สวัสดีครับ วันนี้อยู่กับพวกเราKUBET กลับมาต่อกับเรื่องของความเสียหายของทีมแมนยูต่อจากพาร์ทที่แล้ว ความสูญเสียที่ประเมินตัวเลขจริงๆไม่ได้เลยว่า การที่พวกเขาพ่ายแพ้ในครั้งนี้จะเสียรายได้ไปมหาศาลขนาดไหน พร้อมแล้วไปกันต่อเลยครับ
ค่าสัมประสิทธิ์ที่ลดลง
เงินพิเศษ600ล้านยูโร จะถูกแบ่งให้กับสโมสรต่างๆตามค่าสัมประสิทธิ์ของยูฟ่า ซึ่งคำนวณระยะเวลา10ปี และจะขึ้นอยู่กับผลงานในการแข่งขันระดับยุโรป ทีมอันดับต่ำสุดจะได้รับ 1.1 ล้านยูโร อันดับสูงสุดจะได้รับ 36.4 ล้านยูโร
ปัจจุบันเรอัล มาดริดเป็นผู้นำในอันดับสัมประสิทธิ์ ตามมาด้วยบาเยิร์นมิวนิคและบาร์เซโลนา ส่วนทีมแมนยูปัจจุบันอยู่ในอันดับที่11 โดยมีแมนเชสเตอร์ซิตี้อยู่อันดับ4 และลิเวอร์พูลอยู่ในอันดับ8 โดยฤดูกาลที่แล้วเชลซีเป็นทีมที่ได้ค่าสัมประสิทธิ์สูงสุดของอังกฤษ ปัจจุบันพวกเขาหล่นลงมาอันดับที่6 และมีเงินเข้ากระเป๋า 32 ล้านยูโร
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ที่อยู่ในอันดับต่ำสุดของสโมสรอังกฤษ ได้รับเงินไป 19 ล้านยูโร จะสังเกตว่าคะแนนขึ้นลงค่อนข้างเร็ว เชลซีหล่นมาอยู่ในอันดับ6 ขณะที่แมนยูตกรอบแบบนี้ อาจจะทำให้พวกเขาหลุดท็อป15 ไปได้เลยทีเดียว เพราะต้องไม่ลืมว่าแม้แต่ยูโรปา ลีก ก็ไม่ได้ไปเล่น เพื่อพยุงคะแนนเอาไว้ด้วย
แรงกดดันทางการเงินที่เพิ่มขึ้น
จำนวนเงินดังกล่าวอาจจะดูไม่เหมือนไม่มากเมื่อเทียบกับค่าสปอนเซอร์หรือรายได้โดยตรง ที่สโมสรได้รับจากด้านอื่น เพราะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเป็นทีมที่มีรายได้ถึง 648 ล้านปอนด์เมื่อฤดูกาลที่แล้ว พวกเขาขาดทุนเพียง 27.8 ล้านปอนด์ในปีนี้ และขาดทุน 115.5 ล้านปอนด์ โดยมีเรื่องสถานการณ์โควิด19 รวมอยู่ด้วย แต่พวกเขาก็ยังสุ่มเสี่ยงในเรื่องของFinancial Fair Play
ในช่วงที่ผ่านมามันยังมีความกังวลเรื่องนี้อย่างชัดเจน จากการซื้อตัวผู้เล่นเข้ามาได้ไม่กี่รายและยืมนักเตะในการแก้ปัญหาเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านตา พวกเขาเคยโดนจ่ายค่าปรับไปแล้ว3แสนยูโรกับเรื่องราวดังกล่าว และต้องติดตามสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิด กล่าวอีกนัยหนึ่งคือพวกเขาต้องการรายได้ทั้งหมดเท่าที่หาได้ และการสูญเสียรายได้ในแชมป์เปี้ยนส์ลีกครั้งนี้ทำให้สโมสรเจอแรงกดดันจากกฎการเงินที่มากขึ้นไปอีก ซึ่งมันอาจส่งผลเสียกับตลาดซื้อขายนักเตะหน้าหนาวและในช่วงซัมเมอร์ปีหน้าก็เป็นได้
