เรื่องราวของ นักเตะ อย่าง Pal Enger ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องราวเรื่องหนึ่ง แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาของสังคมที่ให้ความสำคัญกับเงินทองและชื่อเสียงมากเกินไป เรื่องราววันนี้ต่อจาก EP.2 จะเป็นอย่างไร เราไปกันต่อเลยครับ
จากงานเฉลิมฉลอง กลายเป็นข่าวโจรกรรม
เจ้าหน้าที่เชื่อว่านี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพราะชาย2คนนี้รู้จังหวะ รู้เวลาว่าเมื่อไหร่ที่มีการรักษาความปลอดภัยเข้ม และเมื่อไหร่ที่หละหลวม นอกจากนี้หัวขโมยยังรู้จักพื้นที่เป็นอย่างดี ทั้งทางเข้าออก และภาพถูกติดไว้กับอะไร จนทุกอย่างมันเสร็จสิ้นในระยะเวลาไม่ถึง 1 นาทีด้วยซ้ำ
ย้อนไปสมัยนั้น ในหอศิลป์ยังไม่มีกล้องวงจรมากนัก ภาพที่พวกเขาหามาได้คือการบันทึกภาพเหตุการณ์นอกอาคาร ตอนที่เห็นชายสองคนนี้กำลังจอดรถอยู่หน้าหอศิลป์และใช้บันไดปีนขึ้นไป ช่วงเวลานั้นจากงานเฉลิมฉลองงานระดับประเทศ กลายเป็นความน่าอับอายระดับชาติภายในวันเดียวกัน
The Scream หายไปอย่างไร้ร่องรอย
อย่างไรก็ตาม นอร์เวย์ไม่เคยทำคดีประเภทนี้มาก่อน พวกเขาใช้เวลาเป็นเดือนแต่ก็ไม่สามารถหาหัวขโมยได้ หนำซ้ำพวกเขายังโดนประชาชนชาวนอร์เวย์กดดันอย่างหนักถึงความห่วยแตกที่ปล่อยให้สมบัติชาติถูกโจรกรรมจากหอศิลป์ ตำรวจคงอับอายอย่างหนักถ้าไม่สามารถเอา The Scream กลับคืนมาได้ แล้วยิ่งผ่านไปเป็นเดือน มันยิ่งไม่มีทางรู้ได้เลยว่าภาพวาดชิ้นนี้ได้ถูกส่งต่อไปที่ไหน บางทีมันอาจจะไม่ได้อยู่ที่นอร์เวย์แล้วก็เป็นได้
เมื่อเหล่าตำรวจไร้ทางออก หาหลักฐานไม่เจอ รัฐบาลนอร์เวย์จึงได้ติดต่อขอความช่วยเหลือไปยังรัฐบาลอังกฤษก่อนที่พวกเขาจะส่งนักสืบฮิวจ์ได้เข้ามาดูแลคดีนี้ ในช่วงเวลาดังกล่าวมันมีแต่เสียงซุบซิบและการคาดเดา
บ้างก็ว่าเป็นมาเฟียใหญ่นอร์เวย์ที่อยากได้งานศิลปะชิ้นนี้มาครอบครอง บ้างก็ว่าการขโมยครั้งนี้ได้รับคำสั่งจากเศรษฐีชาวฝรั่งเศส แถมยังมีพวกปั่นประสาทอย่างพวกรณรงค์ต่อต้านการทำแท้ง ที่อยู่ๆก็ส่งจดหมายมาบอกรัฐบาลว่า “พวกผมนี่แหละคือคนที่เอาภาพไป ถ้าอยากได้คืน รัฐบาลจะต้องเอาโฆษณาชวนเชื่อของพวกเราเผยแพร่ผ่านทีวี”
ดูบอลฟรี ถ่ายทอดสดคมชัด ครบทุกคู่ ทุกแมตช์ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ซูมหน้า นักเตะ ชัดๆ ภาพเสถียร ไม่มีสะดุด ได้ที่นี่เลยครับ
เส้นทางสู่ความจริง เริ่มต้นขึ้นแล้ว
นักสืบฮิวจ์พยายามลดความเป็นไปได้ The Scream ที่มีมูลค่าหลายสิบล้านปอนด์ไม่สามารถถูกขายในตลาดมืดได้ เพราะด้วยสมบัติแห่งชาติคงไม่มีใครกล้าซื้อ เขาเชื่อว่าคนที่ขโมยภาพนี้ไป ไม่ได้เป็นคนที่ชื่นชอบศิลปะ แต่ขโมยของชิ้นนี้ไปเพียงเพื่อให้ตัวเองรู้สึกว่าเป็นผู้ชนะ รู้สึกเหมือนได้รางวัล
นักสืบฮิวจ์ได้เริ่มไล่รายชื่อบุคคลที่มีประวัติการโจรกรรมงานศิลปะ และพบชื่อหนึ่งที่น่าสนใจ นั่นคือ Pal Enger ที่เพิ่งออกจากคุกมาเพียง 1 เดือน ก่อนที่ภาพ The Scream จะหายไป และเพียง 5 วันก่อนที่ภาพดังกล่าวจะถูกขโมยไป เขาได้พบว่าพอล อิงเกอร์ได้เดินทางมายังหอศิลป์ที่เกิดเรื่องนี้ ทุกอย่างมันจึงดูเข้าล็อกไปหมด
