ติดตามเนื้อหาก่อนหน้าได้ทาง EP.3 มาต่อกันด้วยเนื้อหาในส่วนที่เหลือกับโค้ชสโมสรฟุตบอลชายที่ดีที่สุดในโลกปี 1996 – 2020 สถิติจาก IFFHS แน่นอนว่าความสำเร็จที่ถูกประกาศก้องโลกจากสนามฟุตบอลที่เต็มไปด้วยเหล่านักเตะมากความสามารถ มีเบื้องหลังที่แข็งแกร่งไม่แพ้กัน เหล่าบรรดากุนซือผู้เป็นรากฐานสำคัญของรางวัลมากมายที่ทีมฟุตบอลและนักเตะได้รับจะมีใครอีกบ้าง ติดตามไปพร้อมกันกับ KUBET ได้เลย
โค้ชสโมสรฟุตบอลชายที่ดีที่สุดในโลกปี 1996 – 2020 สถิติจาก IFFHS EP.4
ปี 2011 เปป กวาร์ดิโอลา (Pep Guardiola)

เปป กวาร์ดิโอลา (Pep Guardiola) อีก 1 ปี ที่เขาได้รับรางวัลนี้ เป็นช่วงเวลาที่เขาอยู่กับบาร์เซโลนา บาร์เซโลนาสิ้นสุดปี 2011 โดยคว้าแชมป์สโมสรโลก เขาพาทีมคว้าชัยชนะเหนือคู่แข่งตัวฉกาจอย่างเรอัลมาดริด 2–1 ในศึก El Clásico กวาร์ดิโอลา ยังคงนำบาร์เซโลนาคว้าชัยชนะในเกมลาลิกาที่เหลือของฤดูกาล ตามด้วยการชนะ 3-0 ในรอบชิงชนะเลิศโกปาเดลเรย์ ซึ่งหลังจากปี 2011 เขาประกาศที่จะสละตำแหน่งกุนซือของบาร์เซโลนาให้คนอื่นรับช่วงต่อไป
ตลอดเวลาที่เขาอยู่กับทีม เขาสะสมถ้วยรางวัลได้ทั้งหมด 14 ถ้วย ตลอด 4 ฤดูกาล เขาเป็นผู้จัดการทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของบาร์เซโลนา
ปี 2012 โชเซ มูรีนโย (José Mourinho)

โชเซ มูรีนโย (José Mourinho) เป็นปีที่ 3 ที่เขาได้รับรางวัลนี้ เดิมทีครอบครัวของเขาให้ความสนใจในเรื่องของฟุตบอลมาตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก มูรีนโย คุ้นเคยกับกีฬาฟุตบอลเป็นอย่างดี พ่อของเขาเล่นฟุตบอลอาชีพให้กับ Belenenses และ Vitória de Setúbal เขาเองเริ่มต้นด้วยการเดินตามรอยพ่อ ด้วยการเข้าร่วมทีมเยาวชนของ Belenenses หลังจากสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในฐานะนักเตะ เขาก็หันมาเอาดีด้านโค้ชต่อตามลำดับ
กระทั่งสร้างผลงานจนเป็นที่ยอมรับ และเป็นที่ประจักษ์ด้วยรางวัลการันตีความสำเร็จจาก IFFHS กับการเป็นโค้ชสโมสรฟุตบอลชายที่ดีที่สุดในโลก สมัยที่ 3
(สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของวงการฟุตบอลจากทั่วโลกได้ทางเว็บไซต์ KUBET)
ปี 2013 ยุพ ไฮน์เคิส (Jupp Heynckes)

ยุพ ไฮน์เคิส (Jupp Heynckes) อดีตนักฟุตบอล ปัจจุบันเป็นผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน อาชีพผู้เล่นส่วนใหญ่ของเขาคือการเป็นกองหน้าให้กับ Borussia Mönchengladbach ในยุคทองของคือปี 1960 – 70 เขาเป็นผู้ทำประตูสูงสุดเป็นอันดับสี่ในประวัติศาสตร์ของ ในบุนเดสลีกา นั่นคือ 220 ประตู ในฐานะผู้จัดการทีม ไฮน์เคิส คว้าแชมป์บุนเดสลีกา 4 สมัยกับไบเอิร์นมิวนิก และ 2 สมัยในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกร่วมกับเรอัลมาดริดในปี 1997–98 และไบเอิร์นมิวนิกในปี 2012–13
ซึ่งรายการหลังเป็นส่วนหนึ่งของการคว้าแชมป์ระดับทวีป กระทั่งเขาได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นอีกหนึ่งใน ผู้จัดการทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล
ปี 2014 การ์โล อันเชลอตตี (Carlo Ancelotti)

การ์โล อันเชลอตตี (Carlo Ancelotti) อีก 1 สมัยที่เขาได้รับรางวัลนี้ ในฐานะผู้จัดการ อันเชลอตตี ทำงานให้กับ Reggiana, Parma และ ยูเวนตุส หว่างปี 1995 ถึง 2001 ก่อนที่จะมีชื่อเสียงโด่งดังกับมิลาน ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทีมในปี 2001 เขาคว้าแชมป์แชมเปียนส์ลีกฤดูกาล 2002–03 และโกปปาอีตาเลียฤดูกาล 2002–03 สามปีต่อมาเขาก็คว้าแชมป์แชมเปียนส์ลีกสมัยที่สองกับมิลาน ในระหว่างที่เขาดำรงตำแหน่งกับมิลาน อันเชลอตตีได้รับรางวัลโค้ชยอดเยี่ยมแห่งปีของเซเรียอาสองครั้ง ในปีนี้ (2007) เป็นปีแรกที่เขาได้รับรางวัลจาก IFFHS ก่อนเขาจะลาออกแล้วไปสร้างชื่อให้กับเรอัลมาดริดต่อ นำมาซึ่งความสำเร็จในปีนี้อีกครั้ง
(สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของวงการฟุตบอลจากทั่วโลกได้ทางเว็บไซต์ KUBET)
ปี 2015 ลุยส์ เอนรีเก (Luis Enrique)

ลุยส์ เอนรีเก (Luis Enrique) เป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลชาวสเปนและอดีตนักเตะ เขาเป็นผู้จัดการทีมสโมสรในลีกเอิง อย่าง สโมสรฟุตบอลปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง ในช่วงเวลาที่กำลังค้าแข็ง เขามักจะเล่นได้หลายตำแหน่งแต่มักจะเล่นเป็นกองกลางหรือกองหน้าสะส่วนใหญ่ เขาเริ่มทำงานเป็นผู้จัดการทีม ในปี 2008 ร่วมกับบาร์เซโลนา บี ก่อนที่จะย้ายไปโรมาในอีกสามปีต่อมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่รุ่งเรืองที่สุดในฐานะโค้ชของเขา
ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่องได้ทาง EP.5 ยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับวงการฟุตบอลจากทั่วโลกให้ได้ติดตาม ทั้งโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอล การวิเคราะห์ผลบอลก่อนแข่ง และช่องทางการรับชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลในทุกแมตช์การแข่งขัน ติดตามทั้งหมดได้ทางเว็บไซต์ KUBET เว็บไซต์ที่ให้ข่าวบอล ได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทย