KUBET กับ 6 วีรกรรมสุดเดือดของกัปตันผู้ยิ่งใหญ่ “รอย คีน” อดีตกัปตันทีมและนักฟุตบอลทีมชาติ นักฟุตบอลสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดและสโมสรฟุตบอลเซลติก แฟนผีไม่มีใครไม่รู้จักตำนาน กัปตันที่ดีที่สุด กัปตันทรงอิทธิพลอย่างรอย คีน ไม่ได้มีเพียงแค่ฝีเท้าที่สร้างสถิติในสนามบอลเท่านั้น ทว่าด้วยอุปนิสัยของเขาก็สร้างตำนานและวีรกรรมเอาไว้ไม่น้อยเหมือนกัน สำหรับเรื่องราวของรอย คีน ที่ถูกกล่าวถึงพร้อมบันทึกลงหน้าประวัติศาสตร์ลูกหนังจะมีเรื่องใดบ้าง ไปชมกันได้เลย
6 วีรกรรมสุดเดือดของกัปตันผู้ยิ่งใหญ่ “รอย คีน”
วีรกรรมที่ 1 ความแค้น 4 ปี ไม่สายที่จะเอาคืน
เรื่องราวของรอย คีน กับ อัลฟี ฮาลันด์ (พ่อของอาลิง โฮลัน) ในปี 1997 ทั้งสองเจอกันครั้งแรกในสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด ลีดส์ ยูไนเต็ด พบกับ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ภายในเกมมีจังหวะที่อัลฟีวิ่งเข้ามาแย่งบอลจากรอย คีน ก่อนรอย คีนจะสะดุดล้มลง เหตุการณ์คราวนั้นส่งผลให้เขาต้องเข้ารับการผ่าตัดที่หัวเข่า และใช้เวลาพักฟื้นนานกว่า 1 ปี หนำซ้ำในช่วงจังหวะที่เขาล้ม อัลฟียังวิ่งกลับมาตะคอกใส่เขาว่า “สำออย”
ทั้งคู่เวียนมาพบกันอีกครั้งในรอบ 4 ปี ที่อัลฟีย้ายไปอยู่แมนซิตี้ รอย คีนอาศัยจังหวะที่อัลฟีได้บอลก่อนเข้าใส่ที่เข่าของอัลฟีทันที ภายหลังเจ้าตัวออกมาเปิดเผยว่าเขารอเวลานี้มา 4 ปี พร้อมกับคำพูดดว่าที่ว่า อย่ามาพูดค้ำหัวกูอีก
(สามารถติดตามข่าวสารการเคลื่อนไหวของวงการฟุตบอลได้ทางเว็บไซต์ KUBET)
วีรกรรมที่ 2 ริโอ เฟอร์ดินานด์
ริโอ เฟอร์ดินานด์ ย้ายจากจากลีดส์ ยูไนเต็ด ไปแมนยูในปี 2002 ด้วยค่าตัว 30 ล้านปอนด์ซึ่งเป็นสถิติค่าตัวที่แพงที่สุดในสโมสรแมนยูตอนนั้น เขาลงสนามฝึกซ้อมพร้อมส่งบอลให้เพื่อนร่วมทีม ที่เขาเองก็คิดว่ามันเป็นลูกส่งที่ยอดเยี่ยมเลยทีเดียว ทว่ารอย คีนกลับไม่คิดเช่นนั้น เขากล่าวว่า “เห่ย มึงจ่ายบอลไปข้างสิ กล้าเสี่ยงหน่อย นี่มึงไม่ได้อยู่กับทีมเก่าของมึงแล้วนะ นี่มันแมนยู!” แน่นอนว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ริโอ งง เป็นไก่ตาแตก เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองโดนด่าเพราะอะไร
จนกระทั่งเวลาผ่านไปนานๆ เขาก็ได้เข้าใจแล้วว่า รอย คีน ต้องการให้เขากล้าที่จะทำอะไรใหม่ๆ นั่นเอง
วีรกรรมที่ 3 ฌาราร์ต ปิเก
ฌาราร์ต ปิเก เปิดเผยเรื่องราวเกี่ยวกับ รอย คีนว่า “เขาเป็นกัปตันทีมที่ทำให้ผมรู้สึกหวาดกลัวมากที่สุดตอนที่ผมอยู่กับแมนยูในปี 2004 -2008 แน่นอนว่าผมไม่ได้กลัวเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันเท่ารอย คีน ผมจำได้ดี ตอนนั้นที่อยู่ในห้องแต่งตัว โทรศัพท์ของผมสั้นขึ้น เมื่อคีนได้ยินเสียงสั่นเขาก็เหมือนคนบ้าคลั่งขึ้นมาทันที
จากนั้นก็พยายามหาต้นตอของเสียง แน่นอนว่าทุกคนตอนนั้นเงียบสนิท แม้ว่าเขาจะถามอีกครั้งก็ไม่มีใครกล้ารับ จนเขาเน้นเสียงทีละคำ สุดท้ายแล้วผมก็ยอมรับด้วยเสียงเบาๆ ว่า ผมขอโทษครับ มันเป็นของผม นั่นทำให้รอย คีน โมโหสุดขีด ผมแทบฉี่ราด เขาโมโหน่ากลัวสุดๆและทำให้ผมไม่กล้าใช้โทรศัพท์อีกเลย”
(สามารถติดตามข่าวสารการเคลื่อนไหวของวงการฟุตบอลได้ทางเว็บไซต์ KUBET)
วีรกรรมที่ 4 ยูฟ่าแชมป์เปียนลีกรอบรองชนะในปี 1999
แมนยูเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ เป็นครั้งแรกที่พวกเขามีหวังเข้าชิงถ้วยใหญ่ของยุโรปเป็นครั้งแรกในรอบ 31 ปี ในตอนนั้นที่ต้องเจอกับยูเวนตุส ซึ่งเป็นทีมที่แข็งแกร่งสุดๆ ทันทีที่เริ่มเกมยูเวนตุสก็ขึ้นนำไปหวานๆ 2 ประตูต่อ 0 สถานการณ์ของแมนยูในตอนนี้แย่สุดๆ แน่นอนว่าเขาต้องยิงในสนามนี้ให้ได้อย่างน้อย 2 ลูกถึงจะชนะได้ นักเตะหลายคนเริ่มท้อ แต่รอย คีนก็ได้ปลุกเร้าทุกคนขึ้นมาอีกครั้ง “เห่ย พวกมึง เกมมันยังไม่จบสักหน่อย ให้ตายเหอะ!!”
