KUBET เปิดประวัตินักเตะในตำนานต่อจาก [Part 1] กับ “โยฮัน ไกรฟฟ์” จากอดีตนักเตะข้างถนนสู่สุดยอดนักเตะที่โลกต้องจารึกชื่อไว้ สร้างชื่อเสียงด้วยฝีเท้าและรางวัลมากมายจนได้รับฉายา “นักเตะเทวดา” เขาคือนักเตะที่ทำให้เบอร์ธรรมดากลายเป็นเบอร์ที่พิเศษกว่าใคร แถมยังเป็นผู้ที่ให้แง่คิดที่ใช้ได้ในโลกจริง และนี่คือเรื่องราวของหนึ่งบุคคลในตำนานวงการโลกฟุตบอล ตามเคยูไปดูกันเลย
ประวัตินักเตะ “โยฮัน ไกรฟฟ์”
เสื้อเบอร์ 14 ของโยฮัน ไกรฟฟ์
ทุกคนเคยรู้หรือไม่? ว่าจริงๆแล้ว “โยฮัน ไกรฟฟ์” เคยสวมเสื้อหมายเลข 9 มาก่อน แต่เมื่อต้นฤดูกาลในปี 1970 เขาเกิดอาการบาดเจ็บ ทำให้ไม่สามารถลงเล่นช่วยทีมได้ในช่วงแรก และเสื้อเบอร์ 9 จึงตกไปอยู่กับ เจอร์รี่ โมเลน เพื่อนร่วมทีมของเขา
แต่หลังจากเขาฟื้นตัวพร้อมลงแข่ง เขาก็ไม่ต้องการแย่งเสื้อเบอร์ 9 จากเพื่อน ทำให้เขาเปลี่ยนไปใช้เบอร์ 14 แทน ซึ่งที่มาของเสื้อเบอร์นี้ก็ไม่ได้มีอะไรมาก เป็นเพียงการสุ่มหยิบเสื้อจากตระกร้าตัวสำรองของเจ้าตัวเอง แต่สุดท้ายมันกลายเป็นเลขนำโชคให้แก่เขา และกลายเป็นหนึ่งในเบอร์ตำนานของฟุตบอลฮอลแลนด์เลยทีเดียว

ในช่วงนั้น โยฮัน ไกรฟฟ์ อยู่กับอายักซ์ทั้งหมด 10 ฤดูกาล คว้าแชมป์ลีกไปแล้ว 6 สมัย นอกจากนี้ยังมีบอลถ้วย 4 สมัย แชมป์ยุโรปอีก 3 สมัย นับเป็นผลงานที่มหัศจรรย์จริงๆ แถมในปี 1973 ยังเป็นอีกหนึ่งปีที่เขาได้คว้าถ้วยรางวัลบัลลงดอร์สมัยที่ 2 อีกด้วย
หลังจากที่ประสบความสำเร็จกับอายักซ์ อัมสเตอร์ดัม ในปี 1973 เขาได้ย้ายไปบาเซโลนายอดทีมแห่งสเปน ด้วยค่าตัว 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นเม็ดเงินที่สูงในประวัติศาสตร์โลกยุคนั้นเลย และนี่ก็ถือเป็นหนึ่งเรื่องยืนยันว่าเขาคือนักเตะที่ดีที่สุด เมื่อเขาย้ายมาไม่นานก็กลายเป็นขวัญใจของบาร์เซโลนาไปเต็มๆ เพราะเขาได้ปฏิเสธข้อเสนอของเรอัลมาดริด คู่ปรับตลอดกาลของบาเซโลนา พร้อมกับได้รับเสื้อเบอร์ 9 ในตำนานอีกด้วย
โยฮัน ไกรฟฟ์กับกุนซือคู่ใจ “ไรนุส มิเชลส์”
โยฮัน ไกรฟฟ์ย้ายมาร่วมทีมกับกุนซือไรนุส มิเชลส์อีกครั้ง ซึ่งมาถึงปีแรกเขาก็ได้พาบาร์เซโลนาคว้าแชมป์ลาลิกาได้เป็นครั้งแรกในรอบ 14 ปี แถมยังฟอร์มดุเดือดสุดๆในยุคนั้น โดยการไร้พ่ายต่อเนื่อง 24 นัดและเป็นแชมป์ทั้งๆที่เหลือโปรแกรมอีก 5 นัด


อีกทั้งในปีนั้นเขายังได้ฝากลูกยิงที่เจ๋งที่สุดไว้ด้วย ในเกมที่บาร์เซโลนาเจอกับแอตมาดริด เป็นจังหวะที่บอลเปิดมาในเสา 2 ดูก็รู้ว่าโยฮัน ไกรฟฟ์ไม่มีทางเข้าถึงได้อย่างแน่นอน แต่เขากลับแหกกฎฟิสิกส์กระโดดลอยตัวขึ้นกลางอากาศและใช้ขาดีดเข้าประตูไปเต็มๆอย่างเหลือเชื่อ ซึ่งภายหลังแฟนบอลได้เรียกลูกนี้ว่า “ประตูที่เป็นไปไม่ได้ของโยฮัน ไกรฟฟ์”
ติดตามข่าวสารฟุตบอล โปรแกรมบอล วิเคราะห์บอลและประวัตินักเตะที่คุณไม่เคยทราบ ได้ที่เว็บไซต์ KUBET
ต่อมาในปีเดียวกันนั้นเขาก็ยังทำฟอร์มร้อนแรงต่อเนื่องในศึกฟุตบอลโลก 1974 ที่เยอรมันตะวันตก นับเป็นฟุตบอลโลกครั้งประวัติศาสตร์ของโยฮัน ไกรฟฟ์เลยทีเดียว ซึ่งเขากับทีมชาติฮอลแลนด์เข้ามาเล่นฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรกในรอบ 36 ปี มันเลยทำให้กังหันสีส้มกลายเป็นทีมนอกสายตาของแฟนบอลทั่วโลกในครั้งนั้น เพราะดูทรงแล้วนักเตะทุกคนดูไม่มีประสบการณ์สักเท่าไหร่ แต่ประจวบเหมาะกันพอดีที่ในช่วงนั้น ไรนุส มิเชลส์ ก็ถูกแต่งตั้งให้เป็นกุนซือทีมชาติฮอลแลนด์ในชุดนี้ด้วย

Total Football กลับมาอีกครั้ง
แน่นอนว่าเขาใช้ระบบเกม Total Football (โททัลฟุตบอล) ในการทำทีมชาติฮอลแลนด์ในชุดนั้น โดยมีโยฮัน ไกรฟฟ์เป็นชุดศูนย์กลาง และเพียงรอบแรกเท่านั้นฮอลแลนด์ก็สามารถเข้าสู่รอบแรกได้ด้วยผลงานที่สุดเพอร์เฟค จนทำให้พวกเขาจากที่เคยเป็นทีมนอกสายตากลายมาเป็นทีมตัวเต็งทันที และพวกเขาก็ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ เพราะในสองรอบสุดท้ายเขานั้นได้เจอกับทีมชาติสุดโหดอย่าง ทีมชาติบราซิล สุดท้ายกังหันสีส้มก็ชนะไปได้แบบสบายๆด้วยสกอร์ 2-0
แน่นอนว่าหนึ่งใน 2 ประตูนี้เป็นของโยฮัน ไกรฟฟ์ ก่อนที่พวกเขาจะเข้ามาสู่รอบชิงเจอกับเจ้าภาพอย่างทีมชาติเยอรมันตะวันตก และเปิดเกมเพียงไม่ถึง 2 นาที ทั้งโลกก็ต้องตกตะลึงกับสไตล์การเล่นของทีมชาติฮอลแลนด์และสุดยอดฝีเท้าของโยฮัน ไกรฟฟ์ เพราะพวกเขาต่อบอลกันจนเจ้าภาพจับทางบอลไม่ทันเลยทีเดียว จากนั้นเป็นนักเตะเทวดาคนนี้พาบอลอ้อมหนีกองหลังจนโดนทำฟาวล์และทำให้ทีมได้ยิงจุดโทษตั้งแต่ต้นเกม ทั้งๆที่เป็นรอบชิง แน่นอนว่าฮอลแลนด์ขึ้นนำไปก่อน 1-0 ตั้งแต่ 2 นาทีแรก

สามารถติดตามอ่านประวัติของ โยฮัน ไกรฟฟ์ [Part3] ต่อได้ที่เว็บไซต์ KUBET World ให้คุณอัพเดทข่าวสารวงการฟุตบอลแบบเรียลไทม์ โปรแกรมบอล วิเคราะห์บอลแบบจัดเต็ม ประวัตินักเตะที่คุณไม่เคยทราบ พร้อมรับชมถ่ายทอดสดฟุตบอลทุกแมตช์จนจบฤดูกาล เพียงเป็นสมาชิกเคยูเบท ลุ้นเกมเดิมพันสุดมันส์และรับสิทธิประโยชน์อีกมากมาย สมัครเลย!