KUBET กับการนำเสนอมุมมองที่แตกต่างของวงการฟุตบอล รู้หรือไม่ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้มีความเชื่อมโยงถึงกัน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล้วนแล้วแต่มีความเกี่ยวข้องและเชื่อมโยงกันทั้งสิ้น การกระทำเพียงเล็กน้อยก็อาจจะส่งผลถึงการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้อย่างเรื่องราวที่เคยูเบทจะกล่าวถึงในวันนี้ กับศึกฟุตบอลโลกที่มีเรื่องราวของการเมืองและสงครามเข้ามาแทรกแซงและกำหนดวิถีลูกหนังครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ เมื่อชัยชนะไม่ได้มีเพียงแค่เกียรติยศและความภาคภูมิใจ แต่มันยังรวมถึงศักดิ์ศรี และการมีอำนาจสูงสุดในโลกเช่นกัน

ก่อนเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2
FIFA World Cup ปี 1938 เป็นการจัดฟุตบอลโลกครั้งที่ 3 ที่ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งกำลังจัดการแข่งขันอยู่ ณ ขณะนั้น โดยอยู่ในช่วงของเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เริ่มส่งกลิ่นตุๆมาให้ได้ชิมลางกันบ้างแล้วว่าในอีกไม่กี่วันข้างหน้าจะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างแน่นอนนะ และสำหรับประเทศเรืองอำนาจอย่างนาซีเยอรมันที่เป็นประเทศมหาอำนาจหลักที่กำลังจะทำศึกกับสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นฝ่ายสัมพันธมิตรให้ที่เป็นอีกหนึ่งในประเทศมหาอำนาจเช่นกัน
เหตุอันเนื่องมาจากนาซีเยอรมันที่ปกครองโดย อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ นักการเมืองชาวเยอรมันเชื้อสายออสเตรีย หัวหน้าพรรคกรรมกรชาติสังคมนิยมเยอรมันหรือที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อ พรรคนาซี ฮิตเลอร์ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเยอรมนี ระหว่าง ค.ศ. 1933–1945 ในช่วงศึกฟุตบอลโลก ที่ได้มีการแข่งขันโอลิมปิกก่อนหน้านั้นในปี 1936 ประเทศเยอรมันทำผลงานในการแข่งขันกีฬาได้ยอดแย่สุดๆ แถมยังเป็นการแข่งขันที่ถูกจัดขึ้นในกรุงเบอร์ลีน “เบอร์ลินโอลิมปิก” ในประเทศเยอรมัน ประเทศเจ้าภาพที่สร้างผลงานได้ย่ำแย่แบบไร้ที่ยืนในสื่อกันเลยทีเดียว

อย่างไรก็ดี สำหรับ เบอร์ลินโอลิมปิกที่ถูกจัดขึ้นในประเทศเยอรมัน ฮิตเลอร์มีเป้าหมายที่จะโชว์ศักยภาพของชาวอารยันให้ชาวโลกได้ประจักษ์ถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของชนชาตินาซี ทั้งการสร้างผลงานแคมเปญเชิดชาวอารยันผมทอง ตาฟ้า ผิวขาว ที่แสดงให้เห็นว่าพวกเขาเป็นชนชาติที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก ซึ่งการแข่งขันโอลิมปิกเป็นการแข่งขันในด้านของกีฬา เพื่อทดสอบความแข็งแกร่งและชาวอารยันของฮิตเลอร์ก็แพ้ย่อยยับแบบไม่เหลือชิ้นดีให้เชยชมกันเลย

(ติดตามข่าวสารการเคลื่อนไหวของวงการฟุตบอลได้ทางเว็บไซต์ KUBET)
ซึ่งหลายครั้งที่นักกีฬาชาวเยอรมันพ่ายแพ้ให้กับนักกีฬาชาวอเมริกันที่เป็นคู่ปรับกันอยู่ นั่นยิ่งทำให้ผู้นำเผด็จการอย่างฮิตเลอร์ยอมไม่ได้ โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่เป็นที่กล่าวถึงอย่างมากในเบอร์ลินโอลิมปิก คือการที่นักวิ่งผิวดำชาวอเมริกาคว้าเหรียญทองสี่เหรียญได้สำเร็จคาบ้านเยอรมันในตอนที่ฮิตเลอร์เป็นนายกรัฐมนตรี นั่นยิ่งย่ำยีหัวใจคนเหยียดชาติอย่างเขาแบบแค้นฝังหุ่นกันเลยทีเดียว นั่นทำให้การแข่งขันฟุตบอลโลกในปี 1938 เขาต้องล้างหน้าประวัติศาสตร์ให้แก่ชาวอารยันใหม่ทั้งหมด
FIFA World Cup ปี 1938
สำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งที่ 3 ในปี 1938 เป็นศึกการแข่งขันที่ทีมชาติเยอรมันจะต้องเจอกับทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ในศึกรอบชิงชนะเลิศ ในวันที่ 9 มิถุนายน 1938 เนื่องจากทั้งสองทีมเคยแข่งกันแล้วแต่จบด้วยสกอร์เสมอ ซึ่งกติกาในตอนนั้นคือต้องเริ่มเล่นใหม่กันอีกครั้ง และดูเหมือนว่าทีมชาติเยอรมันจะไม่มีความเชื่อมั่นในชัยชนะครั้งนี้มากนัก ซึ่งขณะเดียวกัน พวกเขาก็ยอมรับความพ่ายแพ้อีกไม่ได้แล้ว