ในนาทีต่อไปรอย คีนสามารถทำประตูได้ ก่อนเขาจะหันไปบอกกับเพื่อนร่วมทีมว่า “เห็นไหมว่ามันยังมีหวัง มันนำเราแค่ 2 ลูกเอง” ทว่าหลังจากนั้นเขาก็โดนใบเหลืองเนื่องจากการเข้าสกัดซีดานไม่ให้ทำประตู อย่างไรก็ดี เขายังคงปลุกเร้าคนในทีมอย่างต่อเนื่องทำให้แมนยูเอาชนะได้สำเร็จด้วยสกอร์ 3 ประตูต่อ 2 จบเกมนั้นรอย คีนได้รับรางวัล แมนออฟเดอะแมตช์ สื่อยกให้ฟอร์มของเขาในวันนั้นเป็นฟอร์มที่มหัศจรรย์ที่สุดของยูฟ่า
วีรกรรมที่ 5 หลังจากโค่นบาเยิร์นมิวนิก
หลังจากเอาชนะยูเวนตุสได้ก็ต้องมาเยอะกับบาเยิร์นมิวนิก เพื่อชิงแชมป์และพวกเขาก็ทำได้สำเร็จทว่าในศึกครั้งนั้นรอย คีน ไม่ได้ลงเนื่องจากใบเหลืองที่เขาโดนทำให้เขาถูกตัดสิทธิ์ลงสนามในรอบนี้ และโดยปกติแล้วคนที่ชูถ้วยแชมป์จะเป็นกัปตัน แต่รอบนี้ปีเตอร์ ชไมเคิ่ลเป็นคนชูถ้วย เนื่องจากรอย คีนไม่ได้ลงสนาม เขายืนอยู่ข้างสนามและร่วมแสดงความยินดีกับทุกคน สื่อหลายสำนักหลายงานว่าอยากให้คีน เป็นคนชูถ้วย แต่เขาปฏิเสธมันอย่างเรียบง่าย
เขากล่าวว่า “คนที่ควรดื่มด่ำกับความสำเร็จเป็นคนแรก คือคนที่สู้อย่างเต็มที่ในเกม พวกเขาควรได้รับเกียรตินั้นก่อน”
(สามารถติดตามข่าวสารการเคลื่อนไหวของวงการฟุตบอลได้ทางเว็บไซต์ KUBET)
วีรกรรมที่ 6 แมนยูชนะดินาโม ซาเกร็บ
ในปี 2001 ในเกมแชมป์เปียนลีก แมนยูชนะดินาโม ซาเกร็บเพียงแค่ 1 ประตู ต่อ 0 ท้ายเกมจึงโดนแฟนบอลตะโกนด่าว่าทำไมไม่ยอมเล่นเกมบุกเข้าไป นั่นทำให้พวกเขาเองก็เสียความรู้สึกเนื่องจากเล่นในบ้านตัวเองแท้ๆ แต่กลับโดนแฟนบอลด่าซ้ำอีกทั้งที่เอาชนะมาได้ รอย คีน รับรู้ถึงเหตุการณ์ดังกล่าว วันต่อมาเขาให้สัมภาษณ์กับสื่อชื่อดัง กล่าวว่า
“แฟนบอลของเราที่เดินทางไปชมเกมเยือน พวกเขาสุดยอดมาก ผมเรียกพวกนี้ว่ากลุ่มแฟนฮาร์ดคอร์ละกัน แต่บางทีผมก็สงสัยนะว่า แม่ง ดูบอลกันเป็นรึป่าววะ แฟนบอลบางคนเข้ามาชมในสนาม กะแค่จะมาดื่มเบียร์สักสองสามขวด อาจจะกินแซนด์วิชสักชิ้น พวกแม่งไม่ได้สนใจว่าเกิดอะไรขึ้นในสนามด้วยซ้ำ อย่าว่าแต่ดูบอลเป็นรึป่าวเลย กูว่าคนอย่างพวกมึง สะกดคำว่าฟุตบอลไม่เป็นเลยมั่ง ถ้าอยากเห็นทีมชนะ 3 – 4 ประตู มึงไปเล่นฟุตบอลแฟนตาซีนู่น อยู่กับความเป็นจริงสะบ้างนะ”
และนี่ก็คือเรื่องราววีรกรรมสุดจี๊ดของกัปตันทีมแห่งยุคของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดที่เซอร์ อเล็กซ์ ถึงกับเอ่ยถึงเขาอย่างภาคภูมิใจว่า “ผมรู้สึกเป็นเกียรติมากจริงๆที่ได้ร่วมงานกับคุณ” เรื่องราวความภาคภูมิใจและสาระน่ารู้เกี่ยวกับวงการฟุตบอลยังมีให้ได้ติดตามกันอีกมากมายผ่านทางเว็บไซต์ KUBET เว็บไซต์ที่ให้ข่าวบอลจากทั่วโลก ได้รับความนิยมเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย