KUBET มาต่อจากเนื้อหา Part1 สำหรับเรื่องราวของนักฟุตบอลที่มีฝีเท้ายอดเยี่ยม แต่การเลือกเกิดไม่ได้ทางเพศสภาพทำให้เขาถูกสังคมรังแกและบูลลี่มากมาย เรื่องราวของเขาจะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามรับชมต่อได้เลย
เรื่องราวโศกนาฏกรรมของ “จัสติน ฟาชานู”
เปิดเผยตัวตนประกาศให้โลกได้รับรู้
เมื่อโดนมากเข้าบ่อยครั้ง จัสติน ฟาชานู ก็เริ่มรู้สึกว่าเขาจะใช้ชีวิตในสนามต่อไปแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว เขาตัดสินใจที่จะประกาศให้คนทั่วโลกได้รับรู้ว่าเขาเป็นเกย์ โดยเขาไปให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อข่าวเดอะซันและได้ให้ค่าตอบแทนเป็นเงินจำนวน 20,000 ปอนด์
ในขณะเดียวกัน อีกหนึ่งคนที่รู้เรื่องนี้ดีที่สุดนั่นคือ น้องชายของเขาอย่าง จอห์น ฟาชานู นั่นเอง ซึ่งชีวิตของจอห์นนั้นสวนทางกับจัสตินราวฟ้ากับเหว เขากลายเป็นแข้งดังของสโมสรวิมเบิลดัน สามารถพาทีมไปเล่นระดับลีกสูงสุด ยิงไปมากกว่า 100 ประตู และได้ติดทีมชาติอังกฤษอีกด้วย
ส่วนจัสติน ฟาชานูนั้น แทบไม่มีใครอยากได้เขาไปอยู่ในทีมอีกเลย แม้ว่าจอห์นจะไม่ถูกกับจัสตินและมีปัญหาส่วนตัวกันมานานแค่ไหน แต่เขาก็ไม่อยากให้โลกได้รับรู้ถึงเพศสภาพของพี่ชายตนเอง เขาจึงยื่นข้อเสนอราคา 75,000 ปอนด์เพื่อให้พี่ชายของเขายุติการประกาศเรื่องรสนิยมของตนเอง สิ่งที่จอห์นต้องการจะสื่อกับเขาก็คือ ให้ใช้ชีวิตต่อไปเงียบๆ และไม่ต้องประกาศให้โลกรับรู้ใดๆทั้งสิ้น
“จัสติน ฟาชานู” นักฟุตบอลคนแรกที่เป็นเกย์
ถึงแม้จัสตินจะเลือกรับเงินก้อนนั้นไว้ แต่สุดท้ายเขาก็ได้ประกาศให้โลกได้รับรู้เกี่ยวกับสภาพทางเพศของตนเองอยู่ดี เพราะเขาทนไม่ไหวกับแรงกดดันทางสังคม ถ้อยคำดูถูกเหยียดหยามและบูลลี่ต่างๆ ด้วยเหตุนี้สองพี่น้องจึงตัดความสัมพันธ์กันและต่อกันไม่ติดอีกเลย
ในงานแถลงข่าวของจัสติน ฟาชานูเกิดขึ้นในปี 1990 ถือเป็นข่าวช็อกโลกวงการฟุตบอลสุดๆ โดยสื่อได้พาดหัวข่าวไว้ว่านักฟุตบอลคนแรกที่เป็นเกย์ ซึ่งในเวลานั้นฟาชานูไม่จำเป็นต้องเก็บความลับนี้ไว้อีกต่อไป แต่สิ่งที่เขาคิดกลับไม่เป็นแบบนั้นเลย เพราะหลังจากที่เขาประกาศเรื่องนี้ออกไป เส้นทางฟุตบอลของเขากลับพังพินาศมากกว่าเดิม
แน่นอนว่า ด้วยทัศนคติของผู้คนในยุคนั้นที่ยังไม่เปิดใจและไม่เปิดกว้างต่อเพศสภาพที่หลากหลาย มันจึงเกิดปัญหาตามมาว่า ไม่มีสโมสรไหนเปิดใจอยากยอมรับเขาไปร่วมทีม แฟนบอลทวีคูณความบูลลี่มากขึ้น อยู่ที่ไหนได้ไม่นานก็ถูกขายต่อ