และนี่ก็เป็นเหตุผลหลักที่ฮิตเลอร์เข้าแทรกแซงการทำงานของทีมชาติออสเตรียทันที แฟนบอลต่างรู้ดีว่าแข้งออสเตรียในตอนนั้นคือขั้นสุดของทีมฟุตบอล เรียกได้ว่านักเตะอัดแน่นไปด้วยคุณภาพและหาตัวจับได้ยาก อีกหนึ่งทีมเต็งที่ได้รับการชื่นชมเป็นอันดับต้นๆของโลก จนได้รับการขนาดนามทีมชาติออสเตรียว่า “Wunderteam” ซึ่งในตอนนั้นเองทีมชาติออสเตรียสามารถผ่านเข้าร่วมสี่ทีมได้แล้วแต่ก็ต้องถอนตัวออกกลางคัน เนื่องจากในช่วง 3 เดือนก่อนบอลแข่ง เป็นช่วงที่เยอรมันเข้ายึดครองประเทศออสเตรียได้สำเร็จ

(ติดตามข่าวสารการเคลื่อนไหวของวงการฟุตบอลได้ทางเว็บไซต์ KUBET)
และนั่นก็คือเหตุผลที่ฮิตเลอร์ใช้อำนาจออกคำสั่งในฐานะประเทศอำนาจ และ ยึดพื้นที่ออสเตรียได้สำเร็จ ซึ่งแปลว่าทุกอย่างของออสเตรียเป็นของเยอรมันรวมทั้งนักฟุตบอลทีมชาติด้วย นักเตะออสเตรียถูกดึงมาเล่นในศึกฟุตบอลโลกและลงสนามในนามของทีมชาติเยอรมันทันที
ผลการตัดสิน

การแข่งขันเริ่มต้นขึ้นในส่วนของครึ่งแรกเยอรมันขึ้นนำสวิตเซอร์แลนด์ไปได้ด้วยสกอร์ 2 ต่อ 0 ทว่าในส่วนของครึ่งหลังที่จู่ๆ เยอรมันปลอมก็เกิดอ่อนแรงขึ้นมาเป็นเหตุให้สวิตเซอร์แลนด์คว้าชัยไปได้ด้วยสกอร์ 4 ประตูต่อ 2 ส่งผลให้เยอรมันตกรอบไปตามระเบียบ แน่นอนว่านั่นสร้างความไม่พอใจให้กุนซือทีมชาติเยอรมันอย่างมากพร้อมโทษนักเตะชาวออสเตรียที่ทำให้ทีมแพ้ ซึ่งความจริงก็อาจเป็นไปได้เพราะนักเตะออสเตรียมีฟอร์มดุดันมาโดยตลอด และมันก็สมเหตุสมผลดีแล้วเนื่องจากพวกเขาเองก็ไม่ได้อยากคว้าชัยให้คนอื่นมาเชยชม
หลังจากนั้นไม่นานก็เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้การแข่งขันฟุตบอลโลกถูกยุติลง สำหรับเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นในสนามฟุตบอลที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเกมกีฬาที่ไม่ได้มีแค่เรื่องของการแข่งขันอีกต่อไป การแข่งขันที่สามารถโชว์ศักยภาพของแต่ละประเทศได้อย่างชัดเจน รวมถึงชัยชนะหลังถ้วยคัพนั่นก็เป็นเกียรติยศที่น่าภาคภูมิใจและยิ่งใหญ่เกินกว่าจะบรรยายเป็นคำพูดได้จริงๆ
สามารถติดตามข่าวสารการเคลื่อนไหวของวงการฟุตบอลได้ทางเว็บไซต์ KUBET เว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลข่าวสารของวงการฟุตบอลอันดับ 1 ของประเทศไทย