สวัสดีครับ วันนี้KUBET จะพาย้อนไปดูความล้มเหลวของเชลซีในตอนที่มีกุนซือดีกรีแชมป์โลก หลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่ผู้มีฉายาว่าบิ๊กฟิล์ม เคยถูกแต่งตั้งให้เป็นกุนซือของทีมเชลซีในช่วงซัมเมอร์ปี 2008 แต่เขาก็กลับมีอายุงานในถิ่นแสตมฟอร์ดเพียงช่วงสั้นๆเท่านั้น จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ไปดูกันเลยครับ
พรีเมียร์ลีกคือลีกที่ดึงดูดโค้ชระดับโลกมาทำงานด้วยนับไม่ถ้วน นับตั้งแต่ปี 1992 ที่พรีเมียร์ลีกก่อตั้งจนถึงปัจจุบัน มีกุนซือที่เคยพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกทั้งหมด 11 คน ในจำนวนนั้นหลายคนคือโค้ชที่ถูกยกให้ขึ้นหิ้งของวงการ ไม่ว่าจะเป็นเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน, อาแซนด์ เวนเกอร์, โชเซ มูรินโญ่, คาร์โล อันเชล็อตติ, เปบ กวาร์ดิโอลา และเจอร์เก้น คล็อปป์
แต่ในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีกตลอดเวลากว่า 30 ปีที่ผ่านมา มีกุนซือเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เคยมีเกียรติประวัติคุมทีมคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก แล้วได้โอกาสมาคุมทีมในลีกสูงสุดอังกฤษเขาคือ หลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่ ผู้พาทีมชาติบราซิลคว้าแชมป์โลกได้เป็นครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2002
วัฒนธรรมของเชลซี
ย้อนไปในสมัยที่เชลซีมีโรมัน อับราโมวิช เป็นเจ้าของทีม แฟนบอลคุ้นเคยกับการที่ทีมประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง แม้อาจจะไม่ได้แชมป์พรีเมียร์ลีกทุกปีแต่อย่างน้อยพวกเขาต้องมีลุ้นโทรฟี่สักถ้วย ด้วยมาตรฐานที่จ่ายหนักและความคาดหวังสูงของ เสี่ยหมี ทำให้วัฒนธรรมของเชลซีคือสโมสรที่จะรีบปลดผู้จัดการทีมทันทีที่ผลงานไม่ได้ตามเป้า
แม้ว่ากุนซือท่านนั้นจะเคยพาทีมคว้าแชมป์ แต่หากถึงจุดที่ผลงานไปต่อไม่ได้ มหาเศรษฐีชาวรัสเซียจะรีบตัดสินใจเปลี่ยนตัวกุนซืออย่างรวดเร็ว หากไม่นับผู้จัดการทีมที่ได้สัญญาคุมทีมเชลซีแค่ชั่วคราวอย่างเช่นอัฟราม แกรนด์, กุส ฮิดดิ้ง หรือ ราฟาเอล เบนิเตซ
หลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่
นับว่าหลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่ อดีตเทรนเนอร์ทีมชาติบราซิลชุดแชมป์ฟุตบอลโลกปี 2002 คือกุนซือที่มีอายุงานสั้นที่สุดของเชลซีในยุคที่มีโรมัน อับราโมวิชเป็นเจ้าของสโมสร โค้ชเจ้าของฉายา “บิ๊กฟิล“ และมีชื่อเล่นในบ้านเกิดว่า ”เฟลิเปา“ ได้ทำงานในถิ่นแสตมป์ฟอร์ด บริดจ์ เพียงแค่ 8 เดือนเท่านั้น เมื่อเริ่มงานคุมทีมเชลซีวันที่ 1 กรกฎาคม ปี 2008 ก่อนจะโดนไล่ออกเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ปี 2009 ถือว่าได้ทำงานในรั้วสิงห์บลูเพียง 224 วันเท่านั้น
สถิติอันดับสอง
อันเดร วิลลาช โบอาช กุนซือหนุ่มชาวโปรตุเกสที่เคยพาเอฟซี ปอร์โต้คว้า 3 แชมป์ ในฤดูกาล 2010-2011 แต่โดนปลดกลางอากาศในฤดูกาล 2011-2012 ได้ทำงานให้เชลซีทั้งหมด 257 วัน
สถิติอันดับสาม
กุนซือที่มาแทนโบอาชอย่างโรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ แม้จะพาทีมคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ และยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้ในปี 2012 แต่เมื่อผลงานในลีกฤดูกาลถัดมาย่ำแย่ก็โดนปลดออกหลังจากนั้นอย่างรวดเร็ว รวมเวลาทำงานให้กับสิงห์บลู เพียง 263 วัน
ย้อนกลับไปหลังจากจบฤดูกาล 2007-2008 เชลซีต้องการมองหายอดโค้ชโปรไฟล์สูงเข้ามาทำงาน หลังจากที่ไว้ใจโค้ชโนเนมชาวอิสราเอลแล้วคว้าน้ำเหลว เขาได้พาทีมคว้าทริปเปิ้ลรองแชมป์ทั้งพรีเมียร์ลีก, คาร์ลิ่ง คัพ และยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก การได้รองแชมป์ลีกโดยมีลุ้นจนถึงนัดสุดท้าย และเข้าชิงฟุตบอลรายการสำคัญอีกสองรายการ อาจเป็นมาตรฐานที่รับได้สำหรับทีมอื่น แต่ไม่ใช่กับโรมัน อับราโมวิช
เหตุผลที่เลือกหลุยส์ เฟลิเป้
ตัวเลือกที่เสี่ยหมีเล็งไว้นอกจากหลุยส์ เฟลิเป้ ที่กำลังเตรียมคุมทีมชาติโปรตุเกสลุยศึกยูโร 2008 ยังมีชื่อของแฟรงค์ ไรการ์จ ที่เพิ่งตกงานจากบาร์เซโลนาและโรแบร์โต้ มันชินี่ ที่เพิ่งแยกทางกับอินเตอร์มิลาน สุดท้ายอับราโมวิชได้ตัดสินใจเลือกหลุยส์ เฟลิเป้ โดยเขามองว่าการที่กุนซือรายนี้พาทีมชาติบราซิลที่ผลงานย่ำแย่ในรอบคัดเลือกพลิกสถานการณ์เข้ารอบสุดท้ายได้แถมยังสามารถไปคว้าแชมป์โลกในปี 2002 รวมถึงมีประสบการณ์การทำงานกับทีมชาติโปรตุเกสได้นานถึง 6 ปี
เหตุผลเหล่านี้ทำให้เสี่ยหมีเชื่อว่านี่คือกุนซือที่มีบารมีมากพอจะมาคุมบรรดานักเตะดาวดังหลายคนในทีมได้ ความจริงหลุยส์ เฟลิเป้มีโอกาสจะได้ทำงานในแดนผู้ดีตั้งแต่ช่วงก่อนหน้านั้นเมื่อเอฟเอได้ทาบทามให้เขาไปรับตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ แทนที่สเวน โกรัน อีริคส์สัน อดีตกุนซือชาวสวีเดนหลังจบฟุตบอลโลก 2006 ในตอนนั้นบิ๊กฟิลกำลังมุ่งมั่นกับการพาทีมชาติโปรตุเกสสู้ศึกเวิลด์คัพที่เยอรมนีเช่นกัน และเขาก็ไม่ค่อยพอใจเอฟเอที่มาทาบทามเขาในจังหวะที่ผิดกาลเทศะ
KUBET ไม่ว่าสถานการณ์นี้จะเกิดขึ้นกับใคร เชื่อว่ามันคือความอึดอัดใจทั้งนั้น เพราะดันมาผิดจังหวะจริงๆครับ
บทสัมภาษณ์ของหลุยส์ เฟลิเป้
หลุยส์เคยให้สัมภาษณ์กับเดอะ การ์เดี้ยน ในเดือนมีนาคมปี 2020 ถึงการได้รับข้อเสนอคุมทีมชาติอังกฤษว่า “พวกเขาต้องการให้ผมเซ็นสัญญาก่อนที่ศึกฟุตบอลโลกจะเริ่มขึ้น มันคือเรื่องที่ไม่มีทางเป็นไปได้ มันเป็นสถานการณ์ที่แปลกประหลาดเพราะผมกำลังคุมทีมชาติโปรตุเกสที่กำลังผ่านเข้ารอบไปพบกับอังกฤษ ซึ่งผมคือโค้ชของโปรตุเกส แต่หากจังหวะที่เข้ามามันไม่เป็นแบบนั้นผมคงจะไปด้วยความยินดี”
