KUBET พาย้อนประวัติศาสตร์ของสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ผู้สร้างตำนานและเจ้าของสถิติแชมป์สูงสุดในไทยลีก กว่าจะมาถึงจุดสูงสุดนี้พวกเขาต้องเผชิญอะไรมาบ้าง ตามไปดูผลงานของพวกเขากันเลย
ประวัติสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
จุดเริ่มต้นจากสโมสรฟุตบอลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
สโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในอดีตมีชื่อเดิมว่า สโมสรบุรีรัมย์PEA เป็นสโมสรที่เปลี่ยนแปลงมาจากสโมสรฟุตบอลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2513 โดยดร.วีระ ปิตรชาติ มีเป้าหมายเพียงแค่เพื่อให้พนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ออกกำลังกายและสร้างความสามัคคีกันในหมู่คณะ

ต่อมาในปีพ.ศ. 2535 สโมสรได้เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลอย่างเป็นทางการครั้งแรกในศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานประเภท ง. โดยลงเล่นเพียง 3 ฤดูกาลก็ได้เลื่อนชั้นไปเล่นฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานประเภท ข. และได้เล่นเพียง 2 ฤดูกาลเท่านั้น ก็ได้เลื่อนชั้นไปเล่นในดิวิชั่น 1 ได้สำเร็จและอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาไม่กี่ปี
หลังจากการลงเล่นในดิวิชั่น 1 อยู่นาน สโมสรการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (บุรีรัมย์) ก็ได้เข้าสู่รอบลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกสำเร็จ ด้วยการคว้าตำแหน่งรองแชมป์ ดิวิชั่น 1 ฤดูกาล 2547 คะแนนรวม 44 แต้ม แข่งขันทั้งหมด 22 นัด ชนะ13 แพ้4 เสมอ5 และได้เล่นในไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก (ไทยลีก) เป็นครั้งแรกในฤดูกาล 2548
โดยตั้งแต่ฤดูกาลแรกในลีกสูงสุด สโมสรก็ได้สร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมมากมาย เมื่อได้ตำแหน่งรองแชมป์ และ ‘ศุภกิจ จินะใจ’ กองหน้าทีมก็คว้าตำแหน่งดาวซัลโว พร้อมกับ ‘ศรายุทธ ชัยคำดี’ กองหน้าของทีมการท่าเรือ โดยยิงประตูทั้งสิ้น 10 ประตู และยังได้สิทธิ์ลงเล่น AFC Champions league เป็นครั้งแรกในฤดูกาล 2549 ร่วมกับสโมสรฟุตบอลยาสูบอีกด้วย แต่เนื่องจากทางสโมสรส่งรายชื่อนักเตะไม่ทัน ทำให้เป็นที่น่าเสียดาย ทั้งสองสโมสรถูกตัดสิทธิ์และพลาดโอกาสลงเล่นในระดับทวีปไป
(ติดตามข่าวสารฟุตบอล โปรแกรมบอล วิเคราะห์บอลและประวัตินักเตะที่คุณไม่เคยทราบ ได้ที่เว็บไซต์ KUBET)
ฤดูกาล 2551
ในฤดูกาลนี้สโมสรสามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกไทยแลนด์ได้สำเร็จครั้งแรก ภายใต้การคุมทัพของ ‘ประพล พงษ์พาณิชย์’ และยังได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขัน AFC Champions league รอบคัดเลือกในฤดูกาล 2552 แต่สุดท้ายสโมสรก็ตกรอบคัดเลือกไป ทำให้ไม่สามารถเข้าไปเล่นในรอบแบ่งกลุ่มได้และยังมีผลงานในลีกไม่ค่อยดีนัก ทางสโมสรจึงเปลี่ยนผู้จัดการทีมในเดือนพฤษภาคม 2552 เป็น ‘ทองสุข สัมปหังสิต’ อดีตผู้จัดการทีมชาติไทยชุดแชมป์ซีเกมส์ที่โคราช
“เนวิน ชิดชอบ” ผู้ริเริ่มเปลี่ยนแปลงสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

