5 นักเตะที่ออกมาเปิดเผยตัวตนว่า ตัวเองเป็นกลุ่มLGBTQ+ หรือกลุ่มหลากหลายทางเพศ จะเป็นยังไงกับการที่ออกมาคุยเรื่องราวของนักเตะที่กล้าหาญ 5 คนนี้จะเป็นอย่างไร KUBET ได้มารวบรวมให้คุณๆแล้วที่นี่ ตามมาดูกันเลย
เมื่อโลกเปลี่ยน ทุกอย่างก็เปลี่ยน
เมื่อโลกในทุกวันนี้ได้เปลี่ยนไป มุมมองจากผู้คนที่มองเรื่องเพศสภาพก็เปลี่ยนตาม การเป็นนักฟุตบอลสมัยก่อนนั้นถูกมองกว่าเป็นกีฬาสำหรับชายแท้เท่านั้น ใครก็ตามที่ไม่ใช่จะถูกเหยียดและไม่สามารถมีที่ยืนในวงการฟุตบอลได้ ซึ่งนั้นก็เป็นเรื่องที่ยากมากๆสำหรับนักเตะที่คิดจะเปิดตัว
การเปิดตัวว่าตัวเองเป็นกลุ่ม LGBTQ+ หรือรักพวกเพศนั้น เป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับนักบอลแต่พอยุคสมัยเริ่มเปลี่ยน มุมมองบางอย่างที่เกี่ยวกับเรื่องเพศก็ได้เปิดกว้างขึ้นทำให้การออกมาเปิดเผยตัวตนเป็นสิ่งที่แฟนๆบอลยอมรับได้และก็สนับสนุนพวกเขาเหมือนเดิมเหมือนจะก่อนจะเปิดตัว
สมัยปัจจุบันในวงการฟุตบอลได้ออกมาสนับสนุนเรื่องเพศสภาพโดยการให้กัปตันทีมสวมปลอกแขนสีรุ้งเพื่อเป็นการยืนยันจุดยืนนี้ และขาดไม่ได้เลยสำหรับความกล้าหาญของนักเตะทั้ง 5 คนนี้ที่จะออกมายอมรับว่าตนเองเป็น “เกย์” และนี่คือหยุดเริ่มต้นเท่านั้นเลย ผมเชื่อว่านี่จะไม่ใช่ 5 คนสุดท้ายที่จะออกมายอมรับอย่างแน่นอน- BY KUBET FOOTBALL
แต่ในความกล้าหาญสำหรับพวกเขาทั้ง 5 คนนี้ ก็ต้องแลกมาพร้อมความกดดันทางสังคมสำหรับคนบางกลุ่มที่ยังหัวโบราณและยังไม่ยอมรับกับการมีอยู่ของเพศภาพนี้ ทำให้พวกเขายังโดนคอมเมนต์แย่ๆ และ การดูถูกมากมายกับการออกมาเปิดเผยตัวตนของตัวเองจะมีใครกันบ้าง ไปดูกันเลย- BY KUBET FOOTBALL
จัสติน ฟาชานู
จัสติน ฟาชานู คนแรกในวงการฟุตบอลในยุค 1990 ที่กล้าออกมาเปิดเผยกับหนังสือพิมพ์ว่า ตัวเองเป็นกลุ่ม LGBTQ+ หรือรักร่วมเพศนั้นเอง แต่สิ่งที่เจ้าตัวได้รับกระแสตีกลับมาไม่เป็นไปในทางที่ดีเท่านัก การออกมาเปิดเผยตัวตนในครั้งนั้นทำให้น้องชายแท้ของเขา (ยอห์น ฟาชานู อดีตเครซี แกงค์) แสดงท่าทีที่รังเกียจเขาเหมือนที่คนอื่นๆแสดงออกต่อเขาเช่นกัน