อังกฤษตกรอบด้วยฝีเท้าของโปรตุเกส
การที่อังกฤษตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลกที่เมืองเบียร์ด้วยฝีเท้าของโปรตุเกส เมื่อแพ้การดวลจุดโทษแถมยังเกิดเหตุการณ์ที่แฟนบอลสิงโตคำรามหัวร้อน เพราะคริสเตียโน โรนัลโดมีส่วนกับการโน้มน้าวผู้ตัดสินให้ชูใบแดงไล่เวย์น รูนี่ย์ออกจากสนาม นั่นยิ่งทำให้โอกาสที่กุนซือชาวบราซิลเลี่ยนจะไปกุมบังเหียนที่ทีมชาติอังกฤษเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยาก หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้รับการทาบทามจากเอฟเออีกเลย
หลุยส์ เฟลิเป้ตัดสินใจคุมทีมชาติโปรตุเกสต่อไปจนถึงจบศึกยูโร 2008 ในช่วงเวลานั้นอังกฤษได้แต่งตั้งฟาบิโอ คาเปลโล่ เป็นผู้จัดการทีมแทนสตีฟ แม็คคลาเรน ที่พาทีมตกรอบคัดเลือกยูโรก่อนแล้ว อย่างไรก็ตามในปี 2008 หลุยส์ เฟลิเป้ ตอบตกลงเซ็นสัญญาคุมทีมเชลซีล่วงหน้า ทั้งที่ยังอยู่ระหว่างเตรียมพาทีมชาติโปรตุเกสสู้ศึกยูโร ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ย้อนแย้งนิดหน่อยกับตอนที่เขาปฏิเสธโอกาสไปคุมทีมชาติอังกฤษในปี 2006
หลุยส์ เฟลิเป้คุมทีมเชลซี
หลังจากที่ยืนยันรับงานใหม่ หลุยส์ เฟลิเป้ ได้ให้สัมภาษณ์ว่าที่ตอบตกลงคุมเชลซีเพราะได้รับข้อเสนอค่าจ้างคุมทีมในจำนวนที่สูงมาก โดยสื่ออังกฤษ เดอะ เทเลกราฟ เผยว่าเขาได้ค่าจ้างสูงถึงปีละ 6 ล้านปอนด์ ผู้สื่อข่าวได้ถามหลุยส์ว่าการได้ค่าจ้างมหาศาลคือเหตุผลที่ทำให้เขายอมรับงานคุมเชลซีหรือไม่? หลุยส์ได้ตอบตรงๆว่า
“ใช่เพราะสำหรับโค้ชจากอเมริกาใต้ที่อายุมาก และไม่เคยคุมสโมสรไหนในยุโรปมาก่อน นี่คือโอกาสที่ต้องรีบคว้า ผมอายุ 59 แล้วและไม่ต้องการทำงานเป็นโค้ชจนกระทั่งอายุ 70 ผมต้องการเกษียณในอีก 4-5 ปีข้างหน้า เพราะฉะนั้นเรื่องหลักจึงเป็นเรื่องเงิน แต่มันก็มีอย่างอื่นด้วย ผมสามารถส่งลูกชายไปเรียนต่างประเทศได้ ซึ่งคุณจะมีโอกาสแบบนี้เพียงแค่ครั้งเดียว ต้องตัดสินใจว่าเอาหรือไม่เอา แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องเงินไปทั้งหมด”
เอาล่ะ บทสัมภาษณ์ได้แสดงออกมาให้ชัดขนาดนี้ ไปดูฝีมือการคุมทีมของเขาได้ในพาร์ทต่อไปกันได้เลยครับ
KUBET – เว็บไซต์ให้คำปรึกษาข่าวฟุตบอล ข้อมูลฟุตบอลอัปเดตแบบเรียลไทม์ ช่วยให้คุณเรียนรู้เกมฟุตบอลล่าสุดและครอบคลุมที่สุด คะแนนฟุตบอล ลีกฟุตบอล สโมสรฟุตบอล และข้อมูลฟุตบอลโลก รวมถึงข้อมูลอื่นๆที่คุณอยากรู้ เช่นประวัติความเป็นมาของสโมสร หรือที่มาที่ไปของโลโก้แต่ละสโมสร โดยไม่ต้องออกจากบ้าน