สวัสดีครับ เรายังอยู่กันต่อกับเรื่องราวของอดีตนักเตะที่เคยได้รับรางวัลบัลลงดอร์อันทรงเกียรติ รางวัลลูกบอลทองที่อาชีพนักเตะหลายๆคนใฝ่ฝัน วันนี้KUBET จะพาไปย้อนอดีตกับใคร ตามไปดูกันเลยครับ

Alfredo Di Stefano
Alfredo Di Stefano เป็นหนึ่งในสุดยอดกองหน้าที่อันตรายที่สุดเท่าที่เคยมีมา เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นนักเตะที่แข็งแกร่งทรงพลัง รวดเร็ว อีกทั้งยังมีทักษะในการถล่มประตูได้อย่างยอดเยี่ยม และชาญฉลาด จนได้รับฉายาเจ้าลูกธนูทอง หรือ Blond Arrow
จุดเริ่มต้นเส้นทางฟุตบอล
Alfredo Di Stefano เกิดที่ประเทศอาร์เจนติน่า เขาเติบโตมากับการเล่นฟุตบอลข้างถนนโดยมีพ่อที่เป็นอดีตนักฟุตบอลคอยให้การสนับสนุน และเมื่อเขามีอายุได้14ปี สเตฟาโนได้ลงเล่นฟุตบอลให้กับทีมเยาวชนของสโมสรUnion Progresista ตั้งแต่ปี1940 เป็นเวลา3ปี ก่อนจะได้เข้าร่วมทีมเยาวชนสโมสรฟุตบอล River Plate ปี1944 และได้เปิดตัวลงเล่นทีมชุดใหญ่เมื่อปี1945
ผลงานต่างๆของอัลเฟรโด ดิ สเตฟาโน
สเตฟาโนได้โชว์ฟอร์มการเล่นได้อย่างโดดเด้น จนทีมHuracan สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งลีกอาร์เจนติน่าในขณะนั้น มาขอยืมตัวสเตฟาโนไปร่วมฟาดแข้ง ในฤดูกาลปี1945-1946 ก่อนจะกลับมาเล่นให้กับRiver Plate สเตฟาโนได้เป็นหนึ่งในกำลังสำคัญในการคว้าแชมป์ลีกอาร์เจนติน่า2สมัย จนได้เป็นตัวแทนจากอาร์เจนติน่าไปลงแข่งในระดับสโมสรสองประเทศกับอุรุกวัยและคว้าแชมป์Copa Aldaoปี1947 มาได้
ตามมาด้วยการแข่งขันชิงแชมป์อเมริกาใต้ในปี1948 เขาก็ได้พาทีมริเวอร์เพลทพาไปได้ไกลถึงตำแหน่งรอบรองแชมป์ KUBET เห็นได้ชัดเลยว่านักเตะในสมัยก่อนนี่เขาเก่งไม่แพ้นักเตะในปัจจุบันเลยจริงๆ
ปี1949 สเตฟาโนเซ็นสัญญาเข้าร่วมทีมMillonarios ทีมดังจากลีกโคลอมเบีย ตลอด4ปีที่อยู่กับสโมสรมิลเลียนนาริออส สเตฟาโนกระหน่ำยิงประตูไปมากถึง90ลูก จากการลงแข่งขัน100นัด นับเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์ลีกโคลอมเบีย เขาได้พาทีมคว้าแชมป์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น
– Campeonato Profesional 4 สมัย
– Copa Colombia 1 สมัย- Small Club World Cup 1 สมัย

ปี1953 สเตฟาโนในวัย27ปี ได้เซ็นสัญญาเข้าร่วมทีมราชันชุดขาวเรอัลมาดริดและได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดตลอดกาลของทีม ตลอดระยะเวลา11ปี สเตฟาโน ทำไป308ประตู จากการลงเล่นทั้งหมด 396 เกม กลายเป็นนักเตะที่ทำประตูได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร ณ เวลานั้น
นำความสำเร็จและชัยชนะมาสู่ทีมราชันชุดขาวอย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการพาทีมคว้าแชมป์ European Cup ได้ยาวนานติดต่อกันถึง5สมัย ซึ่งเป็นสถิติที่ยังไม่มีนักเตะคนใดสามารถทำลายได้จนถึงปัจจุบัน
รวมไปถึงแชมป์ลาลีกาลีก8สมัย หลังจากที่เรอัลมาดริดห่างหายจากถ้วยแชมป์นี้มานานถึง2ทศวรรษ นอกจากนี้ยังมีถ้วยอื่นอีก อย่าง
– Copa del Generalisimo อีก1สมัย
– Latin Cup 2สมัย
– Intercontinental Cup 1สมัย
หลังจากได้หมดสัญญากับเรอัลมาดริดลงในปี1964 สเตฟาโนก็ได้ย้ายไปลงเล่นให้กับสโมสรRCD Espanyol 2ฤดูกาล ก่อนที่เขาจะประกาศแขวนสตั๊ดในวัย 40 ปี
การแข่งขันในระดับทีมชาติของสเตฟาโน
เขาได้ลงแข่งขันให้กับทีมชาติ3ประเทศ ทั้งอาร์เจนติน่า สเปน และโคลอมเบีย แต่เขาไม่เคยได้สัมผัสกับสนามแข่งระดับโลกอย่างฟุตบอลโลกเลยแม้แต่ครั้งเดียว
จากผลงานอันโดดเด่น และความเก่งกาจของสเตฟาโนทำให้เขาเป็นนักฟุตบอลคนแรกในประวัติศาสตร์ที่สามารถคว้ารางวัลบัลลงดอร์ถึงสองสมัย ในปี1957 และปี1959 นอกจากนี้สเตฟาโนยังเป็นผู้เล่นเพียงคนเดียวของประวัติศาสตร์ที่ได้รับรางวัลพิเศษอย่าง Super Ballon d’Or ที่พึ่งเคยจัดขึ้นเพียงครั้งเดียวในปี1989
โดยนิตยสารFrance Football เพื่อเป็นเกียรติแก่นักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบ3ทศวรรษที่ผ่านมา โดยนิตยสารฟร็องส์ฟุตบอล ได้รวบรวมคะแนนผลโหวตจากแฟนบอล คณะกรรมการจากฟร็องส์ฟุตบอล และอดีตผู้ที่ได้รับรางวัลบัลลงดอร์ที่ผ่านมา
KUBET – เว็บไซต์ให้คำปรึกษาข่าวฟุตบอล ข้อมูลฟุตบอลอัพเดทแบบเรียลไทม์ ช่วยให้คุณเรียนรู้เกมฟุตบอลล่าสุดและครอบคลุมที่สุด คะแนนฟุตบอล ลีกฟุตบอล สโมสรฟุตบอล และข้อมูลฟุตบอลโลก รวมถึงข้อมูลอื่นๆที่คุณอยากรู้ เช่นประวัติความเป็นมาของสโมสร หรือที่มาที่ไปของโลโก้แต่ละสโมสร โดยไม่ต้องออกจากบ้าน