KUBET พาย้อนประวัติศาสตร์ของสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด [Part2] ผู้สร้างตำนานและเจ้าของสถิติแชมป์สูงสุดในไทยลีก กว่าจะมาถึงจุดสูงสุดนี้พวกเขาต้องเผชิญอะไรมาบ้าง ตามไปดูผลงานของพวกเขาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันกันเลย
ประวัติสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
ฤดูกาล 2555-2557
หลังจากเลือกตั้งสมาชิกผู้แทนราษฎรในประเทศไทย พ.ศ. 2554 ฝ่ายเจ้าของลิขสิทธิ์ของสโมสรเดิม “การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค” ซึ่งเดิมอยู่ในการดูแลของ ‘นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล’ จากพรรคภูมิใจไทย ได้เปลี่ยนมาอยู่การดูแลของ ‘นายยงยุทร วิชัยดิษฐ์’ จากพรรคเพื่อไทย ได้มีนโยบายย้ายสโมสรออกจากจังหวัดบุรีรัมย์ และผลสรุปการเจรจา คือ ฝ่ายเนวิน ชิดชอบจะถ่ายหุ้น 70% ที่ตนถืออยู่ออกไป ทั้งยังแยกทีมการไฟฟ้าออกจากบุรีรัมย์ย้ายไปอยู่จังหวัดอื่น
ส่วนนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ สโมสรบุรีรัมย์ PEA เดิมนั้นจะย้ายไปอยู่กับสโมสรบุรีรัมย์เอฟซีที่ได้แชมป์ดิวิชั่น 1 และเลื่อนชั้นมาเล่นใน Thailand Premier League ฤดูกาล 2555 พร้อมกับการเปลี่ยนชื่อทีมเป็น “บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด” ถือเป็นการรวมพลังบุรีรัมย์นั่นเอง โดยนายเนวิน ชิดชอบยังได้กล่าวว่า
“ในฤดูกาล 2555 สโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะลงเล่นในไทยพรีเมียร์ลีกและเอเอฟซีแชมเปี้ยนส์ลีกด้วยโควตาชนะเลิศฤดูกาล 2554 ของบุรีรัมย์ PEA”
เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2555 เนวินได้เปิดแถลงข่าวว่าเขาได้ซื้อหุ้นอีก 30%ของสโมสรการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมาบริหารจัดการเองทั้งหมด รวมถึงสิทธิ์ทั้งหมดในนามการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จากนั้นจึงเปลี่ยนชื่อทีมเป็น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตามแผนเดิม ส่วนสิทธิ์การเล่นในไทยพรีเมียร์ลีกของบุรีรัมย์เอฟซีนั้นจะโอนให้กับสงขลาเอฟซีของนายนิพนธ์ บุญญามณี และในส่วนการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคนั้น จะไม่มีส่งทีมเข้าแข่งขันรายการฟุตบอลอีกต่อไป
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จบฤดูกาล 2555 ด้วยการคว้าอันดับที่ 4 มาครองและคว้าแชปม์ไทยคมเอฟเอคัพ 2555 ด้วยการเอาชนะอามี่ ยูไนเต็ดไป 2-1 ซึ่งจะได้ตั๋วเข้าไปเล่น AFC Champions League 2013 รอบคัดเลือก และคว้าแชมป์โตโยต้าลีกคัพ 2555 ด้วยการชนะสโมสรฟุตบอลราชบุรีเอฟซี ด้วยสกอร์ 4-1 ซึ่งเป็นดับเบิลแชมป์บอลถ้วย และบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยังสามารถป้องกันแชมป์ทั้งสองรายการได้อีกหนึ่งสมัยอีกด้วย
“บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด” จบอันดับที่ 1 ในไทยพรีเมียร์ลีก 2556 และคว้าแชมป์ไทยคมเอฟเอคัพ 2556 ด้วยการชนะสโมสรฟุตบอลบางกอกกล๊าส 3-1 ซึ่งแน่นอนว่าได้ตั๋วไปเล่น AFC Champions League 2014 รอบแบ่งกลุ่ม และคว้าแชมป์โตโยต้าลีกคัพ 2556 ด้วยการเอาชนะราชบุรีเอฟซี 2-1 ซึ่งก็ได้ดับเบิลแชมป์บอลถ้วยอีกครั้ง และการแข่งขันเอเอฟซีแชมเปี้ยนส์ลีกในครั้งนี้บุรีรัมย์ผ่านเข้ารอบจนถึง 8 ทีมสุดท้าย และพ่ายให้กับเอฟเจ กราวด์ 3-1 โดยนัดแรกแพ้ไป 1-0 นัดที่สองแพ้ 2-1
ในฤดูกาล 2557 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์พระราชทานก.และแชมป์โตโยต้าพรีเมียร์คัพ พร้อมคว้าแชมป์รางวัลชนะเลิศไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก 2557
(ติดตามข่าวสารฟุตบอล โปรแกรมบอล วิเคราะห์บอลและประวัตินักเตะที่คุณไม่เคยทราบ ได้ที่เว็บไซต์ KUBET)
ฤดูกาล 2558 ปีแห่งความสำเร็จ
ในปีนี้ถือเป็นปีทองของทัพปราสาทสายฟ้า “บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด” เมื่อคว้าแชมป์ประดับตู้โชว์ได้ถึง 5 รายการ ถึงแม้ว่าจะตกรอบแบ่งกลุ่มของAFC Champions League ก็ตาม ซึ่งก่อนเริ่มฤดูกาลนี้ปราสาทสายฟ้าได้เสริมทัพนักเตะหลายราย ไม่ว่าจะเป็น นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, กรวิทย์ นามวิเศษ, นฤพล อารมณ์สวะ, โก ซุลกิ, กิลแบรโต มาเชนา, ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต ซึ่งถือว่าเป็นขุมกำลังของทีมในฤดูกาล 2558
เปิดฉากยิ่งใหญ่ฟอร์มร้อนแรงด้วยการคว้าแชมป์แรกถ้วยพระราชทานก.ด้วยการเอาชนะ ’กระต่ายแก้ว’ บางกอกกล๊าสเอฟซี 1-0 โดยเป็นการทำประตูจาก ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต ในนานทีที่ 56 และคว้าแชมป์โตโยต้าลีกคัพสมัยที่ 4 โดยสามารถเอาชนะสโมสรฟุตบอลศรีสะเกษเอฟซี ที่เพิ่งเข้าชิงรายการนี้เป็นครั้งแรก ด้วยสกอร์ 1-0 โดยเป็นการทำประตูจาก โก ซุลกิ ในนาทีที่ 18
บุรีรัมย์ ยูไรเน็ด สานต่อความสำเร็จแชมป์ที่ 3 ในปี 2558 ด้วยการคว้าแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก ซึ่งทำผลงานยอดเยี่ยมโดยไร้พ่ายต่อเนื่อง 34 นัด โดยชนะไป 25 เสมอ 9 ทำประตูทั้งหมด 98 ลูกมากที่สุดในลีก และเสียประตูไปเพียง 24 ประตูนับเป็นจำนวนที่น้อยที่สุดในลีก แถมจบซีซั่นด้วยการมีแต้มมากกว่า ’กิเลนผยอง’ เมืองทองยูไนเต็ด ทีมรองแชมป์ถึง 13 คะแนนเลยทีเดียว ซึ่งการคว้าชัยชนะในครั้งนี้ถือเป็นแชมป์สมัยที่ 3 ติดต่อกันของปราสาทสายฟ้า
อีกทั้ง ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต คว้าดาวซัลโวในฤดูกาลนี้ไม่ครอง หลังโชว์ฟอร์มยิงประตูเหมาไป 33 ประตู ส่วนคู่หูอย่าง กิลแบรโต มาเชนา ทำไป 21 ประตูได้อันดับที่ 3 ขณะเดียวกัน ธีราทร บุญมาทัน แบ็กซ้ายทีมชาติไทยก็ทำแอสซิสต์ไป 19 ครั้งซึ่งสูงสุดในลีกปีนี้อีกด้วย จากนั้นตามมาติดๆกับแขมป์โตโยต้าแม่โขงคัพแชมเปี้ยนส์ชิพ และจบฤดูกาลในปีนี้ด้วยแชมป์ที่ 5 กับ FA Cup 2015 ด้วยการเอาชนะกิเลนผยอง 3-1 และครองแชมป์เป็นสมัยที่ 4 และเป็นถ้วยแชมป์ที่ 5 ในปีนี้
