วันนี้KUBET พาทุกคนมาอยู่กันในพาร์ทที่สองแล้ว โดยใน World cup ที่แลกมาด้วยชีวิตผู้คน Part1 เราได้พูดถึงเบื้องหลังการเป็นเจ้าภาพของกาตาร์ และในวันนี้เราจะพาทุกคนไปเจาะเบื้องลึกอื่นๆที่น้อยคนที่จะรู้ แต่จะเป็นเรื่องอะไรตามไปดูกันเลยครับ
World cup 2022
วิธีรับมือจากการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกของกาตาร์2022
วิธีที่พวกเขาทำก็คือการทุ่มเงินกว่า 220,000 ล้านดอลลาร์ซึ่งมากที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์เจ้าภาพ เพื่อสร้างโปรเจกต์ใหญ่ระดับโลกนี้ให้สำเร็จ และแน่นอนว่าการทำทุกอย่างให้ออกมาเพอร์เฟคและเหมาะสมกับการเป็นเจ้าภาพ พวกเขาจำเป็นต้องจ้างแรงงานต่างชาติที่มีไม่ต่ำกว่า 30,000 คนเพื่อลงมือลงแรงสร้างสนามและระบบคมนาคม
แรงงานที่ว่านี้ส่วนใหญ่มาจากอินเดีย บังกลาเทศ เนปาล และฟิลิปปินส์ แน่นอนอยู่แล้วว่า ฟุตบอลโลกทุกครั้งต้องแลกมาด้วยชีวิตของแรงงาน หลายสาเหตุปะปนกันไป บางคนเป็นโรค บางคนเกิดอุบัติเหตุ บางคนเสียชีวิตจากการทำงาน และมีการเปิดเผยตลอดในระยะเวลา12ปีที่ประเทศกาตาร์ มีแรงงานต่างชาติที่รับหน้าที่เป็นผู้สร้างสนามฟุตบอลได้เสียชีวิตไปกว่า 6500 คน หรือโดยเฉลี่ยแล้วมีแรงงานต่างชาติเสียชีวิตกว่า 542คนต่อปี
สื่อดังจากThe Guardianได้ระบุว่ามีผู้เสียชีวิตจากฟุตบอลโลกครั้งนี้
– ชาวอินเดียกว่า2700คน
– เนปาลกว่า1600คน
– บังกลาเทศกว่า1000คน
– ปากีสถานกว่า800คน
– ศรีลังกา600คน
– ส่วนฟิลิปปินส์กับเคนยาไม่มีการระบุตัวเลข
ส่งผลให้ประเทศกาตาร์ถูกโจมตีเรื่องการปฏิบัติต่อแรงงานอย่างไม่เป็นธรรมเช่น
– การบังคับให้ทำงานท่ามกลางสภาพอากาศร้อนจัด โดยไม่ยอมให้หยุดพัก
– การหักเงินเดือนอย่างไม่เป็นธรรม รวมถึงจ่ายเงินล่าช้ากว่ากำหนด
สื่อรายงานว่าแรงงานเหล่านี้ได้รับค่าจ้างวันละ527บาทเท่านั้น แต่แรงงานต้องทำงานไม่ต่ำกว่า 11 ชั่วโมงต่อวัน ท่ามกลางอุณหภูมิที่สูงถึง 38องศาเซลเซียส ความร้อนและความเครียดทำให้มีแรงงานเสียชีวิตไปแล้วหลายคน แถมที่พักอาศัยรวมถึงระบบอุปโภคที่รองรับของแรงงานเหล่านี้ก็ยังไม่มีมาตรฐานอีกด้วย เช่นน้ำดื่มที่สกปรกมากในพื้นที่ก่อสร้าง
