ท็อดด์ โบลีห์ ประกาศแต่งตั้ง “เอ็นโซ่ มาเรสก้า” คุมทัพสิงห์บลูส์ในฤดูกาล 2024/25 อย่างเป็นทางการ เมื่อวันจันทร์ที่ 3 มิถุนายน 2024 ที่ผ่านมา KUBET ขอพาไปทำความรู้จักกับหนึ่งในลูกศิษย์ของป๋าเปปคนนี้กัน ว่าเขามีดีอย่างไร? เหตุใดเชลซีถึงฝากความหวังไว้กันแน่?
ก่อนจะมาเป็น “เอ็นโซ่ มาเรสก้า”
เอ็นโซ่ มาเรสก้า หรือ Vincenzo ‘Enzo’ Maresca เกิดวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 1980 ปัจจุบันอายุ 44 ปี เป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลอาชีพชาวอิตาลีและอดีตนักฟุตบอลอาชีพ ปัจจุบันหัวหน้าผู้ฝึกสอนของเชลซี สโมสรในพรีเมียร์ลีก
จุดเริ่มต้นเส้นทางฟุตบอลอาชีพเอ็นโซ่ถูกขนานนามว่าเป็น ‘นักเตะพเนจร’ อย่างแท้จริง เส้นทางฟุตบอลของเขาเริ่มตั้งแต่ที่เขาเติบโตมาจากอคาเดมี่ของคัลยารีในบ้านเกิดที่อิตาลี ก่อนมาเดบิวต์ฟุตบอลทีมชุดใหญ่ครั้งแรกกับเวสต์บรอมมิชอัลเบียน ทีมในประเทศอังกฤษเมื่ออายุ 18 ปี ซึ่งการโยกย้ายมาเล่นในอังกฤษช่วงแรกของเขา เผชิญกับปัญหามากมายพอสมควร โดยเฉพาะในเรื่องของภาษา แต่ใช้เวลาในการปรับตัวเพียงไม่นาน เขาก็มีพัฒนาการที่ดีขึ้น
ติดตามข่าวสารฟุตบอล โปรแกรมบอล วิเคราะห์บอลและประวัตินักเตะที่คุณไม่เคยทราบ ได้ที่เว็บไซต์ KUBET
ในปี 2000 มาเรสก้าได้กลับมาที่ถิ่นอิตาลีบ้านเกิดอีกครั้ง พร้อมลงเล่นกับทีมใหญ่อย่าง ยูเวนตุส ภายหลังดีลสัญญาลุล่วงด้วยค่าตัว 4.5 ล้านปอนด์ (เงินไทยราวๆ 210,000,000 บาท) โดยเขาลงเล่นให้กับยูเวนตุสไปทั้งหมด 58 เกม หลังจากนั้น ถูกยืมตัวไปยัง โบโลญญา และ ปีอาเซนซา ตามลำดับในช่วงระหว่างปี 2000-2003 ก่อนจะถูกปล่อยตัวให้กับ ฟิออเรนตีนา ในช่วงปี 2004 โดยยูเวนตุสยังถือสิทธิ์อยู่ครึ่งหนึ่ง
ต่อมาในปี 2005 มาเรสก้าได้ย้ายไปร่วมทัพกับ เซบิยา ในลาลิกา สเปน ซึ่งนี่เป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนในชีวิตของเขา และกลายเป็นสโมสรที่เขาอยู่ด้วยนานมากที่สุด ได้ลงสนามมากที่สุด รวมถึงเป็นทีมที่เขาประสบความสำเร็จในเส้นทางลูกหนังมากที่สุดอีกด้วย
มาเรสก้าพาเซบิยาคว้าถ้วยแชมป์ยูฟ่า ยูโรปา 2 สมัย , โกปาเดลเรย์ 1 สมัย , ซูเปร์โกปา 1 สมัย , ยูฟ่าซูเปอร์คัพ 2 สมัย จากนั้นชีพจรลงเท้าเขาอีกครั้ง โดยย้ายไปเล่นกับสโมสรอื่นๆ ปีละสโมสร ตั้งแต่ปี 2009 ย้ายไป โอลิมเบียโกส , มาลากา , ซัมป์โดเรีย , ปาแลร์โม และปิดฉากอาชีพการค้าแข้งกับสโมสรเฮลแลสเวโรนาในปี 2017
ติดตามข่าวสารฟุตบอล โปรแกรมบอล วิเคราะห์บอลและประวัตินักเตะที่คุณไม่เคยทราบ ได้ที่เว็บไซต์ KUBET
แขวนสตั๊ดและมุ่งสู่เส้นทางกุนซือ
ระยะเวลา 19 ปีในฐานะนักฟุตบอลอาชีพ กับ 11 สโมสรที่เคยร่วมงาน เขาได้รู้จักกับโค้ชชื่อดังหลายคน ไม่ว่าจะเป็น คาร์โล อันเชล็อตติ , มาร์เชลโล ลิปปี และ ฆวนเด้ รามอส
หลังจากการแขวนสตั๊ดไปไม่นาน เอ็นโซ่ มาเรสก้า มุ่งมั่นในเส้นทางงานโค้ชต่อทันที หนึ่งในแรงผลักดันของเขาคือ มานูเอล เปเลกรินิ อดีตเจ้านายที่มาลากา ที่เขาเคยค้าแข้ง โดยเขายกย่อง มานูเอล ว่าเป็นคุณพ่อของเขาในเรื่องของฟุตบอลเลยทีเดียว
