หงส์แดง กำลังโบยบินอยู่บนท้องฟ้าของตารางคะแนน ด้วยฟอร์มการเล่นที่ดุดัน และเกมรุกที่เฉียบคม ทำให้พวกเขาสร้างสถิติที่น่าทึ่งมากมาย พร้อมแล้วเราจะพาไปเจาะลึก 5 สถิติสุดโหดของลิเวอร์พูลในฤดูกาลนี้ ที่จะทำให้คุณต้องร้องว้าว

ตอนนี้ลิเวอร์พูลมีโอกาสเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกมากถึง 85% ข้อมูลจากสกายสปอร์ตยังบอกอีกด้วยว่าจากสถิติที่ผ่านมา ผ่านไปแล้ว 13 นัดและนำเกิน 6 แต้มขึ้นไปไม่เคยมีทีมไหนพลาดแชมป์แม้แต่ครั้งเดียว และบอกได้เลยว่าตอนนี้ลิเวอร์พูลมาแรงจริง ตบทั้งแชมป์เอฟเอคัพอย่างแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด แชมป์ UCL อย่างเรอัลมาดริด แชมป์บุนเดสลีกาอย่างไบเออร์เลเวอร์คูเซ่น และแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างแมนเชสเตอร์ซิตี้ ไปดูกันว่าทำไม หงส์แดง ถึงมาแรงขนาดนี้
การเพรสซิ่ง
ลิเวอร์พูลไม่ใช่ทีมที่บ้าเพรสแบบเอาเป็นเอาตาย ลิเวอร์พูลมีค่า PPDA อยู่ที่ 11.0 นับว่าอยู่ในอันดับ8 ของพรีเมียร์ลีก ไม่ได้เพรสมากจนเกินไปและไม่ได้หย่อนจนน่าเกลียด จุดสำคัญคือการเพรสแต่ละครั้ง เพรสเป็นประโยชน์มากแค่ไหน
ตัวอย่างเช่น ท็อตแนมฮอตสเปอร์คือทีมที่มีค่า PPDA ในการเพรสซิ่งเดือดมาก คู่ต่อสู้ผ่านบอลกันแค่ 6.3 ครั้ง ก็พยายามเข้าไปแย่งบอล แต่สถิติได้บอกว่าแม้พวกเขาจะพยายามเพรสซิ่งมากก็จริง แต่แย่งสำเร็จจนนำไปสู่การจบสกอร์ในเกมนั้นเพียง 5 ครั้ง ในขณะที่ลิเวอร์พูลตัวเลขอาจจะเป็น 11.0 แต่พวกเขาสามารถแย่งกลับมาและลุ้นจบสกอร์มากถึง 7 ครั้ง
อาร์เน่ สล็อตเติมเกมรับ

ตอนนี้ลิเวอร์พูลเสียไปแค่ 8 ประตู เกมรับดีที่สุดในพรีเมียร์ลีก ปกติแล้ว หงส์แดง จะเด่นในเกมรุก ตั้งแต่ในยุคของเจอร์เก้น คล็อปป์ แต่ในยุคของอาร์เน่มีกลิ่นอายความรัดกุมเข้ามา ต่อให้สกอร์จะยังนำไม่ห่าง บางครั้งก็เน้นชัวร์ กล้าปิดเกมอย่างรวดเร็ว ซึ่งมันอาจจะทำให้หลายคนยังไม่คุ้น แต่มันก็ทำให้ลิเวอร์พูลเก็บแต้มมาได้นักต่อนัก
มีสถิติออกมาว่าลิเวอร์พูลปล่อยให้คู่ต่อสู้มีโอกาสยิงได้น้อยมาก พวกเขาคือทีมที่ทำให้คู่ต่อสู้ต้องเหนื่อย กว่าจะได้สักหนึ่งประตู จากสถิติยังบอกอีกว่าการจะยิงเข้าประตูของลิเวอร์พูลหนึ่งลูก ต้องมีการยิงมากถึง 15.6 ครั้งเลยทีเดียว
การค้นพบตำแหน่งของไรอัน กราเฟนแบร์ก