คดีฆาตกรรมนักการเมือง
กระทั่งในช่วงบั้นปลายอาชีพของเขา เจ้าตัวเลือกที่จะขายข่าวฉาวของตนเองว่ามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับคนโน้นคนนี้ ไม่ว่าจะบรรดาเซเล็บคนดัง รวมถึงนักการเมือง ซึ่งก็มีทั้งจริงและไม่จริง แต่มันก็เป็นหนึ่งในหนทางหาเงินของเขาไปสะแล้ว
ติดตามข่าวสารฟุตบอล โปรแกรมบอล วิเคราะห์บอลและประวัตินักเตะที่คุณไม่เคยทราบ ได้ที่เว็บไซต์ KUBET
สุดท้ายข่าวทั้งหมดมันได้ตีกลับมาหาเขาอีกครั้งในปี 1994 จัสติน ฟาชานู ถึงคราวซวยหนัก เมื่อนักการเมืองที่เขาเคยปล่อยข่าวฉาวออกไป เสียชีวิตลงด้วยสภาพเปลือยเปล่าและมีสายไฟพันคอไว้ จนเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อสงสัยถึงตัวฟาชานู ว่าเขาอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว จึงเรียกตัวเขาไปสอบปากคำ แต่ปรากฏว่า ฟาชานูปฏิเสธข่าวที่เขาเคยมีความสัมพันธ์กับนักการเมืองคนนี้ เขาเพียงขายข่าวเพื่อหาเงินเลี้ยงชีพเท่านั้น
สู่จุดตกต่ำที่สุดในบั้นปลายอาชีพฟุตบอล
หลังจากเหตุการณ์ฉาวสนั่นประเทศดังกล่าว ทำให้ต้นสังกัดในเวลานั้นตัดสินใจยกเลิกสัญญาว่าจ้างเขาทันที เจ้าตัวจึงถอยหลังกลับไปตั้งตัวที่ทีมเล็กๆในประเทศแคนาดา ซึ่งเป็นประเทศที่เขาเคยไปค้าแข้งมาก่อนสมัยที่ยังไม่ประกาศว่าตนเองเป็นเกย์อย่างชัดเจน ซึ่งสุดท้ายแล้วสโมสรนั้นก็ไม่โอเคกับเขาที่เป็นเกย์อยู่ดี
ในเวลานั้นการเป็นเกย์ของเขานั้นเหมือนเป็นพิษร้ายแรงและเป็นภัยต่อสังคม ไม่โดนบูลลี่ก็จะโดนเหยียดอยู่อย่างนี้ ขนาดเริ่มต้นใหม่ที่ทีมเล็กๆแล้วก็ยังหนีไม่พ้น จนกระทั่งเขาได้แขวนสตั๊ดในที่สุด จากนั้นเขาหันไปเอาดีทางด้านโค้ชให้กับทีมหนึ่งในสหรัฐอเมริกา ซึ่งการสอนฟุตบอลให้กับเด็กๆ ดูเหมือนเป็นสิ่งที่เขาทำได้ดีมากๆ เพราะเขาเป็นบุคคลที่มีทักษะในการพูดต่อหน้าสื่อได้ดีอยู่แล้ว
รวมถึงการสอนทักษะต่างๆให้กับเด็กๆ ทำให้เขามีความสุขมากยิ่งขึ้นด้วย ชีวิตเขาเหมือนจะดีขึ้นอีกครั้ง แต่แล้วข่าวลือความลับของเขาก็หลุดออกมาอีกจนได้ เพราะพ่อแม่ของเด็กได้ร้องเรียนและไม่โอเคที่จะส่งลูกๆ มาเรียนกับโค้ชที่เป็นเกย์แบบเขา ในเวลานี้ไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็มักจะมีเสียงบูลลี่และนินทาอยู่ตลอด