การกระทำดังกล่าวไม่ต่างจากการเป็นทาสเพียงมันมีแค่คำว่าแรงงานและโปรเจกต์สวยหรูอย่างคำว่าฟุตบอลโลกเป็นฉากหน้าเท่านั้นเอง และมากไปกว่านั้นประเทศกาตาร์ยังถูกแฉอีกว่าหลายปีที่ผ่านมาพวกเขากดขี่แรงงานอย่างหนัก บางคนไม่รู้มาก่อนว่าจะต้องทิ้งครอบครัวมาทำงานหนักแบบนี้และที่สำคัญไปกว่านั้นยังได้รับผลตอบแทนอันน้อยนิดอีกต่างหาก นอกจากนี้ ยังมีการละเมิดสิทธิแรงงาน ทุบตี กระทำชำเราทางเพศ ยึดหนังสือเดินทาง และให้อยู่ที่พักที่สกปรกอีกด้วย
KUBET ไม่อยากจะคิดว่าถ้าตัวแอดเองได้ไปอยู่ในสภาพแบบนั้นเลยนะครับ อ่านมาถึงตรงนี้แล้วมีหลายคำถามเต็มหัวไปหมดว่าทำไมเพื่อนมนุษย์ด้วยกันถึงได้ทำกันขนาดนี้
สาเหตุที่แรงงานข้ามชาติเสียชีวิต
สาเหตุที่พวกเขาเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก บางคนพบว่าพวกเขามีอาการหัวใจวาย และเส้นเลือดในสมองแตก ซึ่งเป็นผลจากอุณหภูมิของประเทศกาตาร์ที่สูงตลอดทั้งปี นอกจากนี้ยังมีการฆ่าตัวตายเพราะว่าพวกเขารับไม่ได้กับการต้องทำงานหนักเกินกว่าข้อตกลงที่กำหนดเอาไว้ รวมถึงบางคนที่ยังไม่ได้รับเงินค่าจ้างอีกต่างหาก
ทางด้านรัฐบาลกาตาร์
รัฐบาลกาตาร์ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจออกมาแย้งว่าสื่อกำลังทำให้ผู้คนเข้าใจผิดเพราะผู้เสียชีวิตดังกล่าวไม่ได้เกิดจากการสร้างสนามฟุตบอลให้อย่างเดียวยังมีสาเหตุอื่นๆอีกด้วยโดยพวกเขาระบุว่าระหว่างปี 2014 ถึง 2020 มีแรงงานที่เสียชีวิตเกี่ยวกับการสร้างสนามเพียง 37 คนเท่านั้นแต่หลายฝ่ายยังเชื่อว่าตัวเลขที่รัฐบาลกาตาร์ระบุออกมานั้นต่ำกว่าความเป็นจริงอย่างมาก เพราะแท้จริงแล้วมีคนเสียชีวิตจากการทำงานหนักในสภาพอากาศที่ร้อนจัดมากกว่า37คนแน่นอน
สิ่งนี้เองส่งผลให้นักเตะหลายคนและทีมชาติหลายประเทศไม่รู้สึกยินดีกับการมาเล่นที่ประเทศกาตาร์เพราะนอกจากจะร้อนจัดและต้องปรับเวลามาแข่งตามซีซั่น จนทำให้นักเตะหลายคนพลาดโอกาสมาเล่นทัวร์นาเมนต์นี้ นอกจากนี้ประเทศกาตาร์ยังเต็มไปด้วยกลิ่นคาวที่มาจากการทุจริตและแน่นอนว่ามันแลกมาด้วยชีวิตผู้คนอีกด้วย
ข้อความสัมภาษณ์จากโดยบรูโน่ เฟอร์นันเดส
โดยบรูโน่ เฟอร์นันเดส นักเตะดังจากทีมชาติโปรตุเกสได้ให้สัมภาษณ์ว่า “แน่นอนผมคิดว่ามันแปลกมากมันไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมเลยในการ แข่งขันฟุตบอลโลกผมคิดแทนหลายๆคนนะว่ามันไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดีเลย เด็กๆยังอยู่ระหว่างการเรียนหลายคนยังคงทำงานอยู่ในช่วงที่มีการแข่งขัน”
