KUBET กับ 5 แข้งพร้อมบวกกับ “ซลาตัน อิบราฮีมอวิช” กองหน้าตัวเป้า ตัวเต็ง ตัวตึง ตำนานหนึ่งเดียวของทั้งมิลาน แมนยู บาร์ซ่า บอกเลยว่าพี่แกเอาอยู่ทุกสนาม นักเตะหลายคนไม่อยากจะเล่นด้วยกับพี่บิ๊กบึ้มตัวใหญ่แรงเยอะ เล่นแรง เล่นแต่ละทีแทบไม่ต้องยืนตรงกันเลยทีเดียว แต่ไม่ว่าฝีเท้าและความโหดในสนามของเขาจะมากเพียงใด ก็ยังมีนักเตะที่สามารถดวลเดี่ยวกับซลาตันได้อยู่บ้าง จะเป็นใครกันบ้างไปรับชมกันได้เลยกับ
5 แข้งพร้อมบวกกับ “ซลาตัน อิบราฮีมอวิช”
คนที่ 1 เนดุม โอนูโอฮา
ซลาตัน อิบราฮีมอวิช ใช้เวลาเพียงหนึ่งฤดูกาลในเมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ ที่แอลเอ แกลักซี ทว่าเรื่องราวของเขาในอเมริกาก็ไม่ได้เงียบลง ในปี 2019 การแข่งขันระหว่างแอลเอ แกลักซี กับเรียล ซอลท์ เลค การเวียนมาเจอกันของโอนูโอฮา และซลาตัน ทั้งสองเกิดมีปากเสียงกัน เนื่องจาก ในนาทีที่ 30 ซลาตันโดนใบเหลือง จากการเหนี่ยวคอโอนูโอฮาลงพื้น ทั้งๆที่ตอนนั้นไม่มีบอลด้วยซ้ำ ซึ่งโอนูโอฮาออกมาเปิดเผยภายหลังว่าซลาตันข่มขู่เขาหลังจากโดนเสียบสกัด
หลังจากโดนใบเหลืองไม่นานซลาตันก็ยิงประตูชัยได้ และเดินไปดีใจต่อหน้าโอนูโอฮา นั่นทำให้โอนูโอฮาปฏิเสธคำขอโทษจากซลาตัน พลางตราหน้าว่านี่หรือคือหน้าตาของ MLS ในฝ่ายของซลาตันเองก็กล่าวว่า “ผมชอบเวลาที่รู้สึกมีชชีวิตชีวา ผมชอบเวลาที่มันกลายเป็นการต่อสู้กันตัวต่อตัว ผมจะไม่รู้สึกกระปรี้กระเปร่า หากมันไม่มีแรงกระตุ้นอย่างแท้จริง เวลาผมโกรธ ผมรู้สึกดี”
(สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของวงการฟุตบอลได้ทางเว็บไซต์ KUBET)
คนที่ 2 ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท
อดีตนักฟุตบอลชาวดัตช์ กองกลางตัวรุก ที่ไม่ชอบหน้ากันเลยสักนิดเดียวกับซลาตัน ทั้งสองเล่นให้กับอาแจ็กซ์ในปี 2004 พวกเขาเผชิญหน้ากันในเกมกระชับมิตร ระหว่างเนเธอแลนด์พบกับสวีเดน ทั้งสองต่างทำหน้าที่ให้กับทีมชาติของตัวเอง จังหวะหนึ่งในการแข่งขัน ซลาตัน พยายามจะปัดผู้เล่นคนอื่นออกให้พ้นทางนำบอลของเขา นั่นเป็นเหตุให้ซลาตันเตะเข้าที่ข้อเท้าของราฟาเอลโดยไม่ได้ตั้งใจ
ความตึงเครียดเพิ่มขึ้นระหว่างทั้งคู่ ก่อนทั้งคู่จะถูกเรียกเข้าร่วมการประชุม ราฟาเอลปฏิเสธที่จะถอยและอ้างว่าซลาตันทำโดยเจตนา แถมยังบอกว่าจะหักขาของเขาด้วย เขายอมรับว่าเข้ากันไม่ได้กับซลาตัน แต่เราไม่ได้ทะเลาะกัน เพียงแค่เข้ากันไม่ได้
คนที่ 3 โอกูชี่ ออนเยวู