“เราพยายามจะพูดถึงสิทธิความเท่าเทียมกัน แต่ว่ามันไม่เคยเป็นแบบนั้นเลย มันเป็นคำพูดที่ทำให้ดูสวยหรูเท่านั้น แต่ว่าความจริงแล้วมันเป็นเรื่องตรงกันข้าม เพราะถ้าหากผมคบกับเด็กอายุ 17 ปี มันคงไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม แต่ลองเปลี่ยนให้ผมคบผู้ชายดูบ้างสิ ผมกลายเป็นพวกผิดกฎหมายทันที”
จัสติน ฟาชานู กล่าว
คดีข่มขืนเด็กและเยาวชน
หลังจากที่สิ้นไร้ไม้ตอกเป็นเวลานาน จัสติน ฟาชานู ก็ดื่มสุราเมามาย ปาร์ตี้สุดเหวี่ยงและได้พบกับจุดต่ำสุดในชีวิตของเขา ในงานปาร์ตี้งานหนึ่ง เขาเคยถูกกล่าวหาว่าข่มขืนเด็กชายวัย 17 ปี ซึ่งฟาชานูปฏิเสธข้อกล่าวหาตลอดเวลาและบอกว่ามันเป็นเพียงการสมยอมกันเท่านั้น แต่มันแทบไม่มีหลักฐานยืนยันอะไรทั้งสิ้นเกี่ยวกับการให้การของเขาเลย
โดยฟาชานูยังกล่าวไว้อีกว่า หากเขาไม่ใช่เกย์ ทุกสิ่งทุกอย่างมันคงเท่าเทียมและยุติธรรมกับเขามากกว่านี้ แม้เขาจะไม่ได้ทำผิดก็ตาม แต่ทุกคนก็จะตัดสินให้เขาผิดอยู่ดี ซึ่งการที่ชายรักชายมันไม่ได้ทำร้าย หรือ ฆ่าใครตาย แต่เขากลับโดนตัดสินอย่างกับสัตว์ตัวหนึ่ง
จากคดีข่มขืนเด็กและเยาวชน ดูเหมือนคำให้การของฟาชานูจะไม่มีมูลเลย และต้องโดนศาลตัดสินจำคุกอย่างแน่นอน เพราะคงไม่ได้รับความเป็นธรรมในชั้นศาล แม้ว่าจะมีผู้คนที่อยากจะช่วยเหลือเขา แต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากมายอยู่ดี
เสียชีวิตตามลำพังอย่างเศร้าสลด
จนในที่สุดเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 1998 มีรายการจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า พบศพชายวัย 37 ปีเสียชีวิตในห้องพักของตนเอง โดยสาเหตุนั้นมาจากการผูกคอตาย ซึ่งศพที่ว่าก็คือ จัสติน ฟาชานู อดีตนักฟุตบอลชื่อดังที่มีข่าวฉาวก้องโลกและ LGBTQ+ คนแรกในวงการฟุตบอลที่ออกมาเปิดเผยเพศสภาพตนเองนั่นเอง
แม้ว่าการที่เขาจะเป็นเกย์ไม่ได้ทำอันตรายแก่ใคร และไม่ได้ทำอะไรผิดแม้แต่น้อย และการที่เขาเกิดมาเป็นแบบนี้ก็ไม่สามารถเลือกเกิดได้เช่นกัน แต่คนเราสามารถเลือกที่จะปฏิบัติกับเขาเฉกเช่นมนุษย์คนหนึ่งได้
จบไปแล้วสำหรับเรื่องราวโศกนากฏกรรมของ “จัสติน ฟาชานู” นักฟุตบอล LGBTQ+ ที่เปิดตัวคนแรกแต่ถูกเหยียดจนดับชีพ สามารถติดตามอ่านข่าวสารฟุตบอลทั้งหมด ผ่านทางเว็บไซต์ KUBET World ให้คุณอัพเดทข่าวสารวงการฟุตบอลแบบเรียลไทม์ โปรแกรมบอล วิเคราะห์บอลแบบจัดเต็ม ประวัตินักเตะที่คุณไม่เคยทราบ
พร้อมรับชมถ่ายทอดสดฟุตบอลทุกแมตช์จนจบฤดูกาล เพียงเป็นสมาชิกเคยูเบท ลุ้นเกมเดิมพันสุดมันส์และรับสิทธิประโยชน์อีกมากมาย สมัครเลย!