KUBET ทีนี้ละครับ ทั้งตัวนักเตะ โค้ช รวมไปถึงสโมสรเอง ต้องเจอกับแรงกดดันมหาศาลจากหลายๆฝ่ายอย่างแน่นอน โดยเฉพาะแฟนบอลของแมนยูเอง
ไม่ได้เป็นสโมสรชั้นนำอีกต่อไป
นับตั้งแต่เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กล่าวอำลาวงการในปี2013 แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ ในศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก ได้เพียง2ครั้งเท่านั้น พวกเขาตกรอบ16 ทีมสุดท้าย 2 ครั้ง และไม่ได้เข้ามาเล่นถึง4ครั้ง และการตกรอบแบ่งกลุ่มครั้งนี้ มันเป็นครั้งที่3 มันไม่ใช่สถิติของสโมสรระดับท็อป
แฟนบอลส่วนใหญ่ก็เริ่มตั้งคำถามแล้วว่าแมนยูชุดนี้จะได้กลับไปเตะแชมป์เปี้ยนส์ลีกอีกครั้งเมื่อไหร่ และในซีซั่นหน้าจะทำได้หรือไม่ ผลงานในลีกปัจจุบันเมื่อเทียบกับทีมใหญ่หลายทีม เช่น เรอัลมาดริด, บาร์เซโลนา, บาเยิร์น มิวนิค, แมนเชสเตอร์ซิตี้ และลิเวอร์พูล ซึ่งการถูกมองจากเด็กรุ่นใหม่ว่าแมนยูไนเต็ดประสิทธิภาพและความสามารถต่างๆลดลงเรื่อยๆ มันก็จะส่งผลในเรื่องสุดท้ายกับการเฟ้นหานักเตะเข้าทีม
การเฟ้นหานักเตะที่ดีที่สุด
ความล้มเหลวในการเข้ารอบของแมนยูที่นับวันเริ่มเกิดขึ้นจนเป็นภาพจำและยังไม่มีการการันตีว่าในทุกปีจะได้ไปแชมเปี้ยนส์ ลีก ทำให้แนวคิดของนักเตะอาชีพที่มองมายังทีมนี้เปลี่ยนไป ยกตัวอย่างเช่นในเดือนมกราคมนี้ หากแมนยูจะซื้อผู้เล่นคนหนึ่งเข้าสู่ทีม ซึ่งจะต้องแข่งกับทีมที่ยังอยู่ในการแข่งขันถ้วยใหญ่ของยุโรป ด้วยข้อเสนอที่เท่ากันทุกอย่าง
และตอนนี้กฎการย้ายทีมได้เปลี่ยนไปแล้ว นักเตะที่ย้ายสังกัดสามารถลงเล่นให้กับทีมใหม่ได้ทันที นั่นหมายความว่านักเตะก็ไม่ต้องมานั่งกังวลกับเรื่องนี้ แล้วทีนี้แมนยูจะเอาอะไรไปโน้มน้าวผู้เล่นดาวดัง นอกจากเม็ดเงินค่าจ้างที่สโมสรสามารถจ่ายให้ได้
KUBET – เว็บไซต์ให้คำปรึกษาข่าวฟุตบอล ข้อมูลฟุตบอลอัพเดทแบบเรียลไทม์ ช่วยให้คุณเรียนรู้เกมฟุตบอลล่าสุดและครอบคลุมที่สุด คะแนนฟุตบอล ลีกฟุตบอล สโมสรฟุตบอล และข้อมูลฟุตบอลโลก รวมถึงข้อมูลอื่นๆที่คุณอยากรู้ เช่นประวัติความเป็นมาของสโมสร หรือที่มาที่ไปของโลโก้แต่ละสโมสร โดยไม่ต้องออกจากบ้าน