นักฟุตบอลชาวอเมริกัน ในช่วงที่ซลาตันเล่นให้กันมิลานเขาได้เข้าไปพัวพันกับการเผชิญหน้าที่ดุเดือดที่สุดของอาชีพการค้าแข้งอันยาวนานของเขา เมื่อเขาไปวางมวยกับกองหลังชาวอเมริกันอย่างโอกูชี่ ซึ่งซลาตันเคยกล่าวว่า “ร่างกายของหมอนี่ราวกับนักชกรุ่นเฮฟวี่เวท ” หลังจากความตึงเครียดหลังการฝึกซ้อมในวันหนึ่ง ซลาตันโกรธจัดก่อนจะพุ่งไปท้าทายโอกูชี่ ก่อนทั้งสองจะเริ่มต่อสู้กัน
ซลาตันกล่าวว่า “ผมไม่ได้พูดกวนประสาทเขา แต่เขาไม่หยุด เขาทำท่าชู่ว์ด้วยมือ บอกให้เงียบใส่ผม แล้วเขาก็ทำอีกครั้ง ผมรู้สึกโกรธ แต่ผมไม่ได้พูดอะไรเลยแม้แต่คำเดียว แต่การซ้อมครั้งต่อไป ผมก็ใส่เขาเลย”
(สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของวงการฟุตบอลได้ทางเว็บไซต์ KUBET)
คนที่ 4 โจอี้ บาร์ตัน
โจเซฟ แอนโทนี “โจอี” บาร์ตัน หรือ โจอี้ บาร์ตัน นักฟุตบอลชาวอังกฤษ ทั้งสองเข้าปะทะกันระหว่างการยืมตัวของโจอี้ มาเข้าร่วมทีมฝรั่งเศส ทั้งคู่มีปากเสียงกันในครึ่งแรกของการเผชิญหน้ากันระหว่างเปแอสเชพบกับมาร์กเซย จากนั้นบาร์ตันก็ล้มซลาตันเรื่องขนาดจมูกของเขา เขากล่าวถึงเหตุการณ์นั้นว่า
“โค้ชส่งผมลงไปในสนามให้ตามประกบซลาตัน คอยป่วนให้เขาไม่มีสมาธิในการเล่น และมันก็ได้ผม ทีมผมได้ฟรีคิกหวานฉ่ำเลย เพราะเขาทำฟาวล์แล้ว ทำฟาวล์อีก เขาพูดกับผมว่า แกเล่นบอลหนักไม่ใช่หรอ อย่าล้มให้มันบ่อยนักสิวะ ผมหัวเราะแล้วก็ตอบกลับไปว่า มึงก็หยุดทำฟาวล์โง่ๆ สักทีสิเว้ย”สุดท้ายเกมนั้นซลาตันก็สามารถเอาชนะได้ด้วยสกอร์ 2 ประตูต่อ 0
คนที่ 5 มาร์โกส โรโฆ
เฟาส์ติโน มาร์โกส อัลเบร์โต โรโฆ หรือ มาร์โกส โรโฆ กองหลังชาวอาร์เจนตินา เขารู้แล้วว่าการไม่จ่ายบอลให้แข้งชาวสวีเดน เมื่อเขาต้องการมัน เป็นหนทางสู่ความหายนะ โดยระหว่างการฝึกซ้อมของแมนยู โรโฆส่งบอลให้ป็อกบา ทั้งที่ซลาตัน ของมันจากเขา โรโฆ ได้ออกมาเปิดเผยภายหลังว่า “ผมรู้ว่าเขาต้องการให้เราจ่ายบอลให้เขาทั้งหมด ระหว่างเกมผมเห็นเขาขอมัน แล้วผมก็ไม่ได้ให้มันกับเขา เขาจึงเริ่มตะคอกใส่ผม เวิ่นเว้อเป็นภาษาสเปนและอังกฤษผสมกัน ผมเลยบอกเขาว่า มึงเป็นบ้าอะไรไอ้จมูกโต หุบปากไปสะ ผมรู้ว่าถ้าเขาคว้าตัวผมได้ เขาคงจะฆ่าผมสะตรงนั้นเลย”
สิ่งเดียวที่ผมต้องทำคือต้องเผชิญหน้ากับเขาในห้องแต่งตัว แล้วบอกให้เขาหุบปาก และหยุดตะโกนสะ เราเริ่มด่ากันไปมา แล้วคนอื่นๆ ก็เข้ามาช่วยให้มันสงบลง
จบกันไปแล้วกับ 5 แข้งพร้อมบวกกับ “ซลาตัน อิบราฮีมอวิช” ยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับวงการฟุตบอลให้ได้ติดตามกันต่อ สามารถรับชมได้ทางเว็บไซต์ KUBET เว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับวงการฟุตบอล ได้รับความนิยมเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย