่หยุด สู่ยุครุ่งเรืองจองเจมี่ร่างทอง
ในปี 2015 -2016 กับตำแหน่งดาวซัลโวของทีมด้วยผลงาน 24 ประตูในลีก และในศึกที่เลสเตอร์เจอกับนิวคาสเซิลยูไนเต็ด เขาพาทีมชนะไปด้วยสกอร์ 3 ประตูต่อ 0 พร้อมทำลายสถิติการยิงประตูติดต่อกันในลีกเป็นนัดที่ 10 เทียบเท่า รุด ฟา นิสเตลรอย อดีตกองหน้าตัวเป้าของแมนยูที่เคยทำไว้ในปี 2003 ซึ่งการชนะครั้งนี้ทำให้เลสเตอร์ขึ้นมาอยู่อันดับ 1 บนหัวตารางพรีเมียร์ลีกอีกด้วย
(ติดตามข่าวสารการเคลื่อนไหวของวงการฟุตบอลได้ทางเว็บไซต์ KUBET)
กองหน้าฟอร์มโหดของเลสเตอร์ จิ้งจอกผู้ปราดเปรียว นำทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จในปี 2015 แน่นอนว่าผลงานของเขาสร้างชื่อและเนื้อหอมสุดๆ หลายทีมยักษ์ใหญ่ในพรีเมียร์ลีกต้องการตัวเขาโดยเฉพาะอาร์เซนอล แม้ว่าเจ้าตัวยังไม่หมดสัญญา และอาร์เซนอลก็เสนอค่าฉีกสัญญาให้เรียบร้อยเสร็จสับ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจอวาร์ดี้แล้วในตอนนั้น
ในขณะที่เพื่อนๆในชุดนั้นของเขาทยอยย้ายกันออกไปทีมใหม่กันเพียบ และอาร์เซนอลเป็นทีมที่ใหญ่กว่าเลสเตอร์รวมถึงค่าเหนื่อยมหาศาล และหนทางแห่งความยิ่งใหญ่ก็รอเขาอยู่ ทว่าเลสเตอร์เองก็ไม่อยากจะเสียมือดีของเขาไปเช่นกัน นั่นทำให้เลสเตอร์เสนอสัญญาใหม่ให้กับวาร์ดี้ ด้วยจำนวนเงินพอๆกัน นั่นทำให้วาร์ดีปฏิเสธอาร์เซนอล และเลือกที่จะอยู่เลสเตอร์ต่อไป
เขาเลือกที่จะอยู่กับทีมที่เชื่อมั่นในตัวเขา และให้โอกาสเขาได้พิสูจน์ตัวตน วาร์ดี้มีความสนิทสนมกับ คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา เจ้าของสโมสรเป็นอย่างมาก เพราะเขาคือคนที่ตัดสินใจซื้อตัววาร์ดี้เข้าร่วมทีม ทว่าในปี 2018 คุณวิชัยก็ได้เสียชีวิตลงจากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก วาร์ดี้คือหนึ่งในนักเตะที่เสียน้ำตาให้กับเหตุการณ์ครั้งนี้ จนถึงตอนนี้นักเตะระดับท็อปของทีมในรุ่นของวาร์ดี้ได้ย้ายออกไปหมดแล้ว แต่เขาก็เลือกที่จะอยู่กับเลสเตอร์ต่อไป
และนี่ก็คือเรื่องราวของนักเตะผู้จงรักภักดีต่อเลสเตอร์ ดูเหมือนว่าจะไม่มีวี่แววที่จะเลิกแสดงความซื่อสัตย์ต่อทีมที่เคยให้โอกาสเขาอีกเลย สามารถติดตามข่าวการเคลื่อนไหวของวงการฟุตบอลได้ทางเว็บไซต์ KUBET เว็บไซต์ที่อัปเดตข่าวสารของวงการฟุตบอลอันดับหนึ่งของประเทศไทย