KUBET ภูมิใจนำเสนอ 5 เรื่องจริงน่ารู้ของ “เดวิด เบคแคม” หลังจากที่ได้มีการเผยแพร่ สารคดีชีวประวัติ “BECKHAM” ตำนานนักฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ ตัวตึงแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ไอคอนนิกของนักฟุตบอลทั่วโลก จุดเปลี่ยนของแฟชั่นมากมาย ดาวเด่นที่เป็นมากกว่านักฟุตบอล กับตำนานลูกปั่นโค้งเพชฌฆาต สำหรับเรื่องราวน่ารู้ของอดีตนักเตะที่ได้เปิดเผยออกมาให้ได้รับรู้กัน จะเป็นเรื่องใดบ้าง ไปชมกันได้เลยกับ
5 เรื่องจริงน่ารู้ของ ” “BECKHAM” ” จากสารคดีชีวประวัติ
เรื่องที่ 1 ผู้เปลี่ยนโฉมหน้าของนักฟุตบอลรุ่นใหม่ หากมองย้อนกลับไปบนเส้นทางของวงการฟุตบอลในตอนแรกที่ได้มีเพียงแข่งขัน โยกย้ายทีมกันเท่านั้น ทว่าในช่วงที่ เดวิด เบคแคม มีชื่อเสียงขึ้นมา เขาได้เปิดโลกใบใหม่ไปพร้อมกัน นั่นคือการเข้ามาของสินค้าทางการกีฬาอีกมากมาย ทั้งรองเท้า เสื้อผ้า เครื่องประดับมากมาย ที่ทำให้โลกของฟุตบอลเชื่อมโยงกับเรื่องของแฟชั่น และการเพิ่มมูลค่าให้ตัวนักเตะได้มากกว่าการโยกย้ายทีมหรือความสามารถ
เรื่องราวของเขาทำให้กีฬาฟุตบอลเป็นที่ยอมรับในวงกว้างที่ไม่ใช่แค่การทำผลงานในสนาม และไม่ใช่แค่ในแวดวงกีฬาเท่านั้น หลายสื่อ หลายแขนงเริ่มหันมาให้ความสนใจในตัวนักกีฬาที่ทำผลงานได้โดดเด่นและเป็นที่นิยมมากขึ้น รวมถึงเพิ่มมูลค่าให้นักเตะเหล่านั้นด้วยการเข้าไปสนับสนุน หรือ การเป็นสปอนเซอร์ให้นั่นเอง
เรื่องที่ 2 ในเรื่องของความรัก กับคำพูดของเขา “เห็นคนนั้นไหม ผมจะแต่งงานกับเธอคนนั้น” เขาพูดกับเพื่อนในตอนที่กำลังนั่งดูโทรทัศน์ที่ปรากฏภาพของหญิงสาวคนหนึ่งในวงเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังจากประเทศอังกฤษ ชื่อของเธอคือ วิกทอเรีย แคโรไลน์ ในตอนนั้นที่เธอเป็นทั้งนักร้อง นางแบบ นักออกแบบแฟชั่น และเขาก็ตกหลุมรักเธออย่างจัง ซึ่งปัจจุบันทั้งคู่ก็ได้ครองรักกันพร้อมกับลูกอีก 4 คน
เรื่องราวของทั้งสองถูกเปิดเผยให้ได้ชมกันในสารคดี ในตอนที่ทั้งสองได้เจอหน้ากันจริงๆ หลังจากที่เดวิดได้เจอตัวเป็นๆของหญิงสาวก็ทำให้เขายิ่งชอบเธอมากขึ้นนั่นทำให้เกิดการสานสัมพันธ์กันมาตั้งแต่วันนั้น
(ติดตามข่าวสารการเคลื่อนไหวของวงการฟุตบอลได้ทางเว็บไซต์ KUBET)
เรื่องที่ 3 ปมขัดแย้ง กับ เกล็น ฮอดเดิล (อดีตผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ) หลังจบฟุตบอลโลกที่เริ่มเห็นได้ชัดแล้วว่าทั้งสองไม่ลงรอยกันก่อนจะมีการออกมาเปิดเผยอย่างชัดเจนเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว แน่นอนว่าในช่วงเวลานั้นเดวิด เบคแคม กำลังมีชื่อเสียงโด่งดัง พร้อมกับคบหากับแฟนสาวชื่อดัง นั่นจึงมีภาพของเขาถูกปล่อยออกมาผ่านหน้าสื่ออยู่บ่อยครั้ง ในการออกอีเว้นท์งานต่างๆซึ่งเกล็นคิดว่าสิ่งเหล่านั้นมันไม่เหมาะสม เขาอยากให้นักฟุตบอลมีสมาธิกับการเล่นฟุตบอล การฝึกซ้อมในการแข่งขันรับใช้ชาติมากกว่า
อย่างไรก็ดี เดวิด เบคแคม เองก็พิสูจน์ตัวเองอยู่เสมอว่าเขาสามารถทำได้ แต่ทุกครั้งที่เกล็นออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเขา มันไม่เหมือนเจ้านายกับลูกน้องที่พร้อมจะให้การสนับสนุนกัน ยิ่งกว่านั้นในตอนที่เขาโดนใบแดง ซึ่งเกล็นก็ให้สัมภาษณ์ว่าใบแดงของเขามีส่วนอย่างมากที่ทำให้ทีมแพ้ และเราเสียใจกันมาก นั่นทำให้เดวิดเห็นว่ามันไม่ถูกต้องแล้ว กับคำพูดแบบนั้น
