แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดได้ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศเอฟเอคัพได้สำเร็จ แต่เชื่อว่าแฟนผีคงจะไม่ได้รู้สึกภาคภูมิใจกับมันแม้แต่น้อย ทั้งที่ปีศาจแดงนำทีมโคเวนทรีไปแล้วถึง 3-0 สุดท้ายต้องไปจบด้วยการดวลจุดโทษ หรือนี่มันอาจจะเป็นฟางเส้นสุดท้ายของเทน ฮาก กับการคุมทีม เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ตามKUBET ไปดูกันได้เลยครับ
แน่นอนว่าเกมใหญ่ขนาดนี้ที่สนามเวมบลีย์ บุคลากรของสโมสรอย่างเซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ และผู้อำนวยการคนใหม่อย่างเจสัน วิลค็อกซ์ ต้องมานั่งชมเกมด้วย พวกเขาก็ได้เห็นผลงานสุดย่ำแย่กับตาตัวเองและมันไม่ใช่แค่เกมนี้เกมเดียว ที่ผ่านมาเหล่าผู้บริหารชุดใหม่น่าจะได้เห็นกันมาโดยตลอดกับผลงานของกุนซือที่ไม่สามารถคาดหวังอะไรไปได้มากกว่านี้
หลังจากที่ทัพปีศาจแดงขึ้นนำ 3-0 และแทนที่พวกเขาจะปิดเกมอย่างสวยงาม กลับปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไปจนต้องมาดิ้นรนกันจนถึงการดวลจุดโทษ แม้ว่าจะเข้ารอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ แต่นี่อาจจะเป็นฟางเส้นสุดท้ายของเทน ฮากกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดก็เป็นได้
ผลงานต้อนรับผู้อำนวยการเทคนิคคนใหม่
เจสัน วิลค็อกซ์ เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเมื่อ19 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา จากการทาบทามของกลุ่มอินีออส ด้วยผลงานสร้างชื่อเสียงมากมายสมัยทำงานกับเซาแธมป์ตัน รวมถึงอะคาเดมี่ของแมนเชสเตอร์ซิตี้ เขาคือหนึ่งในแรงผลักดันของนักเตะหลายคนสมัยอยู่กับเรือใบสีฟ้า แต่กลับต้องมาพบเจอและได้สัมผัสกับเกมที่ไร้ทิศทางของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเมื่อต้องเจอกับทีมที่อยู่ในดิวิชั่นต่ำกว่า
บทสัมภาษณ์ของเอริก เทน ฮาก
กุนซือชาวดัตช์ ยังรู้สึกภูมิใจที่สามารถพาทีมเข้าชิงชนะเลิศเอฟเอคัพได้สองฤดูกาลติดต่อกัน เขาได้กล่าวว่า
”แต่ก็ยังยอมรับว่าช่วง 20 นาทีสุดท้ายที่ทำผลงานได้อย่างย่ำแย่และไม่ควรเกิดขึ้น ความรู้สึกมันผสมปนเปกันอย่างชัดเจน เป็นความสำเร็จที่ได้เข้าชิงชนะเลิศสองครั้งในรอบ 20 ปี มันเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ แต่เมื่อคุณควบคุมเกมเอาไว้ได้ด้วยการขึ้นนำคุณควรพาทีมเข้าสู่เส้นชัย วิธีการที่เราทำมันไม่ดีตั้งแต่นาทีที่ 70 จนจบ เราทำผิดพลาดและไม่ควรเกิดขึ้น“ นี่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแทบจะเป็นประจำสำหรับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่การขึ้นนำไม่ว่าจะสกอร์เท่าไหร่ก็ไม่ได้การันตีว่าจะเอาชนะคู่แข่งได้ และต่อให้คู่ต่อสู้เป็นใครก็ทำให้เกมสูสีได้ตลอด
KUBET หรือบางที เจ้าตัวอาจจะกำลังรู้ในชะตาของตัวเองก็เป็นได้ แต่ด้วยผลการแข่งขันออกมาชนะ อย่างไรก็ต้องติดตามดูต่อไปจนได้ผลสรุปดีกว่าครับ
ผลการแข่งขันที่ปล่อยให้หลุดมือ
นับตั้งแต่สร้างปาฏิหาริย์เอาชนะลิเวอร์พูลได้อย่างเหลือเชื่อ 4-3 ในรอบก่อนรองชนะเลิศ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดลงเล่นไปแล้ว 5 นัดและไม่สามารถเก็บชัยชนะได้อีกเลย ในช่วงเวลาที่อยู่กับเกมเบรนท์ฟอร์ด พวกเขาเสียประตูตีเสมอในนาทีที่99 อีกไม่กี่วันต่อมาพวกเขาก็เสียประตูให้กับเชลซีในนาทีที่ 100 และ 101 เปลี่ยนผลจากนำ3-2 เป็นแพ้ 3-4 เกมกับลิเวอร์พูลในลีกพวกเขาเสียจุดโทษในนาทีที่ 84
ส่วนในเกมกับบอร์นมัธ พวกเขาก็เกือบจะเสียจุดโทษในช่วงท้ายอีกครั้ง แต่VAR มองว่าเป็นฟรีคลิกนอกกรอบก็เลยรอดตัวไปอย่างหวุดหวิด เทน ฮาก ได้กล่าวว่า “เราสามารถเล่นในระดับที่สุดยอดได้และเราก็ไปอยู่ในระดับที่ต่ำมากในเกมเดียวกัน มันอธิบายไม่ได้แต่มันเกี่ยวกับการจัดการเกม รับผิดชอบซึ่งกันและกัน และต้องทำให้ดีขึ้นกับเหตุการณ์แบบนี้ แต่สิ่งที่ยากที่จะทำคือเอาตัวเองไปอยู่ในตำแหน่งชัยชนะ แต่หลายครั้งที่เราปล่อยให้ตัวเองเป็นแบบนั้นและปล่อยให้ผลการแข่งขันหลุดมือไป ”
กุนซือรายนี้รู้ว่าอะไรมันจะเกิดขึ้น แต่เขาก็ดูเหมือนว่าจะไม่แก้ไขอะไรเลย มันเป็นความน่าอับอายถึงขั้นที่นั่งฝั่งกองเชียร์แมนยูในสนามวันนั้นหายไปบางส่วนตั้งแต่ยังไม่หมด 90 นาที
โอกาสสุดท้ายของเทน ฮาก
มาร์ค โรบินส์ ผู้จัดการทีมโคเวนทรี เป็นอดีตนักเตะของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในยุคของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ในช่วงปี 1988-1992 และเคยอยู่ในทีมชุดแชมป์เอฟเอคัพ เมื่อปี 1990 เขาก็เกือบทำให้ทีมเก่าไม่ได้ไปถึงรอบชิงชนะเลิศ แต่ด้วยผลการแข่งขันแบบนี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับคำยกย่องในการทำงานของเขา
เจมี่ คาร์ราเกอร์ นักวิเคราะห์ชื่อดังจากสกายสปอร์ตมองว่าผลงานของโคเวนทรี เป็นการทำให้เอริก เทน ฮาก อาจถูกไล่ออก “ผมคิดว่าห้องแต่งตัวของพวกเขาตอนนี้คงเป็นบรรยากาศที่น่าอับอาย” จากการแข่งขันนัดนี้เชื่อว่าเซอร์จิมน่าจะได้ข้อสรุปกับการตัดสินใจง่ายขึ้นว่าอยากให้เทนฮาก อยู่กับเขาและทีมต่อไปอีกหรือไม่
KUBET – เว็บไซต์ให้คำปรึกษาข่าวฟุตบอล ข้อมูลฟุตบอลอัปเดตแบบเรียลไทม์ ช่วยให้คุณเรียนรู้เกมฟุตบอลล่าสุดและครอบคลุมที่สุด คะแนนฟุตบอล ลีกฟุตบอล สโมสรฟุตบอล และข้อมูลฟุตบอลโลก รวมถึงข้อมูลอื่นๆที่คุณอยากรู้ เช่นประวัติความเป็นมาของสโมสร หรือที่มาที่ไปของโลโก้แต่ละสโมสร โดยไม่ต้องออกจากบ้าน