ในตอนแรกที่ ไรอัน กราเฟนแบร์ก เข้ามา ยังมีความไม่ชัดเจนว่าจะอยู่ในตำแหน่งกลางรับหรือกลางตัวเชื่อมเกม ปีนี้แต่ปีนี้เขาได้กลายเป็นร่างทอง ในบทบาทกลางรับตัวแก้เพรส มีสถิติการดวลชนะถึง 64.7% เรียกว่าในตำแหน่งกลางรับที่ลงสนามเกิน 5 นัดขึ้นไป กราเฟนแบร์กมีเปอร์เซ็นต์ดีที่สุด
กราเฟนแบร์กเป็นนักเตะที่เอาบอลกลับมาครองเป็นอันดับหนึ่งของพรีเมียร์ลีกอยู่ที่ 75 ครั้ง สถิตินี้ไม่ใช่การแย่งเท้าหรือการชิงจังหวะกับบอล แต่มันเป็นจังหวะที่ในบางครั้ง 50-50 ของใคร แต่เขาคือคนที่ไปช่วงชิงเอามา และทำให้ลิเวอร์พูลได้บอล
ดูบอลฟรี ถ่ายทอดสดคมชัด ครบทุกคู่ ทุกแมตช์ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ภาพเสถียร ไม่มีสะดุด ได้ที่นี่เลยครับ
นักเตะหน้าเก่าฟอร์มพีคกว่าเดิม



ในซีซั่นนี้นักเตะรุ่นเก๋าของ หงส์แดง ฟอร์มพีคขึ้นมาถึง 3 คน นั่นคือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์, เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค และ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ในด้านของเกมรุกซาลาห์นับว่าเป็นคนที่มีส่วนกับประตูมากที่สุดในพรีเมียร์ลีก ยิง 11 จ่าย 7 โดยมีส่วนมากถึง 18 ลูก ยืนหนึ่งในตอนนี้และเป็นตัวเต็งที่จะคว้ารางวัลแข้งแห่งปีของ PFA ด้วย
ทางด้านของเทรนต์ อาร์โนลด์ แม้ว่าเขาจะทำไปเพียงแค่ 2 แอสซิสต์ในทุกรายการ แต่เกมรับของเขานับว่าเนียนขึ้นกว่าเดิมเยอะ จากสถิติบอกว่าเทรนต์พยายามเข้าปะทะ 53 ครั้ง ชนะถึง 35 ครั้ง คิดเป็นชนะ 66% นับว่าไม่น้อยเลยสำหรับตำแหน่งฟูลแบ็ก
ในส่วนของ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์คในปีนี้นับว่าสุดยอดมาก เขาโดนเลี้ยงหลบเพียงแค่ 0.02 ครั้งเท่านั้น เท่ากับว่าคุณจะต้องดวลกับฟาน ไดจ์ค ถึง 5 เกม ถึงจะเลี้ยงหลบเขาได้ 1 ครั้ง แต่ละคนสถิติดีมาแรงขนาดนี้ เรียกได้ว่าต่อให้พวกเขาเจอแรงกดดันมากขนาดไหน พวกเขาก็สามารถฝ่าฟันมันได้อย่างแน่นอนครับ
ให้เครดิตขุมกำลังเชิงลึก


จริงอยู่ที่ลิเวอร์พูลมีนักเตะบาดเจ็บอยู่บ้าง อย่าง อลิสซอน เบ็คเกอร์ นายประตูมือหนึ่ง สำนักข่าวหลายสำนักได้บอกว่าโจ โกเมซ เป็นคนหนึ่งที่ลิเวอร์พูลคิดถูกมากที่ไม่ปล่อยตัวออกไปช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา เพราะเขาสามารถเล่นได้ทุกตำแหน่ง โดยทุกครั้งที่ลงเล่นจะไม่มีคำวิจารณ์ใดๆ เรียกได้ว่าเป็นนักเตะอเนกประสงค์ จากสถิติตั้งแต่ปีที่แล้วจนถึงปีนี้มีดีบ้างไม่ดีบ้าง แต่เขาก็สามารถเล่นได้ทุกตำแหน่ง เรียกได้ว่าโจรับจบกันเลย
เว็บไซต์ให้คำปรึกษาข่าวฟุตบอล ข้อมูลฟุตบอลอัปเดตแบบเรียลไทม์ ช่วยให้คุณเรียนรู้เกมฟุตบอลล่าสุดและครอบคลุมที่สุด คะแนนฟุตบอล ลีกฟุตบอล สโมสรฟุตบอล และข้อมูลฟุตบอลโลก รวมถึงข้อมูลอื่นๆที่คุณอยากรู้ เช่นประวัติความเป็นมาของสโมสร หรือที่มาที่ไปของโลโก้แต่ละสโมสร โดยไม่ต้องออกจากบ้าน