นี่คือโศกนาฏกรรมที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งของโลกฟุตบอล มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 23 ราย และ 8 รายคือนักฟุตบอลของทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เรื่องราวนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร เกิดอะไรขึ้นบ้างกับเหตุการณ์นี้ KUBET จะพาไปย้อนรอยของโศกนาฏกรรมอันน่าเศร้านี้ครับ
ย้อนรอยโศกนาฏกรรมมิวนิก
กลุ่มนักฟุตบอลได้ออกเดินทางจากบ้าน จากครอบครัวเพื่อไปแข่งขันและสร้างผลงานเพื่อที่จะให้คนที่เขารักภาคภูมิใจ แต่ใครจะคิดว่าการเดินทางครั้งนั้น จะเป็นการเดินทางครั้งสุดท้ายไปตลอดกาลของทั้ง 23 ราย
หลายคนคงทราบกันดีว่าโศกนาฏกรรมมิวนิก คือหนึ่งในการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดและวงการฟุตบอล พวกเขาต้องเสียนักเตะฝีเท้าดีไปมากมายอย่างน่าสลดใจจากเหตุการณ์ครั้งนี้
ย้อนกลับไปในยุค 50’s แมนยูกำลังสร้างทีมด้วยขุมกำลังอันยอดเยี่ยม หนึ่งในนั้นมีแฮร์รี่ เกร็ก นายด่านสถิติ ที่ตอนนั้นค่าตัวแพงที่สุดในโลก ซึ่งทีมชุดนี้มีค่าเฉลี่ยอายุเพียง 21-22 ปีเท่านั้น และแมตต์ บัสบี คือผู้ที่ดูแลทีมในตอนนั้น จนเปลี่ยนสถานะทัพปีศาจแดงจากทีมกลางตารางไปสู่แชมป์ลีกสูงสุด ได้ถึง 3 ครั้งในช่วงนั้น
แมนยูภายใต้การนำทีมของแมตต์ บัสบี พวกเขามุ่งไปที่ถ้วยยูโรเปี้ยนคัพในช่วง 1957-1958 พวกเขาทำฟอร์มการเล่นเป็นทีมได้ดีมาก ก่อนที่จะจับฉลากมาพบกับสโมสรดังจากยูโกสลาเวีย อย่างทีมเลสทาเบลเกตในรอบ8ทีมสุดท้าย พวกเขาต้องการเข้ารอบชิงชนะเลิศให้ได้ จึงวางแผนนำนักเตะฝีเท้าดีเดินทางไปยังยูโกสลาเวีย
ในยุคนั้นหลายๆอย่างไม่ได้มีการซัพพอร์ตทีมที่เดินทางไปต่างประเทศเท่าไหร่ และตอนนั้นFA ไม่เห็นด้วยที่ทีมจากอังกฤษจะเดินไปต่างประเทศไกลๆเพื่อที่จะแข่งขัน เขามองว่าแข่งภายในประเทศก็พอแล้ว แม้แต่เชลซีที่เคยได้แชมป์ลีกสูงสุดก็เคยโดนแบนห้ามไปแข่งยูโรเปี้ยนส์คัพมาแล้ว แต่บัสบี ยอมงัดกับ FA เพื่อพาทีมแมนยูไปแข่งในรายการนี้เพื่อวัดฝีเท้ากับทีมในยุโรป
เมื่อถึงวันแข่งทางทีมแมนยูได้เช่าเครื่องบินเหมาลำด้วยสายการบินบริติสยูโรเปี้ยนแอร์เวย์เพื่อมุ่งหน้าจากแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดไปสู่เบลเกต ผู้โดยสารเครื่องบินลำนี้ประกอบไปด้วยนักเตะ สตาฟโค้ช นักข่าวและแฟนบอลรวมแล้วทั้งหมด 39 คน และเมื่อเดินทางถึงแข่งขันเสร็จสิ้น สรุปแมนยูได้ผ่านเข้ารอบเป็นไปตามที่แมตต์บัสบีวางแผนเอาไว้
ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องเข้าใจรูปแบบในสมัยก่อนด้วย เพราะไม่เหมือนกับสมัยนี้ แค่เทคโนโลยีก็กินขาดแล้ว ทีมKUBET ทราบมาอีกว่าในสมัยก่อน หากทีมไหนเดินทางไปไม่ทันวันแข่งจะต้องถูกตัดแต้ม ดังนั้นกัปตันและทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องอยากที่จะชนะ ต้องวางแผนการเดินทางไปทันและไม่กระชั้นชิดจนเกินไป
หลังจากที่จบการแข่งขันที่สโลวาเกียจบลง พวกเขาต้องเดินทางกลับอังกฤษและเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเหน็บ เครื่องบินจำเป็นที่จะต้องแวะพักเครื่องเพื่อเติมเชื้อเพลิงที่มิวนิก ประเทศเยอรมันเป็นเวลา1ชั่วโมง หลังจากที่เติมเชื้อเพลิงและละลายน้ำแข็งบนปีกเครื่องบินเสร็จทุกคนก็กลับขึ้นเครื่อง โดยขากลับนั้นมีสมาชิกเพิ่มขึ้นในเครื่องบินลำนี้อีก5คน รวมเป็น 44 คน
ในขณะที่ทุกคนใช้ชีวิตกันอย่างสนุกสนานระหว่างเครื่องกำลังเทคออฟ กัปตันได้พบความผิดปกติ เครื่องบินมีอาการกระตุก กัปตันก็ได้สั่งยกเลิกการเอาเครื่องขึ้นเพราะคิดว่ามันเสี่ยงเกินไป และบอกให้ทุกคนลงไปพักด้านล่าง หลังจากที่นำเครื่องตรวจเช็ค วิศวกรได้แนะนำให้ยกเลิกเที่ยวบินนี้ แต่กัปตันปฏิเสธเนื่องจากเวลาของนักเตะจะกระชั้นชิดในการแข่งรอบต่อไปเกินไป
หลังจากที่ให้ทุกคนลงเครื่องแค่ 15 นาที ก็เรียกกลับขึ้นมา บรรยากาศทั้งหมดดูเปลี่ยนไปจากรอบแรกเพราะการที่เทคออฟไม่สำเร็จสองครั้งนั้น เป็นอะไรที่เสี่ยงมากๆ แต่ทำได้แค่เพียงเชื่อมั่นในตัวกัปตันเท่านั้น ขณะที่กำลังนำเครื่องเทคออฟอีกรอบ กลับกลายเป็นว่ายิ่งเร่ง ความเร็วยิ่งลดลง กัปตันเทนจึงตัดสินใจหยุดเครื่องอย่างเร่งด่วน ทำให้ส่วนท้องของเครื่องไถลบนรันเวย์ เครื่องเกิดอาการส่าย สุดท้ายชนรั้วสนามบินและบ้านคนเข้าอย่างจัง
ส่งผลให้นักเตะที่นักส่วนท้ายเรือเสียชีวิตคาที่ แมตต์ บัสบี ที่นั่งส่วนกลางลำกระเด็นออกมา บาดเจ็บสาหัส เมื่อสถานการณ์คลี่คลาย ผู้บาดเจ็บถูกส่งไปยังโรงพยาบาล บางคนมีบาดแผลเล็กน้อย บางคนพิการ บางคนเข้าขั้นโคม่า ทันทีที่ FA ทราบข่าวได้เลื่อนการแข่งขันของทีมแมนยูออกไปไม่มีสิ้นสุด
หลังจากผ่านไป 3 เดือน บัสบีได้กลับมาสร้างทีมขึ้นมาใหม่และได้คว้าแชมป์ยุโรปสมัยแรกของสโมสร ในปี 1967-1968 พูดง่ายๆก็คือหลังจบโศกนาฏกรรมที่มิวนิกมาแล้ว 10 ปี และเหตุการณ์นี้ได้ผ่านมานานแล้วกว่า 65 ปีแล้ว แต่เหตุการณ์นี้ก็ได้เป็นเครื่องเตือนใจ ได้เรียนรู้จากข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น สุดท้ายนี้ ทีมงาน KUBET ต้องขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ในครั้งนั้นด้วยครับ
KUBET เว็บไซต์ให้คำปรึกษาข่าวฟุตบอล ข้อมูลฟุตบอลอัพเดทแบบเรียลไทม์ ช่วยให้คุณเรียนรู้เกมฟุตบอลล่าสุดและครอบคลุมที่สุด คะแนนฟุตบอล ลีกฟุตบอล สโมสรฟุตบอล และข้อมูลฟุตบอลโลกโดยไม่ต้องออกจากบ้าน