ยุคใหม่ของ แมนยู ภายใต้การนำของ รูเบน อโมริม กำลังเป็นที่จับตามองของแฟนบอลทั่วโลกอย่างใกล้ชิด การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ถือเป็นการพลิกโฉมครั้งสำคัญของสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก หัวข้อนี้จะน่าสนใจขนาดไหน ตามไปดูกันครับ
ยุคใหม่แมนยู ภายใต้บังเหียนอโมริม
รูเบน อโมริมเดินทางมายังอังกฤษในฐานะเฮดโค้ชล่าสุดของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยเขา มีหน้าที่ในการนำความรุ่งโรจน์ของปีศาจแดงกลับมาเขากลายเป็นกุนซือคนที่6 ที่รับตำแหน่งนี้ นับตั้งแต่มีการอำลาของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ในปี 2013 ต่อจากเดวิด มอยล์, หลุยส์ ฟานกัล, โซเซ่ มูรินโญ่, โอเล่ กุนนาร์ โซลชา, ราล์ฟ รังนิก และเอริก เทนฮาก ทั้ง5คนที่ผ่านมาต่างก็มีผลงานปะปนกันไป แต่ทั้งหมดนั้นไม่สามารถทำให้แมนยูเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกได้เลย
อโมริมซึ่งมีอายุเพียง 39 ปี ได้สร้างชื่อเสียงในฐานะโค้ชหนุ่มที่ดีที่สุดในยุโรป หลังจากคว้าแชมป์ลีกได้ 2 สมัยให้กับสปอร์ติ้ง ลิสบอน เขายอมรับว่างานของเขาที่ยูไนเต็ดค่อนข้างลำบาก แต่เขาก็ยืนกรานว่าพร้อมสำหรับความท้าทายในการพลิกสถานการณ์ทีมนี้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งนี่จะเป็นปัญหาทื่อโมริมต้องจัดการและแก้ไขให้ได้ เพื่อจะพาแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดกลับคืนสู่จุดที่พวกเขาเคยอยู่มา
เลือกวิงแบ็ก
หลังจบเกมสุดท้ายกับสปอร์ติ้งลิสบอน อโมริมได้ให้คำใบ้ที่ชัดเจนที่สุดว่า เขาจะตั้งใจใช้ระบบ
3-4-3 กับ แมนยู โดยเขาได้กล่าวว่า “คุณจะต้องเริ่มต้นด้วยโครงสร้างที่คุณรู้จัก” ไม่มีเหตุผลใดที่เขาไม่ควรทำ เพราะนั่นคือวิธีที่เขาประสบความสำเร็จกับสปอร์ติ้ง อย่างไรก็ตาม ปัญหาคือเขากำลังสืบทอดทีมที่สร้างขึ้นมาด้วยระบบ 4-3-3
ปีศาจแดงมีเซนเตอร์แบ็กตัวหลัก 6 คน ซึ่งเพียงพอต่อการเล่นหลัง3 แต่การหาวิงแบ็กอาจจะมีความชับซ้อนมากกว่านิดหน่อย เพราะนั่นจะทำให้ผู้เล่นริมเส้นต้องเปลี่ยนตำแหน่งตัวเอง ดีโอโก้ ดาโลต์ นูสแชร์ มาซราอุย และ ลุค ชอว์ คือผู้เล่นที่เหมาะสมที่สุดในตำแหน่งริมเส้น
ดูบอลฟรี ถ่ายทอดสดคมชัด ครบทุกคู่ ทุกแมตช์ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ภาพเสถียร ไม่มีสะดุด ได้ที่นี่เลยครับ
ผู้เล่นปีก