ต่อมา ‘เนวิน ชิดชอบ’ นักการเมืองจังหวัดบุรีรัมย์ต้องการซื้อหุ้นฟุตบอลในไทยพรีเมียร์ลีกให้ย้ายไปเล่นในนามจังหวัดบุรีรัมย์เป็นการชั่วคราว ในขณะเดียวกันนั้นก็สร้างทีมฟุตบอลใหม่อีกทีม ไต่อันดับจากดิวิชั่นต่ำสุด และก่อนหน้านั้นก็ได้เจรจากับสโมสรฟุตบอลตำรวจ แต่ก็ได้รับการปฏิเสธ และยังได้เจรจากับสโมสรฟุตบอลทีโอทีและสโมสรฟุตบอลทหารบก แต่ทั้งสองตกลงกันไม่ได้ จนในที่สุดก็ได้ซื้อหุ้นส่วนของสโมสรฟุตบอลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งมีผลงานจบในอันดับที่ 9 ในฤดูกาล 2552
ทางสโมสรจึงได้ตกลงย้ายสนามการแข่งขันจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยาไปที่จังหวัดบุรีรัมย์ หลังจากนั้นสโมสรฟุตบอลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จึงได้เปลี่ยนแปลงชื่อเป็น สโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ PEA พร้อมกับเปลี่ยนแปลงผู้บริหารยกเซ็ตใหม่ทั้งหมด รวมถึงทีมผู้ฝึกสอนบางส่วนด้วย
(ติดตามข่าวสารฟุตบอล โปรแกรมบอล วิเคราะห์บอลและประวัตินักเตะที่คุณไม่เคยทราบ ได้ที่เว็บไซต์ KUBET)
ฤดูกาล 2553-2554

การเข้ามาของผู้ถือหุ้นรายใหญ่สโมสรบุรีรัมย์ PEA ส่งผลให้มีการปรับปรุงและพัฒนาทีมอย่างมากมาย ทั้งยังปรับเปลี่ยนระบบการบริหารสโมสรฟุตบอลอาชีพเข้ามาใช้กับบริษัท เช่น การทำสัญญาว่าจ้างนักเตะ การเจรจา และการทำสัญญาซื้อขายนักเตะด้วยสัญญามาตรฐาน
รวมถึงการสร้างสนามฟุตบอลแห่งใหม่ตามมาตรฐานของ บริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด เพื่อจัดตั้งสนามเหย้าและจัดการระบบบัญชีการเงิน การตลาด กฎหมาย การโฆษณา รวมถึงการประชาสัมพันธ์แบบเต็มรูปแบบเพื่อสร้างค่าความนิยมให้แก่ทีมสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ PEA
และผลที่ได้จากการปรับปรุงระบบทั้งหมดอย่างจริงจัง ภายใต้นโยบายของ ‘นายเนวิน ชิดชอบ’ ประธานสโมสรคนใหม่ ทำให้บุรีรัมย์ PEA เป็นทีมที่ได้รับความนิยมสูงสุดในไทยพรีเมียร์ลีกอย่างรวดเร็ว
ทั้งยังมีผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิก หรือ เป็นแฟนคลับมากถึง 65,000 คน และมีผู้เข้าชมเกมการแข่งขันนัดละไม่ต่ำกว่า 10,000 คนเมื่อเป็นเจ้าบ้าน และมีแฟนบอลติดตามชมเมื่อเป็นทีมเยือนไม่ต่ำกว่า 1,500 คน อีกทั้งในช่วงนั้นยังเป็นทีมที่สร้างสถิติผู้เข้าชมสูงสุดในไทยพรีเมียร์ลีกและสร้างสถิติจำนวนของที่ระลึกได้ถึง 1.4 ล้านบาทภายในวันเดียว และนัดวันนั้นก็คือวันที่แข่งขันกับสโมสรฟุตบอลเมืองทอง ยูไนเต็ด ช่วงเดือนกันยายน 2553 นั่นเอง โดยชนะไป 1-0 ผู้ที่ทำประตูคือ ดักลาส คาร์โดโซ่

และยังได้ทริปเปิลแชมป์ในฤดูกาลเดียวกัน เมื่อเอาชนะสโมสรฟุตบอลการท่าเรือเอฟซี ไปด้วยสกอร์ 2-0 ที่สนามศุภชลาศัย คว้าแชมป์โตโยต้าลีกคัพ หลังจากได้แชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกและไทยคม เอฟเอคัพไปเรียบร้อยแล้ว โดยถือว่าเป็นทีมฟุตบอลทีมแรกในประวัติศาสตร์ฟุตบอลไทยที่ทำได้สำเร็จ และยังได้แชมป์ที่ 4 ด้วยการเอาชนะทีมเวกัลตะ เซ็นได ไป 4-2 ด้วยการเอาชนะการยิงจุดโทษ ในรายการโตโยต้าพรีเมียร์คัพ

ติดตามอ่าน ประวัติสโมสรบุรีรัมย์ [Part2] ต่อได้ที่เว็บไซต์ KUBET World ให้คุณอัพเดทข่าวสารวงการฟุตบอลแบบเรียลไทม์ โปรแกรมบอล วิเคราะห์บอลแบบจัดเต็ม ประวัตินักเตะที่คุณไม่เคยทราบ พร้อมรับชมถ่ายทอดสดฟุตบอลทุกแมตช์จนจบฤดูกาล เพียงเป็นสมาชิกเคยูเบท ลุ้นเกมเดิมพันสุดมันส์และรับสิทธิประโยชน์อีกมากมาย สมัครเลย!