จุดเริ่มต้นการเป็นโค้ชมืออาชีพของเขาเริ่มตั้งแต่ การเป็นผู้ช่วยมือขวาให้กับฟูโย ฟิออริน ก่อนจะย้ายไปเป็นผู้ช่วยที่เซบิยา ร่วมงานกับวินเชนโซ มอนเตลลา พร้อมกับรับบทบาทโค้ชเทคนิคในช่วงเวลาสั้นๆ จากนั้นฝีมือด้านกุนซือของเขาก็พัฒนามากยิ่งขึ้น โดยเขาได้กลับไปร่วมงานกับ มานูเอล เปเลกรินิ อีกครั้ง ในฐานะผู้ช่วยที่เวสต์แฮม ซึ่งใช้เวลาร่วมกัน 1 ปีครึ่ง ก่อนจะไปรับงานที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ในฐานะกุนซือชุด U-23 และได้ร่วมงานกับเปป กวาร์ดิโอลา
ผลงานคุมทีม U-23 ยอดเยี่ยม
ในช่วงเวลานี้เอง ที่ทำให้เริ่มเห็นแววการทำทีมของเขาแล้วว่า ระบบ 4-2-3-1 คือสิ่งที่เขาชื่นชอบมากที่สุด นักเตะเยาวชนมากมายที่เติบโตขึ้นมาในชุดของเขา ไม่ว่าจะเป็น เฟลิกซ์ เอ็นเมชา, โคล พาลเมอร์ หรือ โรมิโอ ลาเวีย
จุดเด่นของทีมในตอนนั้น มาเรสก้าทำทีมเกมรุกที่จัดจ้าน โดย 28 เกมในการคุมทีมของเขา พาทีมซัดไป 91 ประตูด้วยกัน เรียกได้ว่าเกมไหนที่ยิงได้ 5-6 ลูกเป็นเกมที่ธรรมดาไปเลยทีเดียว จากนั้นเขาก็พาทีมคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ
ติดตามข่าวสารฟุตบอล โปรแกรมบอล วิเคราะห์บอลและประวัตินักเตะที่คุณไม่เคยทราบ ได้ที่เว็บไซต์ KUBET
หลังจากที่คุมทีมอยู่ระยะหนึ่งจนเริ่มเชี่ยวชาญ เขาได้รับจ็อบใหม่ในฐานะกุนซืออย่างเต็มตัวกับทีมชุดใหญ่ของสโมสรปาร์มา แต่ทว่าก็ไม่ได้ทำผลงานสวยหรูมากนัก ส่งผลให้เขาคุมทีมได้เพียง 4 เดือน และไม่นาน เปป ก็ได้ชักชวนเขาไปเป็นผู้ช่วยคุมทีมชุดใหญ่ที่แมนซิตี้อีกครั้ง ซึ่งเขาคุ้นเคยกับทีมและร่วมงานกับเด็กดาวรุ่งบางคนมาก่อนแล้ว ทำให้เขาต่อกันติดอย่างรวดเร็ว
ความท้าทายครั้งใหม่
โดย มาเรสก้า เปรียบเสมือนมันสมองที่ช่วยเติมเต็ม เปป กวาร์ดิโอลา เป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญในการขับเคลื่อนทีมแมนซิตี้ให้คว้าทริปเปิลแชมป์มาครอง จนกระทั่งมาถึงช่วงซัมเมอร์ปี 2023 ความท้าทายครั้งใหม่ก็ได้มาเยือน เมื่อเขาได้รับข้อเสนอให้ไปคุมทัพเลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งเป็นภารกิจครั้งสำคัญมีเพียงหนึ่งเดียวคือ การพาทีมจิ้งจอกสยามเลื่อนชั้นขึ้นสู่พรีเมียร์ลีกอีกครั้ง
แน่นอนว่านี่เป็นบทพิสูจน์ตัวเองครั้งใหญ่ของเขา ที่จะทำให้เขาเติบโตอย่างยิ่งใหญ่ในเส้นทางสายอาชีพนี้ และเขาก็สามารถทำมันได้สำเร็จ โดยใช้กลยุทธ์เดียวกับที่เขาได้โปรไลเซนส์มา นั่นคือ “ฟุตบอลและหมากรุก” เป็นการปรับเปลี่ยนแผนเกมไปตามสถานการณ์ ซึ่งเขาทำผลลัพธ์ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมและน่าประทับใจ จนถูกทาบทามจากเชลซีให้ไปร่วมงานและได้รับความคาดหวังให้กอบกู้ชื่อเสียงกลับมาอีกครั้งหนึ่ง..
สำหรับเส้นทางการคุมทัพเชลซีในฤดูกาลหน้า เอ็นโซ่ มาเรสก้า จะทำภารกิจสำเร็จหรือไม่? ติดตามข่าวสารฟุตบอลทั้งหมด ได้ที่เว็บไซต์ KUBET World ให้คุณอัพเดทก่อนใครแบบเรียลไทม์ รวมถึงโปรแกรมบอล วิเคราะห์บอลแบบจัดเต็ม ประวัตินักเตะที่คุณไม่เคยทราบ พร้อมรับชมถ่ายทอดสดฟุตบอลทุกแมตช์จนจบฤดูกาล เพียงเป็นสมาชิกเคยูเบท ลุ้นเกมเดิมพันสุดมันส์และรับสิทธิประโยชน์อีกมากมาย สมัครสมาชิกที่นี่!