อโมริมเล่นด้วยผู้เล่นตัวรุก 2 คน หลังกองหน้าเหมือนมีหมายเลข 10 สร้างสรรค์เกมอยู่สองคนแทนที่จะใช้ปีกเล่น ในตำแหน่ง 3 แนวรุก ซึ่งนั่นอาจจะทำให้คนที่ตกที่นั่งลำบากก็คือการ์นาโช่และอาหมัด ดิยัลโล่
อย่างไรก็ตามหลายคนยังมองว่าอาหมัดเล่นตำแหน่งตัวรุกด้านในได้ แต่ทางการ์นาโช่ที่ปกติยีนตำแหน่งพิงเชือกที่ริมเส้นมาโดยตลอดจะทำอย่างไรกับจุดนี้ ตำแหน่งวิงแบ็กอาจจะเหมาะกับการ์นาโช่ หากเขายืนตรงนั้นเขาจะต้องรับผิดชอบแนวรับมากกว่าเดิม แต่ถ้าไปยืนเป็นแนวรุก เขาต้องเปลี่ยนสไตล์การเล่นของตัวเอง และเล่นให้เป็นทีมมากขึ้น
หาตำแหน่งที่เหมาะสมกับแรชฟอร์ด
นอกจากที่อโมริมจะต้องหาวิงแบ็กแล้ว เขายังต้องหาตำแหน่งให้มาร์คัส แรชฟอร์ดลงสนามอีกเช่นกัน สามตัวรุกจะเป็นการเอากองหน้าตัวเป้า ซึ่งอาจจะเป็นราสมุส ฮอยลุนด์หรือโจชัวร์ เซิร์กเซ่เล่น ขณะที่ตัวรุกหนึ่งตำแหน่งจะตกเป็นของบรูโน่ ดังนั้นจะเหลือที่ให้กับแรชฟอร์ดอีกเพียงแค่ตำแหน่งเดียวคือตัวรุกฝั่งซ้าย ซึ่งเขาน่าจะทำมันได้อย่างแน่นอน หรือจะโยกไปยืนเป็นกองหน้าตัวเป้าได้เช่นกัน
ฟรานซิสโก้ ตรินเกา และ เปโดร กอนชาลเวส ตัวรุกหมายเลข10 ของอโมริมทั้ง 2 คน เป็นผู้เล่นที่เข้าเพรสแดนบนอยู่เป็นประจำ ซึ่งถ้าหากแรชฟอร์ดอยู่ตรงนั้นได้ เขาจะต้องแย่งบอลให้เป็น และขยันเพรสซิ่งให้มากกว่านี้ และนี่คือสิ่งที่อโมริมจะต้องเปลี่ยนแรชฟอร์ดให้ได้ แรชฟอร์ดยังเป็นนักเตะที่มีการจ่ายบอลที่ใช้ได้คนหนึ่งเลยเพียงแต่ในช่วงเวลาที่ผ่านมาไม่ได้งัดศักยภาพตรงนี้มาใช้เท่าที่ควร
ในช่วงท้ายของเทนฮาก เขาได้ให้แรชฟอร์ดไปยืนเป็นปีกขวา การ์นาโช่เป็นปีกซ้าย และนั่นคือภาคบังคับที่ทำให้แรชฟอร์ดไม่สามารถใช้สเต็ปเดิม อย่างการเลี้ยงจี้เหมือนกับตอนอยู่ฝั่งซ้ายได้มากนัก ทำให้เขาต้องเปิดบอลให้กับเพื่อนมากกว่าเดิม จากจุดนั้นเราจะเห็นได้ว่าเขาเป็นผู้เล่นที่สามารถครอสบอลได้น่าพอใจในระดับหนึ่ง
อีกสิ่งที่สำคัญคือการจุดไฟในตัวนักเตะคนนี้ให้ลุกอีกครั้ง อโมริมต้องเปลี่ยนทัศนคติของนักเตะรายนี้ให้ได้ หากสุดท้ายมันไม่สำเร็จ ก็คงต้องถึงเวลาแล้วที่แมนยูจะต้องขายเขาออกไป
ติดตามเรื่องราวของกุนซือรายนี้ได้ต่อใน EP.2 ไปดูกันว่า แมนยู ในยุคของเขา ยังต้องปรับหรือแก้ไขอะไรอีกบ้าง
ที่นี่ – เว็บไซต์ให้คำปรึกษาข่าวฟุตบอล ข้อมูลฟุตบอลอัปเดตแบบเรียลไทม์ ช่วยให้คุณเรียนรู้เกมฟุตบอลล่าสุดและครอบคลุมที่สุด คะแนนฟุตบอล ลีกฟุตบอล สโมสรฟุตบอล และข้อมูลฟุตบอลโลก รวมถึงข้อมูลอื่นๆที่คุณอยากรู้ เช่นประวัติความเป็นมาของสโมสร หรือที่มาที่ไปของโลโก้แต่ละสโมสร โดยไม่ต้องออกจากบ้าน