นับว่าในปี2024นี้ กระแสทีมเลเวอร์คูเซ่นเป็นทีมที่ร้อนแรงเลยทีเดียว เพราะพวกเขาสามารถครองอันดับหนึ่งในตารางลีกบุนเดสลีกาได้โดยไม่แพ้ใครเลย วันนี้KUBETจะพาทุกคนไปย้อนรอยว่าครั้งหนึ่งพวกเขาเคยเข้าใกล้ถ้วยแชมป์แบบไม่ไกลเกินเอื้อม แต่เกิดอะไร ทำไมพวกเขาเอื้อมไม่ถึง ไปหาคำตอบพร้อมกันเลยครับ
ไบเออร์เลเวอร์คูเซ่นคือแชมป์บุนเดสลีกาประจำฤดูกาล 2023-2024 ด้วยเส้นทางอันน่ามหัศจรรย์ พวกเขารันยาวมาตั้งแต่เริ่มฤดูกาลด้วยการไม่แพ้ใครเก็บชัยชนะ 25 เกม เสมอ5 ในลีก และมีโอกาสที่จะเป็นแบบนี้ไปจนจบฤดูกาล หลังเพิ่งโกงความตาย ไล่ตีเสมอดอร์ทมุนด์ ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 8 ในเกมล่าสุด กลายเป็นเจ้าของฉายา “เลเวอร์ผู้ไม่แพ้” ไปแล้ว แต่กว่าจะมีวันนี้พวกเขาต้องรอคอยความสำเร็จมานานกว่า 31 ปี
ย้อนรอยเลเวอร์คูเซ่นเข้าใกล้แชมป์
หลังจากคว้าแชมป์ล่าสุดต้องย้อนไปไกลถึงฤดูกาล 1992-1993 ในศึกเดเอฟเบ โพคาล ที่พวกเขาเอาชนะแฮร์ธ่า เบอร์ลินไป1-0 จากนั้นพวกเขาก็กลายเป็นทีมกลางตารางเสมอมาก่อนที่จะเริ่มดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วงปลายยุค90 ตอนช่วงต้น 2000 ในยุคคาบเกี่ยวระหว่างคริสตอฟ ดอม, รูดี้ โฟลเลอร์, แบร์ตี้ โฟกต์สและเคล้าส์ ท็อปป์โมลเลอร์ที่กำลังทำทีมในตอนนั้น
หนึ่งฤดูกาลที่ถูกพูดถึงอย่างมากในซีซั่น 2001-2002 ที่ทัพห้างขายยาเข้าใกล้แชมป์มากที่สุด และไม่ใช่แค่เพียงรายการเดียวเท่านั้น แต่ยังมากถึง3 และซีซั่น นั่นมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง ทำไมพวกเขาถึงกลายเป็นพระรองในทุกถ้วยที่ลงเล่น
ไบเออร์เลเวอร์คูเซ่นจบซีซั่นสอง ในปี 2000-2001 ด้วยอันดับ4 มีแต้มตามทีมแชมป์อย่างบาเยิร์น 6 คะแนน ซึ่งถือว่าตกลงจากซีซั่นก่อนหน้านี้ที่เป็นรองแชมป์ทำให้พวกเขาเริ่มต้นฤดูกาล 2001-2002 ด้วยการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีมจากแบร์ตี้ โฟกต์ส ที่คุมทีมชั่วคราวในซีซั่นก่อนหน้านั้นเป็นเคล้าส์ ท็อปป์โมลเลอร์ กุนซือมากประสบการณ์ที่ตกงานมาก่อนหน้านั้นหนึ่งปี หลังแยกทางกับซาร์บรุคเค่นในปี 2000
KUBET มาดูกันว่าเมื่อเลเวอร์คูเซ่นเปลี่ยนกุนซือแล้วจะมีผลต่อทีมได้มากน้อยขนาดไหน
ปล่อยนักเตะออกไปสองคน
เลเวอร์คูเซ่นไม่ได้ปล่อยตัวสำคัญไปมาก นอกเหนือจากปราการหลังโรเบิร์ต โควัช ที่เลือกไปเซ็นกับบาเยิร์นมิวนิค และปล่อยนายทวารมือหนึ่งชาวโปแลนด์อย่างอดัมกลับบ้านเกิด โดยพวกเขาเลือกไปเซ็นนายทวารคุณภาพอย่างฮันส์ ยอร์ก บุทท์ ที่มีทีเด็ดในการยิงจุดโทษมาจากทัพสิงห์เหนือฮัมบูร์ก ซึ่งมีดีกรีเป็นถึงนายทวารทีมชาติในเวลานั้น
อีกหนึ่งรายที่ถือว่าเป็นการเซ็นสัญญาแห่งฤดูกาลนั่นคือการไปเซ็นเอาจอมทัพทีมชาติตุรกีตัวจี๊ดอย่างยิลดิราย บาสเติร์กมาจากโบคุ่ม ซึ่งถือว่าเป็นแข้งหนุ่มที่ได้รับการจับตามองอย่างมากบนเวทีบุนเดสลีกาตอนนั้นผนวกกับแข้งคุณภาพที่มีอยู่เดิม ท็อปป์โมลเลอร์เปลี่ยนแปลงทั้งระบบเกือบทุกเกม นำมาซึ่งจำนวนนาทีของนักเตะในโซนนี้ที่อยู่ใกล้กันเกิน 4000 นาทีทั้งฤดูกาลอยู่หลายคน ส่งผลให้ทีมมีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก
รองรับเกมจำนวนมากที่จะมาถึง
ซีซั่นนั้นไบเออร์เลเวอร์คูเซ่นต้องลงเล่นมากถึง 60 เกมจาก 4 รายการ พวกเขาเริ่มต้นบุนเดสลีกาฤดูนั้นได้อย่างร้อนแรง เก็บชัยชนะ 11 เกมจาก 14 เกมแรกในลีก นำจ่าฝูงทิ้งห่างบาเยิร์นมิวนิคถึง 4 คะแนน ส่วนในเวทีแชมเปียนส์ลีกหลังจากจบอันดับ 4 ซีซั่นก่อน ทำให้พวกเขาต้องไปเตะเพลย์ออฟ แล้วก็เป็นฝ่ายเอาชนะ เร้ด สตาร์ เบลเกรด ด้วยสกอร์รวม 3-0
เลเวอร์คูเซ่นผ่านเข้าสู่รอบแบ่งกลุ่มรอบแรกที่พวกเขาเข้ามาอยู่ในกลุ่มเอฟ ในกลุ่มที่มีคู่แข่งแข็งๆ อย่างบาร์เซโลนาและโอลิมปิก ลียงอยู่ด้วย แต่พวกเขาก็ทำช็อก เมื่อเก็บชัยชนะ 3 นัดรวด ใน 3 เกมแรกไปอย่างสวยงาม ก่อนจะผ่านเข้าสู่รอบแบ่งกลุ่มรอบสองต่อไป
เกิดอะไรขึ้นกับเลเวอร์คูเซ่น
พวกเขาเกิดฟอร์มตกขึ้นมากะทันหัน เมื่อนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2001 มาจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2002 เลเวอร์คูเซ่นชนะเพียง 2 เกมจาก 7 นัด แถม 5 นัดเหล่านั้นยังเป็นการแพ้ทุกเกมอีกด้วย ทำให้อันดับตกลงมาอยู่อันดับที่สอง โดยมีดอร์ทมุนด์ที่นำเป็นจ่าฝูง เลเวอร์คูเซ่นไร้พ่ายใน 9 ลีกนัดหลังจากนั้น โดยชนะ 7 เสมอ 2 และกลับมาเป็นจ่าฝูงในช่วงสัปดาห์ที่ 31 เก็บไป 66 แต้ม
แต่พวกเขาดันมาสะดุดแพ้ให้กับเบรเมน 1-2 คาบ้าน ก่อนจะบุกไปแพ้เนิร์นแบร์ก 0-1 ในนัดที่ 33 ทำให้สถานการณ์หลังจบนัดรองสุดท้ายเป็นดอร์ทมุนด์ที่แซงกลับขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงอยู่ 67 แต้ม ทิ้งเลเวอร์คูเซ่นเพียงแต้มเดียว นัดนั้นเพียงแค่ชนะเบนเมนก็เป็นแชมป์ทันที โดยห้างขายยาต้องชนะสถานเดียวและลุ้นให้เบรเมนแพ้หรือเสมอเท่านั้น
เกมที่ 34 ทุกคู่แข่งพร้อมกัน ช่วงเวลานั้นพวกเขาได้เปรียบสุดๆ เพราะแต้มเรียลไทม์ มันกลายเป็นเลเวอร์คูเซ่นนำ 69 คะแนน ส่วนดอร์ทมุนด์ อยู่ที่ 67 แต้มเท่าเดิม จากนั้นดอร์ทมุนด์กลับมาตีเสมอ แต่พวกเขาก็อุ่นใจว่าพวกเขาไม่แพ้แน่นอน หลังจากนั้น 23 นาทีต่อมาเอแวร์ตอนก็ยิงให้ดอร์ทมุนด์แซงนำ 2-1 แต้มตอนนั้นกลายเป็นดอร์ทมุนด์ที่มี 70 คะแนน พวกเขาไม่สามารถทำอะไรด้วยตัวเองได้มากกว่านี้อีกแล้ว ดอร์ทมุนด์รักษาสกอร์นั้นไปจนจบเกม พวกเขาพลาดแชมป์บุนเดสลีกาครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสรไปเป็นที่เรียบร้อย
เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไปติดตามได้ใน พาร์ทที่สองเลยครับ
KUBET – เว็บไซต์ให้คำปรึกษาข่าวฟุตบอล ข้อมูลฟุตบอลอัปเดตแบบเรียลไทม์ ช่วยให้คุณเรียนรู้เกมฟุตบอลล่าสุดและครอบคลุมที่สุด คะแนนฟุตบอล ลีกฟุตบอล สโมสรฟุตบอล และข้อมูลฟุตบอลโลก รวมถึงข้อมูลอื่นๆที่คุณอยากรู้ เช่นประวัติความเป็นมาของสโมสร หรือที่มาที่ไปของโลโก้แต่ละสโมสร โดยไม่ต้องออกจากบ้าน