เรื่องที่ 4 แพะรับบาป กับฟุตบอลโลกปี 1998 ในช่วงเวลาที่เขาโดนประณามอย่างหนักหน่วง สืบเนื่องมาจากคำพูดของเกล็นข้างต้น ที่กล่าวหาว่าเขาเป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้ทีมชาติอังกฤษไม่ได้แชมป์ในปีนั้น รวมถึงการได้ใบแดงของเขาในสนามนั่นด้วย สื่อพาดหัวข่าวหน้าหนึ่งว่า “เรามีสิงโตหัวใจนักสู้อยู่ 10 คน แต่มีเด็กโง่อยู่ 1คน ” พร้อมแปะภาพของเดวิด เบคแคมเป็นเด็กคนนั้น หลายสื่อขยี้ประเด็นการที่เขาโดนใบแดงและเป็นสิ่งที่ทำให้อังกฤษตกรอบ
หลังจากนั้นเขาก็โดนกระแสตีกลับอย่างแรง จากดาวรุ่งที่ใครชื่นชมกลายเป็นการกลับมาบ้านคราวนั้นของเขาได้รับแต่เสียงก่นด่า สาปแช่ง พร้อมขู่ทำร้ายไม่เว้นวัน ทั้งหมดนี่คือผลพวงของใบแดงที่เขาได้ในคราวนั้น เขาโดนขู่ลักพาตัวลูกชาย นั่นร้ายแรงที่สุด แต่สุดท้ายแล้ว ต่อให้ทั้งโลกจะเกลียดเขา แต่เมื่อเขากลับไปแมนยู มันก็คือเกราะป้องกันความปลอดภัยของเขาอย่างที่สุด เขากลับมาอย่างยิ่งใหญ่ได้อีกครั้งที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่นี่ต้อนรับเขาเสมอ
“เป็นไงบ้างลูกชาย ไม่ต้องคิดมาก ไม่ต้องอ่าน ไม่ต้องดูอะไร ไปพักผ่อน เสร็จแล้วกลับมาบ้านเรา เราจะดูแลนายเอง” เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
(ติดตามข่าวสารการเคลื่อนไหวของวงการฟุตบอลได้ทางเว็บไซต์ KUBET)
เรื่องที่ 5 เฟอร์กี้ พ่อคนที่สอง และช่วงเวลาแตกหัก เขาอยู่กับเฟอร์กูสันตั้งแต่สมัยเยาวชน ที่เฟอร์กี้อนุญาตให้เขาเข้าไปชมห้องแต่งตัวของรุ่นพี่ทีมชุดใหญ่ ซึ่งนี่เป็นเหตุการณ์ที่แปลกประหลาดมาก
“เฟอร์กี้ไม่เคยทำแบบนี้ ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะพาคนนอกมาอยู่ในห้องแต่งตัวของเรา ในตอนนั้นเดวิด เบคแคมอายุแค่ 13 ปี ในใจผมคิดแล้วว่าเด็กนั้นคงเป็นนักฟุตบอลของยูไนเต็ดอย่างแน่นอนไม่งั้นไม่ได้เข้ามาแน่นอน” Steve Bruce อดีตนักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
นี่คือคำพูดที่ช่วยยืนยันว่าเฟอร์กูสันดูแลเดวิด เบคแคมดีขนาดไหน โดยเฉพาะช่วงเวลาสำคัญในชีวิตของเขาที่ประสบกับความยากลำบาก หลังจบศึกฟุตบอลโลกปี 98 ไม่มีใครเลยสักคนที่จะอ้าแขนต้อนรับเขา เว้นแต่เฟอร์กี้ เขาเข้ามาในตอนที่เดวิดย่ำแย่ที่สุด ยื่นมือเข้ามาโอบกอดพร้อมให้ความอบอุ่นกับลูกชายที่เคยเลี้ยงดูมากับมือ ทว่าช่วงเวลาล่วงเลยมาก็ทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้นระหว่างสองคน
เราต้องยอมรับว่าเขามีชื่อเสียง กลายเป็นคนของสังคมที่ไม่ใช่แค่ในวงการฟุตบอล แต่สำหรับคนดังทั่วประเทศเขาคือคนนั้น แน่นอนว่าเฟอร์กูสันเล็งเห็นความสำคัญของทีมเป็นอันดับหนึ่ง และชื่อเสียงของเดวิด เบคแคมมันมากเกินไป มันควบคุมอะไรไม่ได้แล้ว เกิดการโต้เถียงกันในห้องแต่งตัวก่อนเฟอร์กี้จะระเบิดอารมณ์ด้วยการเตะรองเท้าสตั๊ด กระเด็นไปโดนคิ้วของเดวิด เบคแคม
“ทำไมจะจำไม่ได้ละครับ ก็สตั๊ดนั่นมันของผมเอง” Ole Gunnar Solskfaer อดีตนักเตะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
นั่นทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนเปลี่ยนไป ก่อนจะมีสารถึงเดวิด เบคแคม ให้เขาย้ายทีมซึ่งคนที่มาบอกไม่ใช่เฟอร์กี้ นั่นทำให้เขาติดค้างในใจเสมอว่าทำไมเฟอร์กี้ไม่มาบอกเขาเอง ทว่าเมื่อเวลาล่วงเลยมา เขากลับมองว่า เป็นเรื่องที่ดีมากจริงๆที่เฟอร์กี้ไม่ได้เป็นคนมาบอก เพราะถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ เขาคงใจสลายมาก
และนี่ก็คือเรื่องจริงของ เดวิด เบคแคม ที่เปิดเผยในสารคดีชีวประวัติของเขา ยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับวงการฟุตบอล ประวัติศาสตร์น่ารู้ เหตุการณ์สำคัญที่เคยเกิดขึ้นพร้อมพลิกหน้าประวัติศาสตร์ฟุตบอล จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เกิดศึกการแข่งขันฟุตบอลมากมาย ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ KUBET