KUBET มาต่อกันด้วย Part .2 กับเหตุการณ์สุดช็อกที่เคยเกิดขึ้นในศึกฟุตบอลโลก อย่างไรก็ดีเหตุการณ์ดังกล่าวก็เกิดขึ้นจากความหละหลวมของกฎที่ยังไม่หนักแน่นมาพอในการแข่งขันสมัยก่อน ซึ่งปัจจุบันการแข่งขันระดับโลกได้มีการพัฒนา เปลี่ยนแปลง และปรับปรุงแก้ไขในส่วนที่เป็นช่องโหว่ของเกมการแข่งขันให้สมบูรณ์ขึ้นมาแล้ว สำหรับเหตุการณ์ที่ผ่านมา ก็มีไว้เพื่อการศึกษาและดูเป็นตัวอย่างของความผิดพลาดที่เคยเกิดขึ้น เพื่อไม่ทำให้เกิดความผิดซ้ำรอยได้อีกนั่นเอง
10 เหตุการณ์สุดช็อกในศึกฟุตบอลโลก [EP.2]
เรื่องที่ 6 ปี 2002 เกมอัปยศ เกาหลีใต้ อิตาลี
ชนวนความขัดแย้งเกิดขึ้นจากผู้ตัดสินชาวเอกวาดอร์ร่วมกับผู้ช่วยผู้ตัดสินอีกสองคนได้ทำให้ศรัทธาในฟุตบอลโลกนั่นเสื่อมถ้อยอย่างไม่น่าให้อภัย การฉ้อโกงและลำเอียงอย่างเห็นได้ชัดสำหรับการกระทำเพื่อให้เจ้าภาพอย่างเกาหลีใต้ได้เปรียบในการแข่งขัน จนนักเตะอิตาลีไม่สามารถทนความไม่ยุติธรรมครั้งนี้ได้เตรียมพร้อมจะใส่กรรมการตลอดทั้งเกม
อิตาลีสามารถทำแต้มได้ก่อนในเกมการแข่งขัน ทว่าความลำเอียงของกรรมการก็ทำให้เกาหลีใต้ตีเสมอได้ ทำให้มีการต่อเวลาพิเศษเกิดขึ้นในการแข่งโดยใช้ระบบที่ว่าใครยิงเข้าก่อน ก็ได้รับชัยชนะไปเลย ทว่าในช่วงครึ่งหลังที่เกาหลีใต้ลากบอลเข้าเขตโทษ แต่อิตาลีกลับไม่ได้ยิงลูกโทษแถมยังได้ใบแดงแบบ อิหยังวะ บทสรุปของเกมที่เกาหลีใต้คว้าชัยไปได้ นั่นสร้างความบาดหมางระหว่างประเทศเป็นอย่างมากถึงขั้นลีกฟุตบอลจากอิตาลีไม่ต้อนรับนักเตะจากเกาหลีใต้เลยทีเดียว
ในส่วนของผู้ตัดสินชาวเอกวาดอร์คนดังกล่าวก็ถูกขึ้นบัญชีดำห้ามเข้าประเทศอิตาลีตลอดไป
เรื่องที่ 7 ปี 1994 ประตูแห่งความตาย เจ้าเอสโกบาร์
ในศึกฟุตบอลโลกที่โคลอมเบียต้องเจอกับสหรัฐอเมริกาเจ้าภาพในปีดังกล่าว นัดชิงชนะเลิศที่อันเดรส เอสโคบาร์ กองหลังทีมชาติโคลอมเบียทำพลาดยิงเข้าประตูตัวเองเป็นเหตุให้ทีมชาติโคลอมเบียพลาดแชมป์โลกในปีนั้นทันที ชนวนแห่งความพ่ายแพ้ทำให้แฟนบอลประณามเขาแต่ยิ่งไปกว่าประตูแห่งชีวิต คือการเฝ้ามองของเจ้าพ่อค้ายารายใหญ่ของโคลอมเบียที่สูญเสียเม็ดเงินมหาศาลในการเดิมพันการแข่งนัดดังกล่าว
หลังเสร็จศึกอันเดรสได้เดินทางกลับไปยังบ้านเกิดของเขาก่อนจะออกไปพักผ่อนกับเพื่อนและนั้นก็เป็นการพักผ่อนครั้งสุดท้ายของเขาเมื่อถูกบอดี้การ์ดของเจ้าพ่อตามมายิงซ้ำไป 6 ลูกพร้อมคำพูดว่า “โกล” หมายถึงการยิงประตูนั่นเอง ภายหลังผู้กระทำผิดถูกจับแต่การยัดเงินก็ทำให้โทษของเขาน้อยลงพร้อมออกมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ
(ติดตามข่าวสารการเคลื่อนไหวของวงการฟุตบอลได้ทางเว็บไซต์ KUBET)
เรื่องที่ 8 ปี 2002 เกมล้มยักษ์
ศึกฟุตบอลโลกที่มีญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพร่วม การแข่งขันที่ฝรั่งเศสต้องเจอกับเซเนกัล แน่นอนว่าฝรั่งเศสในยุคนั้นเต็มไปด้วยท็อประดับแนวหน้าของวงการฟุตบอล แต่เซเนกัลกลับไร้ชื่อเสียงเรียงนามของนักเตะทั้งทีม อย่างไรก็ดี เซเนกัลก็เคยเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสมาก่อน ทำให้พวกเขาคุ้นเคยการเล่นแบบฝรั่งเศสเป็นอย่างดี เหล่าแฟนบอลต่างลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่าศึกครั้งนี้ ฝรั่งเศสนอนมาเห็นๆ
การแข่งขันในนาทีที่ 30 เซเนกัลขึ้นนำฝรั่งเศส 1 ประตูต่อ 0 ด้วยลูกเขี่ยของกองหน้าโนเนม ที่เหมือนจะพลาดเป้าในตอนแรกแต่จังหวะบอลก็ไหลมาโดนขาของเขาเองก่อนจะเข้าประตูไปท่ามกลางเหล่าซุปตาร์ลูกหนังที่ยืนหน้าเหว๋ออยู่ตรงนั้น อย่างไรก็ดีฝรั่งเศสเร่งเครื่องเต็มสูบเพื่อทวงคืนสกอร์แต่ก็ยิงไม่เข้าเลยสักลูก จบเกมด้วยการที่เซเนกัลคว้าชัย ล้มยักษ์ได้สำเร็จ
เรื่องที่ 9 ปี 2006 เฮดบัตต์สะท้านโลกของซีดาน
ในศึกฟุตบอลโลกที่เยอรมันเป็นเจ้าภาพในปี 2006 เรื่องราวของนักเตะสุดยอดกัปตันทีมชาติของฝรั่งเศส ซีดาน นักเตะยอดเยี่ยมจากทีมเรอัลมาดริดและคู่กรณีมาร์โก้มาเตรัซซี่ กองหลังทีมชาติอิตาลี เหตุการณ์ที่ซีดานใช้หัวโขกเข้าไปที่หน้าอดของมาร์โก้ มาเตรัซซี่ อย่างจัง จนลงไปนอนดิ้นอยู่กับพื้นอย่างทุรนทุราย นั่นทำให้ซีดานโดนใบแดงไล่ออกจากสนาม
ชนวนที่ทำให้เกิดเหตุ เกิดจาการเล่นตุกติกในเกมของมาร์โก้ ที่มีทั้งการดึงเสื้อ และการพูดจาไม่ดีต่อกัน เหตุการณ์ดังกล่าวมีการสร้างรูปปั้นซีดาน โขกสะท้านโลกขึ้นมาด้วย
เรื่องที่ 10 ปี 1982 นายประตูจอมโหด
โทนี่ ชูมัคเกอร์ ได้รับฉายามาจากการแข่งขันฟุตบอลโลกในปี 1982 ศึกระหว่างเยอรมันกับฝรั่งเศส ซึ่งเป็นเหตุการณ์ในจังหวะที่ โทนี่ ชูมัคเกอร์ เข้าชาร์ตเพื่อป้องกันประตู ทว่าความรุนแรงนั่นก็ทำให้กองหลังทีมชาติฝรั่งเศสฟันหักไปทั้งหมด 3 ซี่ และอาการหนักถึงขั้นต้องนอนรักษาตัวในห้องไอซียูอยู่หลายวัน
และนี่ก็คือ 10 เหตุการณ์ความวุ่นวายที่เคยเกิดขึ้นในหน้าประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลกตั้งแต่มีการแข่งขันเกิดขึ้นมา ยังมีเรื่องราวความน่าตื่นเต้น และสาระน่ารู้เกี่ยวกับจักรวาลให้ศึกษา และค้นคว้าอีกมากมาย สามารถติดตามข่าวสารการเคลื่อนไหวของวงการฟุตบอลได้ทางเว็บไซต์ KUBET