การออกมาเปิดเผยตัวตนของเขาในครั้งนั้นทำให้หลายอย่างถาโถมเข้ามาใส่ จัสติน ฟาชานู อย่างจัง ถึงขนาดทำให้เจ้าตัวหมดอนาคตกับวงการฟุตบอลเลยทีเดียว มันฟังดูร้ายแรงมากๆเลยใช่ไหมแต่เรื่องมันไม่จบเพียงเท่านั้น เขาได้ไปออกรายการทีวีที่มีชื่อว่า บีบีซี แล้วได้กล่าวประโยคที่สะท้อนถึงความเสียใจต่อเรื่องนี้มากแค่ไหน
จัสติน ฟาชานู ได้กล่าวไว้ว่า “ถ้าผมย้อนเวลาได้ ผมไม่อยากให้สิ่งนี้เกิดขึ้น แม้ผมจะซื่อสัตย์และจริงใจต่อการกระทำที่จะเปิดเผยตัวตนของผมก็ตาม” และหลังจากนั้นได้ไม่นานเขาก็ได้ตัดสินใจจบชีวิตตัวเองลง ในปี 1998 มันน่าเศร้านะครับกับการออกมายอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็นแต่สุดท้ายก็ต้องมาจบชีวิตลงด้วยเหตุผลนี้เช่นเดียวกัน
โทมัส ฮิทเซิลส์แพร์เกอร์
โทมัส ฮิทเซิลส์แพร์เกอร์ เป็นอีกหนึ่งคนที่ออกมาเปิดเผยต่อสาธารณชนว่าเขาเป็น “เกย์” แต่หลังจากที่เจ้าตัวได้ทำการแขวนสตั๊ดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว การออกมาเปิดเผยตัวตนของเขามันทำให้วงการฟุตบอลสั่นสะท้อนเพราะเขาคือ หนึ่งในกองกลางที่เล่นได้สารพัดประโยชน์ สัญชาติ เยอรมนี
โดยโทมัส ฮิทเซิลส์แพร์เกอร์ ได้ออกมาเปิดเผยในช่วงปี 2014 ว่า “ในที่สุดผมก็ได้พูดมันซะที ผมเก็บมันอยู่นาน และผมพร้อมที่จะบอกแล้วว่าผมรักและอยากอยู่กับผู้ชายไปตลอดชีวิตของผม” ซึ่งนี่เป็นการเปิดเผยที่เดอะ การ์เดียน ว่าจริงๆแล้วเจ้าตัวเองปิดบังตัวตนมานานแล้ว ตั้งแต่ปี 2011 แต่เพื่อนในทีมห้ามเขาเอาไว้ โดยให้คำปรึกษาว่า นายรับมันไม่ไหวหรอ กลับสิ่งที่มันจะตามมา และนั้นก็ทำให้เขาเก็บความลับนี้เอาไว้
แต่พอเวลาผ่านไปเข้าได้แขวนสตั๊ดแล้วเจ้าตัวจึงออกมาประกาศให้โลกรู้และปัจจุบันประเทศเยอรมนีก็เปิดกว้างและยอมรับเพศทางเลือก (มากกว่าอังกฤษ)อันนี้ถือเป็นอีกหนึ่งนักเตะที่ต้องรอเวลาที่จะสามารถออกมาเปิดเผยตัวตนได้ไม่อย่างนั้นคงรับผลของมันไม่ไหวจริงๆอย่างที่เพื่อนของเขาเคยเตือน
นี่แค่ 2 คนนะกับการเปิดตัวว่าตนเป็นกลุ่ม LGBTQ+ ยังดุเดือดขนาดนี้แล้วอีก 3 คนที่เหลือจะขนาดไหนแต่ยุคสมัยที่เปลี่ยนไป อาจจะทำให้การออกมายอมรับนั้น มันไม่เลวร้ายเหมือนที่ผ่านๆมาก็เป็นได้ใครที่อยากตามต่อก็สามารถติดตามได้ที่ KUBET รอบรู้เรื่องวงการฟุตบอลได้เลย