เขาเชื่อว่าชายคนนี้นี่แหละที่น่าจะเป็นหัวขโมยอย่างแน่นอน นักสืบฮิวจ์ได้วางแผนเป็นเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์ชาวต่างชาติ ติดต่อไปหาพอล อิงเกอร์ เพื่อขอซื้อภาพ The Scream ด้วยมูลค่า 533,000 ดอลลาร์ โดยนักสืบฮิวจ์ได้บอกกับอิงเกอร์ว่า ตนจะขอซื้อไปเพื่อเอาไปคืนหอศิลป์นอร์เวย์ ปรากฏว่าอิงเกอร์คือคนที่ขโมยงานชิ้นนี้ไปจริงๆ
ช่วงแรกที่เขาได้นำงานชิ้นนี้มาครอบครอง เขานึกสนุกด้วยการป่าวประกาศผ่านหนังสือพิมพ์นอร์เวย์เป็นช่องเล็กๆที่มีข้อความว่าลูกสาวของเขาได้คลอดออกมาแล้ว พร้อมกับใส่ข้อความปิดท้ายเป็นภาษานอร์เวย์ แปลเป็นภาษาอังกฤษว่า Scream หลังจากนั้นเขาเริ่มเบื่อที่ไม่สามารถขายผลงานชิ้นนี้ได้ เขาต้องการส่งคืนสมบัติชิ้นนี้แก่รัฐบาล แต่เมื่อได้ข้อเสนอนักสืบฮิวจ์ อิงเกอร์ก็ได้สนใจเป็นอย่างมาก จะได้ส่งของคืน ได้เงิน และไม่ต้องกลับไปอยู่ในคุก
จุดจบอีกรอบของอิงเกอร์
นักสืบฮิวจ์รู้ได้ทันทีว่ารูปภาพที่อยู่กับอิงเกอร์เป็นของจริง แม้ว่าจะมีตำหนิเล็กน้อย แต่มันคือของจริง เขาจ่ายเงินจำนวนดังกล่าวและได้นำรูปภาพออกมาจากบ้านของอิงเกอร์ได้สำเร็จ จากนั้นก็ได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ให้เข้าไปจับกุมตัว แม้ว่าอิงเกอร์จะไหวตัวทัน และพยายามที่จะปลอมตัวเพื่อที่จะซื้อตั๋วรถไฟหนีไปเดนมาร์ก แต่สุดท้ายเขาก็ถูกจับในที่สุด
อิงเกอร์ถูกตัดสินจำคุก 6 ปี 3 เดือน เขาได้ชดใช้ความผิด ก่อนจะพ้นโทษในปี 2000 ด้วยอายุ 33 ปี มันสายเกินไปแล้วที่เขาจะกลับไปเป็นนักฟุตบอลอีกครั้ง เพราะเมื่อตอนที่เขาติดคุกครั้งแรก เขาออกมาในตอนที่อายุยังน้อย และสามารถหาโอกาสกลับไปเป็นนักฟุตบอลได้ ซึ่งเขาได้สโมสรใหม่แล้วด้วยซ้ำ แต่หลังจากที่ออกจากคุกได้เพียง 1 เดือน เขาดันเลือกเส้นทางการเป็นหัวขโมยด้วยการโจรกรรมสมบัติชาติ นั่นเป็นทางเลือกที่ผิดอย่างมหันต์
อดีตเพื่อนร่วมทีมของเขาคนหนึ่งเคยกล่าวไว้ว่า
“ในนอร์เวย์ เขาจะถูกรู้จักในนามขโมยภาพวาดนั้นไปตลอดกาล ใครก็ตามเคยเล่นฟุตบอล หรือดูเขาเล่นฟุตบอลจะรู้ดีว่านี่คือเด็กหนุ่มที่มีอนาคตสดใส เขามีสัญชาตญาณในการทำประตู เขาควรไปได้ไกลกว่านี้ เขามีความสามารถนะ แต่ขาดทัศนคติที่ดี เขาชอบขโมยของคนรวยเหมือนกับโรบินฮู้ด แม้ในทีมจะมีนักฟุตบอลที่มีอาชีพเสริมเป็นตำรวจก็ตาม แต่เขาไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้กับเพื่อร่วมทีมเลย ว่าง่ายๆคือเขาไม่เคยขโมยของพวกเรา”
หลังจากออกจากคุก อิงเกอร์ตัดสินใจเด็ดขาดจะเลิกเป็นหัวขโมย เขาตัดสินใจเลือกเส้นทางศิลปะ หลังจากเจ้าตัวชอบใช้เวลาไปกับการวาดภาพขณะอยู่ในคุก จากนั้นเขาได้เริ่มสร้างตัวจากอาชีพนี้ แถมเขายังมีเงินมากพอที่จะไปร่วมงานประมูลภาพวาดของ เอ็ดเวิร์ด มุงก์ และประมูลภาพนั้นมาเป็นเจ้าของด้วยเงินของตัวเอง ตอนนี้เข้าได้เป็นเจ้าของภาพโดยที่ไม่ต้องขโมยมันอีกแล้ว
เว็บบอล – เว็บไซต์ให้คำปรึกษาข่าวฟุตบอล ข้อมูลฟุตบอลอัปเดตแบบเรียลไทม์ ช่วยให้คุณเรียนรู้เกมฟุตบอลล่าสุดและครอบคลุมที่สุด คะแนนฟุตบอล ลีกฟุตบอล สโมสรฟุตบอล และข้อมูลฟุตบอลโลก รวมถึงข้อมูลอื่นๆที่คุณอยากรู้ เช่นประวัติความเป็นมาของสโมสร ประวัติ นักเตะ ต่างๆ หรือที่มาที่ไปของโลโก้แต่ละสโมสร โดยไม่ต้องออกจากบ้าน
