KUBET ข่าวบอลวันนี้ พาเปิดทำเนียบแชมป์ไทยลีก ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน (ปี1996-2023) ใครคือผู้ที่คว้าแชมป์สูงสุดตลอดกาลและทีมสโมสรใดห่วยที่สุดในรอบ 27 ปี ตามไปดูกัน!
ประวัติไทยลีก
หลายคนอาจมีความสงสัยว่าไทยลีกเริ่มต้นก่อตั้งแต่แต่เมื่อใด? เดิมทีในอดีตไทยลีกนั้นเป็นเพียงการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานประเภทก.จัดการแข่งขันอย่างไม่ทางการตั้งแต่ปี 1916 จนถึง ปี1996 ในสมัยนั้น ซึ่งถือเป็นถ้วยรางวัลที่ยิ่งใหญ่และสูงสุดในประเทศไทย และตั้งแต่ปี 1996 เป็นต้นมาก็ได้เริ่มจัดตั้งปรับปรุงระบบฟุตบอลไทยให้เป็นรูปแบบฟุตบอลอาชีพอย่างเป็นทางการ เพื่อให้ได้ตามมาตรฐานสากลโลกและเป็นลีกสูงสุดในประเทศ
ไทยลีกมีสโมสรฟุตบอลเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 16 สโมสร ซึ่งจัดขึ้นในช่วงเดือนสิงหาคมถึงพฤษภาคมของทุกปี โดยแข่งขันกันทั้งหมด 30 นัดต่อฤดูกาล ในแต่ละนัดผู้ชนะจะได้ 3 คะแนน เสมอได้ 1 คะแนน แพ้จะไม่ได้คะแนน ทั้งนี้เมื่อสิ้นสุดฤดูกาลทีมสโมสรใดแต้มคะแนนสูงสุดจะเป็นผู้ชนะเลิศและได้สิทธิแข่งขันรายการ เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก(AFC Champions League) รอบแบ่งกลุ่มโดยทันที ส่วนทีมรองชนะเลิศ อันดับที่ 2-3 จะได้ไปแข่งขันในรายการเดียวกัน แต่จะเป็นรอบคัดเลือก รอบสอง
สำหรับสโมสรที่จบฤดูกาลเป็นสามอันดับสุดท้ายจะตกชั้นไปเล่นในไทยลีก2 และทีมสโมสรที่ได้รางวัลชนะเลิศและรองชนะเลิศในไทยลีก2 จะได้รับสิทธิเลื่อนชั้นการแข่งขันในรายการไทยลีก พร้อมกับอีกหนึ่งทีมที่ชนะเลิศจากรายการแข่งขันเพลย์ออฟระหว่างอันดับที่ 3-6
(ติดตามข่าวสารฟุตบอล โปรแกรมบอล วิเคราะห์บอลและประวัตินักเตะที่คุณไม่เคยทราบ ได้ที่เว็บไซต์ KUBET)
ระบบการแข่งขันไทยลีก
- ไทยลีก (ไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก สูงสุด)
แข่งขันทั้งหมด 16 ทีม 3 ทีมสุดท้ายของตารางคะแนน (อันดับที่ 14-16) จะตกชั้นไปเล่นไทยลีก 2
- ไทยลีก 2
แข่งขังทั้งหมด 18 ทีม ทีมที่ชนะเลิศอันดับที่ 1-2 จะถูกเลื่อนชั้นอัตโนมัติและ 1 ทีม จากอันดับ 3-6 เข้าสู่รอบเพลย์ออฟ และ 3 ทีมตกชั้น (อันดับที่ 16-18)
- ไทยลีก 3
แข่งขันทั้งหมด 76 ทีม 6 ภูมิภาค คือการคัดเลือกทีมที่ดีที่สุดจากทุกภูมิภาค ได้แก่
ภูมิภาคที่ 1 – ภาคเหนือ 12 ทีม
ภูมิภาคที่ 2 – ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 13 ทีม
ภูมิภาคที่ 3 – ภาคตะวันออก 12 ทีม
ภูมิภาคที่ 4 – ภาคตะวันตก 12 ทีม
ภูมิภาคที่ 5 – กรุงเทพและปริมณฑล 14 ทีม
ภูมิภาคที่ 6 – ภาคใต้ 12 ทีม
โดยในไทยลีก3 สำหรับ 3 ทีมแรกที่ชนะเลิศอยู่หัวตารางคะแนนจะได้เลื่อนชั้นไปเล่นในไทยลีก2 และ6 ทีมที่ทำคะแนนได้น้อยที่สุดจะตกชั้น
- ไทยแลนด์ เซมิโปรลีก
แข่งขันทั้งหมด 34 ทีม 5 ภูมิภาค ยกเว้นภาคใต้ที่ได้เลื่อนชั้นไปไทยลีก 3 ทันทีที่ได้แชมป์ไทยแลนด์ อเมเจอร์ลีก
ภูมิภาคที่ 1 – ภาคเหนือ 5 ทีม
ภูมิภาคที่ 2 – ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 10 ทีม
ภูมิภาคที่ 3 – ภาคตะวันออก 7 ทีม
ภูมิภาคที่ 4 – ภาคตะวันตก 5 ทีม
ภูมิภาคที่ 5 – กรุงเทพและปริมณฑล 7 ทีม
- ไทยแลนด์ อเมเจอร์ลีก
ไม่จำกัดทีมแข่งขัน เหมาะสำหรับมือสมัครเล่นทั่วไปในประเทศ โดยทีมที่ชนะเลิศสูงสุด 6 ทีมแรกจะได้เลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นในไทยแลนด์เซมิโปรลีกตามลำดับรายการแข่งขัน
ภูมิภาคที่ 1 เหนือ – ตอนบนและตอนล่าง
ภูมิภาคที่ 2 – ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนและตอนล่าง
ภูมิภาคที่ 3 – ภาคตะวันออกตอนบนและตอนล่าง
ภูมิภาคที่ 4 – ภาคตะวันตกตอนบนและตอนล่าง
ภูมิภาคที่ 5 – กรุงเทพและปริมณฑล
ภูมิภาคที่ 6 – ภาคใต้ตอนบนและตอนล่าง
ทำเนียบแชมป์ไทยลีก (1996-ปัจจุบัน) – KUBET
| ฤดูกาล | แชมป์ | รองแชมป์ | ดาวซัลโว | ประตู |
| 1996–97 | ธนาคารกรุงเทพ | ตลาดหลักทรัพย์ฯ | อัมพร อำพันสุวรรณ (องค์การโทรศัพท์ฯ) | 21 |
| 1997 | ทหารอากาศ | สินธนา | วรวุฒิ ศรีมะฆะ (บีอีซี เทโรศาสน) | 17 |
| 1998 | สินธนา | ทหารอากาศ | รณชัย สยมชัย (การท่าเรือฯ) | 23 |
| 1999 | ทหารอากาศ | การท่าเรือฯ | สุธี สุขสมกิจ (ธ.กสิกรไทย) | 13 |
| 2000 | บีอีซี เทโรศาสน | ทหารอากาศ | สุธี สุขสมกิจ (ธ.กสิกรไทย) | 16 |
| 2001–02 | บีอีซี เทโรศาสน | โอสถสภา | วรวุฒิ ศรีมะฆะ (บีอีซี เทโรศาสน)ปิติพงษ์ กุลดิลก (การท่าเรือฯ) | 12 |
| 2002–03 | ธนาคารกรุงไทย | บีอีซี เทโรศาสน | ศรายุทธ ชัยคำดี (การท่าเรือฯ) | 12 |
| 2003–04 | ธนาคารกรุงไทย | บีอีซี เทโรศาสน | วิมล จันทร์คำ (โอสถสภา) | 14 |
| 2004–05 | พนักงานยาสูบ | การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค | ศุภกิจ จินะใจ (การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค)ศรายุทธ ชัยคำดี (การท่าเรือฯ) | 10 |
| 2006 | มหาวิทยาลัยกรุงเทพ | โอสถสภา | พิพัฒน์ ต้นกันยา (บีอีซี เทโรศาสน) | 12 |
| 2007 | ชลบุรี เอฟซี | ธนาคารกรุงไทย | เนย์ ฟาเบียโน (พนักงานยาสูบ) | 18 |
| 2008 | การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค | ชลบุรี เอฟซี | อานนท์ สังข์สระน้อย (บีอีซี เทโรศาสน) | 20 |
| 2009 | เมืองทอง หนองจอก ยูไนเต็ด | ชลบุรี เอฟซี | อานนท์ สังข์สระน้อย (บีอีซี เทโรศาสน) | 18 |
| 2010 | เมืองทอง หนองจอก ยูไนเต็ด | บุรีรัมย์ พีพีเอ | ลูโดวิค ทาคาม (พัทยา ยูไนเต็ด) | 17 |
| 2011 | บุรีรัมย์ พีอีเอ | ชลบุรี เอฟซี | ฟรองค์ โออ็องด์ซา (บุรีรัมย์ พีอีเอ) | 19 |
| 2012 | เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด | ชลบุรี เอฟซี | ธีรศิลป์ แดงดา (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด)เคลตัน ซิลวา (บีอีซี เทโรศาสน) | 24 |
| 2013 | บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด | เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด | คาร์เมโล กอนซาเลซ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด) | 23 |
| 2014 | บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด | ชลบุรี เอฟซี | เฮแบร์ตี้ แฟร์นานเดส (ราชบุรี มิตรผล เอฟซี) | 26 |
| 2015 | บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด | เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด | ดิโอโก หลุยส์ ซานโต (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด) | 33 |