“อีกทั้งพวกเราเองยังคงได้ยินข่าวที่ไม่ดีมาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาด้วยว่ามีคนต้องเสียชีวิตจากการต้องสร้างสนามให้ยิ่งใหญ่เหมาะกับทัวร์นาเมนต์แบบนี้ ผมคิดว่าไม่มีใครรู้สึกยินดีหรอกครับถ้าหากว่ามีคนต้องตาย ผมต้องการให้ฟุตบอลเป็นของทุกคน ทุกคนต้องมีส่วนร่วมไม่ว่าจะใครหน้าไหนพวกเขาควรต้องมีสิทธิ์ได้รับมันเพราะฟุตบอลโลกเป็นของคนทุกคน”
KUBET นี่คืออีกหนึ่งจากบทสัมภาษณ์ของนักเตะชื่อดังอย่างบรูโน่ เฟอร์นันเดส ปัจจุบันที่ค้าแข้งให้กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
ข้อความสัมภาษณ์จากอดีตกัปตันตันทีมชาติเยอรมัน
ส่วนทางด้านฟิลิปป์ ลาห์มอดีตกัปตันตันทีมชาติเยอรมัน เขายืนยันชัดเจนว่าเขาจะไม่ขอเดินทางมาเชียร์ กองทัพอินทรีเหล็กในฟุตบอลโลกครั้งนี้ เพราะว่าเค้าไม่อยากเอาตัวเองเหยียบเข้าประเทศกาตาร์ โดยเขาเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า
“ผมจะไม่มีทางเดินทางไปที่ประเทศกาตาร์ในฐานะใดทั้งนั้น สิทธิมนุษยชนควรมีบทบาทในการตัดสินใจเลือกประเทศเจ้าภาพ สิทธิมนุษยชนหมายถึงความยั่งยืนของประเทศถ้าประเทศไหนมีสัญญาณไม่ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้พวกเขาควรถูกพิจารณาและตัดสินใจไม่ให้ประเทศนั้นมีบทบาทใดในอนาคต”
นอกจากนี้ทีมชาติเดนมาร์กยังผุดไอเดียให้นักเตะพวกเขา สวมเสื้อซ้อมโดยมีข้อความว่า ” Human life for all ” หรือว่าสิทธิมนุษยชนสำหรับทุกคนนั่นเอง โดยพวกเขาอยากทำชุดที่มีโทนดำมืดเพื่อไว้ทุกข์และเพื่อประท้วงต่อเจ้าภาพสำหรับสิ่งที่ขาดหายไปอย่างคำว่าสิทธิมนุษยชนแต่สุดท้ายฟีฟ่าห้ามเอาไว้เพราะเขาไม่อยากให้มีข้อความที่แฝงเรื่องการเมืองในฟุตบอลโลกครั้งนี้ อย่างไรก็ตามเดนมาร์กยังยืนยันว่านี่คือข้อความง่ายๆเกี่ยวกับพื้นฐานของมนุษย์ตามหลักสากลแต่พวกเขาก็ยอมรับในสิ่งที่ฟีฟ่าร้องขอ
เห็นได้ชัดเลยว่าฟุตบอลโลกในครั้งนั้นมีสิ่งชอบมาพากลมากมาย และก็กลายเป็นฟุตบอลโลกอีกหนึ่งครั้งที่ขึ้นชื่อเรื่องการทุจริตมากที่สุด แต่ไม่มีสิ่งอื่นใดจะหนักไปกว่าชีวิตแรงงานหลายพันคนที่สูญเสียไปแล้ว
KUBET – เว็บไซต์ให้คำปรึกษาข่าวฟุตบอล ข้อมูลฟุตบอลอัพเดทแบบเรียลไทม์ ช่วยให้คุณเรียนรู้เกมฟุตบอลล่าสุดและครอบคลุมที่สุด คะแนนฟุตบอล ลีกฟุตบอล สโมสรฟุตบอล และข้อมูลฟุตบอลโลก รวมถึงข้อมูลอื่นๆที่คุณอยากรู้ เช่นประวัติความเป็นมาของสโมสร หรือที่มาที่ไปของโลโก้แต่ละสโมสร โดยไม่ต้องออกจากบ้าน