อีกทั้ง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยังกลายเป็นสโมสรแรกจากทวีปเอเชียที่คว้าถ้วยรางวัล 5 ใบสำเร็จในฤดูกาลเดียวอีกด้วย
(ติดตามข่าวสารฟุตบอล โปรแกรมบอล วิเคราะห์บอลและประวัตินักเตะที่คุณไม่เคยทราบ ได้ที่เว็บไซต์ KUBET)
ฤดูกาล 2559 แห่งความตกอับ
หลังจากฤดูกาล 2558 ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมและคว้าแชมป์ได้ถึง 5 รายการ ปราสาทสายฟ้าได้มีการเสริมทัพนักเตะจำนวนมาก เพื่อป้องกัน 5 แชมป์ในฤดูกาลนี้ โดยการเสริมทัพครั้งนี้มีทั้ง อดุล หละโสะ, อังเดร ฟรานซิสโก้ โมริดช์, เอมิเลียโน่ อัลฟาโร่, สถาพร แดงสี, อนันต์ บัวแสง และได้จัดการแข่งขันช้าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อาเซี่ยนทัวร์ 2016 โดยรายได้หลักมอบให้กับการกุศล
นัดแรกไปเยือนกัมพูชาออลสตาร์ ในวันที่ 22 มกราคม 2559 จบเกมด้วยสกอร์ 2-2 ส่งผลให้ต้องดวลจุดโทษกันและกลายเป็นกัมพูชาออลสตาร์ที่ชนะไป 4-3 รวมผลสกอร์เป็น 6-5 แต่สุดท้ายก็พลิกเกมชนะใน 2 นัดสุดท้าย ซึ่งชนะทั้งหมด โดยเปิดบ้านชนะ โพฮัง สตีลเลอส์ ทีมจากเคลีกในประเทศเกาหลีใต้ด้วย 2-1 และบุกไปชนะออลสตาร์ลาว 3-1
จากนั้นได้นักเตะรายใหม่เข้าทีมคือ ไคโอะ ฟิลิปเป้ กอนชาเวช, คิมซึงยอง และเจสลีย์ เฟย์โดซ่า และเตรียมทีมมาได้ 6 เดือน ปราสาทสายฟ้าก็ได้คว้าแชมป์แรกในศึกโตโยต้าพรีเมียร์ลีก 2-1 โดยการเอาชนะ อัลบิเร็กซ์ นีงะตะ จากเจลีก จากลูกเตะมุมของธีราทร บุญมาทัน เปิดให้กับโกซุลกิโหม่งเข้าประตูในนาทีที่ 50 และ นาที่ที่ 79 จากนั้นต่อมาปราสาทสายฟ้าก็สามารถคว้าแชมป์ถ้วยพระราชทานประเภทก.ได้อีกสมัย โดยชนะคู่ปรับที่ยังไม่เคยชนะมาก่อนอย่าง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ไปถึง 3-1
ในส่วนรายการแข่งขัน AFC Champions League รอบแบ่งกลุ่ม ปราสาทสายฟ้าถูกจับในกลุ่ม F ร่วมกับเอฟซีโซล, ซานตง ลู่หนิง, ซานเฟรช ฮิโระชิมะ ผลปรากฏว่าทำผลงานได้ย่ำแย่มากในปีนี้ ไม่ชนะใครเลยสักนัด เสมอ1 แพ้5 ตกรอบแบ่งกลุ่มเพราะมีคะแนนแย่ที่สุดในกลุ่ม และมีสถิติยอดแย่ที่สุดของAFC Champions League ในปีนั้นอีกด้วย
เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2559 “บุรีรัมย์” ได้ขาย ‘เจ้าอุ้ม’ ธีราทร บุญมาทัน ให้กับเมืองทอง ยูไนเต็ด หลังจากที่ก่อนนี้มีข้อเสนอจากหลายทีม หลังจบฤดูกาล 2559 ที่ไม่ค่อยจะสวยหรูในไทยลีกนัก และไม่สามารถเข้าร่วม เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก เป็นครั้งแรกตั้งแต่ฤดูกาล 2553 ส่วนในรายการแข่งขันโตโยต้าลีกคัพ ปราสาทสายฟ้าคว้าแชมป์ร่วมกับเมืองทอง ยูไนเต็ด และตกรอบช้าง เอฟเอคัพ 16 ทีมสุดท้าย เพราะเจอคู่ปรับอย่างเมืองทอง ยูไนเต็ดเช่นกัน
ติดตามอ่าน ประวัติสโมสรบุรีรัมย์ [Part3] ต่อได้ที่เว็บไซต์ KUBET World ให้คุณอัพเดทข่าวสารวงการฟุตบอลแบบเรียลไทม์ โปรแกรมบอล วิเคราะห์บอลแบบจัดเต็ม ประวัตินักเตะที่คุณไม่เคยทราบ พร้อมรับชมถ่ายทอดสดฟุตบอลทุกแมตช์จนจบฤดูกาล เพียงเป็นสมาชิกเคยูเบท ลุ้นเกมเดิมพันสุดมันส์และรับสิทธิประโยชน์อีกมากมาย สมัครเลย!