| 2016 | เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด | แบงค็อก ยูไนเต็ด | เคลตัน ซิลวา (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด) | 27 |
| 2017 | บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด | เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด | ดราแกน บอสโควิช (แบงค็อก ยูไนเต็ด) | 38 |
| 2018 | บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด | ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด | ดิโอโก หลุยส์ ซานโต (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด) | 34 |
| 2019 | สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด | บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด | ลอนซานา ดูมบูยา (ตราด เอฟซี) | 20 |
| 2020-21 | บีจี ปทุม ยูไนเต็ด | บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด | บาร์รอส ทาร์เดลี (สมุทรปราการ ซิตี้) | 25 |
| 2021-22 | บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด | บีจี ปทุม ยูไนเต็ด | แฮมิลตัน โซอาเรส (หนองบัว พิชญ) | 19 |
| 2022-23 | บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด | ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด | ศุภชัย ใจเด็ด (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด) | 19 |
ทำเนียบทีมคว้าแชมป์มากที่สุด – KUBET
| ทีม | แชมป์ | ฤดูกาลที่คว้าแชมป์ |
| บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (ชื่อเก่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค, บุรีรัมย์ พีอีเอ) | 9 | 2008, 2011, 2013, 2014, 2015, 2017, 2018, 2021-22, 2022-23 |
| เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด (ชื่อเก่าเมืองทอง หนองจอก ยูไนเต็ด) | 4 | 2009, 2010, 2012, 2016 |
| บีจี ปทุม ยูไนเต็ด (ชื่อเก่าธนาคารกรุงไทย) | 3 | 2002–03, 2003–04, 2020-21 |
| ทหารอากาศ | 2 | 1997, 1999 |
| บีอีซี เทโรศาสน | 2 | 2000, 2001–02 |
| ธนาคารกรุงเทพ | 1 | 1996–97 |
| สินธนา | 1 | 1998 |
| พนักงานยาสูบ | 1 | 2004–05 |
| มหาวิทยาลัยกรุงเทพ | 1 | 2006 |
| ชลบุรี เอฟซี | 1 | 2007 |
| สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด | 1 | 2019 |
และนี่คือรายการแข่งขันในไทยลีกและทำเนียบแชมป์สูงสุดตลอดกาลก็ยังคงเป็นสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดที่คว้าสถิติสูงสุดถึง 9 สมัย และในฤดูกาล 2023/24 นี้ทีมที่ส่อแววแชมป์คาดว่าจะเป็น สโมสรฟุตบอลแบงค็อก ยูไนเต็ด โดยแข่งขัน 10 นัดที่ผ่านมาโชว์ฟอร์มร้อนแรงและขึ้นนำจ่าฝูงหัวตารางคะแนนไทยแลนด์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ คะแนนรวมทั้งหมด 22 คะแนน ห่างจากแชมป์เก่าอย่างบุรีรัมย์ถึง 6 คะแนน ที่ตอนนี้ฟอร์มตก รั้งอยู่อันดับที่ 4 รวมได้ 16 คะแนนเท่านั้น
ติดตามลุ้นแชมป์ไทยลีกฤดูกาล 2023/24 เชียร์บอลไทยกันต่อได้ที่เว็บไซต์ KUBET World ให้คุณอัพเดทข่าวแบบเรียลไทม์ โปรแกรมบอล วิเคราะห์บอลแบบจัดเต็ม ประวัตินักเตะที่คุณไม่เคยทราบ พร้อมรับชมถ่ายทอดสดฟุตบอลทุกแมตช์จนจบฤดูกาล เพียงเป็นสมาชิกเคยูเบท ลุ้นเกมเดิมพันสุดมันส์และรับสิทธิประโยชน์อีกมากมาย สมัครเลย!
