KUBET นำเสนอเรื่องราวอีกมุมหนึ่งของโลกฟุตบอลกับ หนึ่งเดียวในใจแฟนผี “ดิเอโก้ ฟอร์ลัน” ที่ละทิ้งความฝันเพื่อความสุขที่ยิ่งใหญ่กว่า เมื่อเส้นทางที่วาดไว้กำลังไปได้สวย ทว่าก็มีบางอย่างที่ทำให้สิ่งที่ต้องการทั้งหมดต้องหยุดชะงักลง พร้อมเส้นทางชีวิตที่เปลี่ยนไปตลอดกาล การตัดสินใจเลือกละทิ้งความฝันของตัวเองทั้งหมด เพื่อลมหายใจให้กับใครอีกคนได้มีความสุขไปพร้อมๆกัน เรื่องราวของดิเอโก้ ตำนานอุรุกวัย จะเป็นยังไง ย้อนรอยเหตุการณ์ในชีวิตของเขาไปพร้อมกันกับเคยูเบทได้เลย
ดิเอโก้ ฟอร์ลัน
ดิเอโก ปาโบล ฟอร์ลัน โกราโซ หรือ ดิเอโก้ ฟอร์ลัน เกิดวันที่ 19 พฤษภาคม 1979 ที่กรุงมอนเตวิเดโอ เมืองหลวงของประเทศอุรุกวัย ซึ่งมีประเทศบราซิลและอาร์เจนติน่าขนาบข้างอยู่ อดีตนักฟุตบอลทีมชาติอุรุกวัย ประเทศมหาอำนาจแห่งวงการลูกหนังอย่างอุรุกวัยที่คว้าแชมป์บอลโลกไปทั้งหมด 2 สมัย ในปี 1930 และ 1950 โอลิมปิก 2 สมัย และ Copa America อีก 15 ครั้ง ซึ่งครอบครัวของฟอร์ลันทั้งหมด 3 รุ่นที่เป็นนักค้าแข้งอยู่ในช่วงของการคว้าแชมป์ดังกล่าวเช่นกัน
เริ่มต้นตั้งแต่รุ่นคุณตาของเขาที่สร้างผลงานไร้พ่ายเอาไว้มากมายกับทีมยักษ์ใหญ่ ส่งต่อความเชี่ยวชาญมายังคุณพ่อของเขา ที่เป็นหนึ่งในผู้เล่นของทีมชาติอุรุกวัยในปี 1966 และ 1974 รวมถึงการเป็นนักเตะให้กับสโมสรชื่อดังมากมายในอเมริกาใต้ จนกระทั่งมาถึงฟอร์ลันที่เริ่มคว้าแชมป์ให้ทีมในสังกัดตามรอยบรรพบุรุษของเขา
แม้จะเติบโตขึ้นมาในครอบครัวของนักกีฬาฟุตบอลแต่กีฬาชนิดแรกที่เขาเลือกเล่นและเริ่มต้นอย่างจริงจังนั่นคือการ เล่นเทนนิส ในบ้านเกิดของเขามีสมาคมเพื่อทำการฝึกซ้อมเทนนิสขนาดใหญ่ เขาได้เข้าเป็นสมาชิกตั้งแต่ 8 ขวบ พร้อมกับความโดดเด่นที่ส่องประกายตั้งแต่ตอนนั้น เด็กชายผู้มีพรสวรรค์ เขาจะยิ่งใหญ่ในสายงานนี้อย่างแน่นอน นี่คือคำกล่าวของผู้คนที่ได้พบเจอกับเด็กชายฟอร์ลันในตอนนั้น
ขณะที่เขาเข้าร่วมการเป็นสมาชิกของสมาคม ในช่วงเวลาว่างเขาก็มักใช้มันไปกับการฝึกซ้อมฟุตบอล นั่นทำให้เขามีความสามารถเสริมที่น่าอัศจรรย์อีกอย่างหนึ่งคือการเล่นฟุตบอล (ติดตามข่าวสารการเคลื่อนไหวของวงการฟุตบอลได้ทางเว็บไซต์ KUBET)
จุดเปลี่ยนสำคัญ
ในปี 1994 Alrjandra Forlan พี่สาวของฟอร์ลันเดินทางกลับจากงานเลี้ยงแห่งหนึ่งกับแฟนหนุ่มของเขาก่อนจะเกิดอุบัติเหตุที่ไม่มีใครอยากจะให้เกิด รถของเธอเสียหลักพุ่งชนลงข้างทาง เป็นเหตุให้แฟนหนุ่มของพี่สาวเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และพี่สาวของเขามีอาการโคม่าที่จำเป็นต้องนอนพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลนานถึง 7 เดือน ก่อนจะพบว่าเธอไม่สามารถกลับมาเดินได้ปกติอีกแล้ว เธอต้องนั่งอยู่บนรถเข็นตลอดชีวิต ในตอนนั้นฟอร์ลันอายุแค่เพียง 13 ปีเท่านั้น
ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เป็นพี่น้องที่สนิทสนมและรักกันมาก นั่นทำให้เรื่องนี้กระทบต่อจิตใจของฟอร์ลันอย่างที่สุด เขาพยายามช่วยเหลือพี่สาวของเขาทุกวิถีทาง รวมถึงการคิดวิธีการหาเงินให้ได้มากที่สุด ภายในประเทศที่โด่งดังในเรื่องของฟุตบอลนั่นทำให้เขาตัดสินใจละทิ้งความฝันในการเล่นเทนนิส เข้าสู่วงการฟุตบอลแบบเต็มตัว ฟอร์ลันในวัย 13 เบี่ยงเข็มทิศชีวิตของตัวเอง เพื่อทำสิ่งที่หลายคนเรียกว่าหน้าที่ มากกว่าที่จะเป็นความฝัน เนื่องจากเป็นสิ่งที่ทำเงินได้มากกว่าการทำตามความฝัน และมันก็จำเป็นมากกับทั้งเขาและครอบครัวรวมถึงพี่สาวของเขา
เส้นทางที่เปลี่ยนแปลง
หลังจากตัดสินใจมาเอาดีด้านฟุตบอลแทน พร้อมพิสูจน์ตัวตนว่าไม่ว่าเขาจะเลือกเส้นทางไหน เขาก็เป็นเลิศได้ทั้งนั้น เขาใช้เวลาทั้งหมดในสนามฟุตบอลเพื่อฝึกซ้อมกว่า 3 ปี ก่อนจะเข้าสู่ยุโรปครั้งแรกด้วยการเข้าไปทดสอบฝีเท้ากับสโมสร Nancy ในฝรั่งเศส เขาใช้เวลาในสโมสรแห่งนี้กว่า 5 เดือน ทว่ากลับไม่ได้รับสัญญาที่ชัดเจนนั่นทำให้เขากลับไปยังบ้านเกิดก่อนจะเริ่มต้นกับสโมสรอินเดเปนดิเอนเตในอาร์เจนติน่า ซึ่งเป็นสโมสรเก่าของคุณตา
จากการลงเล่นให้กับอินเดเปนดิเอนเต 91 เกม ฟอร์ลันยิงไปแล้ว 40 ประตู เขาใช้เวลากว่า 2 ปีจนอายุ 19 ทำให้เขาสามารถก้าวเข้าสู่ทีมชุดใหญ่ได้สำเร็จ สโมสรที่ฟอร์ลันพุ่งเป้าไปอยู่ที่ประเทศอังกฤษ ในตอนแรกที่ Middlesbrough เป็นฝ่ายยื่นข้อเสนอให้เขา พร้อมการตกลงเม็ดเงินเรียบร้อยแล้วจนกระทั่งในวินาทีสุดท้ายที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเสนอสัญญาเข้ามา พร้อมกับเม็ดเงินที่มากกว่าอย่างมหาศาล
(ติดตามข่าวสารการเคลื่อนไหวของวงการฟุตบอลได้ทางเว็บไซต์ KUBET)
“แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นสโมสรที่ยิ่งใหญ่ ผมจึงตัดสินใจไปที่นั่น อีกอย่างก็คือพวกเขาเสนอเงินให้ผมมากกว่ามิดเดิลสโบรช์ ” ดิเอโก้ ฟอร์ลัน
ฟอร์ลันตัดสินใจย้ายไปอยู่กับแมนยูในปี 2001 ทันทีที่ได้ค่าตัวตามสัญญาเขาก็ส่งมันทั้งหมดให้กับครอบครัวอย่างรวดเร็วเพื่อใช้มันเป็นทุนในการรักษาพี่สาวของเขาทันที ก่อนจะเริ่มต้นค้าแข้งให้กับแมนยูต่อไป แน่นอนว่าสนามที่อเมริกาใต้กับอังกฤษมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แม้ว่าเขาจะมีทักษะที่ดีเยี่ยมแต่ก็ต้องฝึกฝนอย่างหนักโดยเฉพาะการจบสกอร์ที่ฟอร์ลันยังทำได้ไม่ดีนักแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่เคยหยุดพยายามพัฒนาตัวเอง
“ดิเอโก้เป็นคนตรงไปตรงมา ในการฝึกซ้อม บางคนอาจจะพูดว่า โชคร้ายจัง พรุ่งนี้ก็ดีขึ้นน่า แต่สำหรับฟอร์ลัน เขาจะพูดว่า ต้องทำได้ดีกว่านี้สิวะ” Roy Keane อดีตกัปตันทีมแมนยู
ฟอร์ลันกับบิยาร์เรอัล
ในปี 2004 ฟอร์ลันย้ายไปอยู่กับบิยาร์เรอัล และที่นั่นเองที่สามารถจุดประกายให้ดาวดวงนี้ได้เฉิดฉายแบบเต็มขั้น ทันทีที่ย้ายมาเขาได้กลายเป็นดาวซัลโวของทีมก่อนจะขึ้นมาเป็นดาวซัลโวของทวีปยุโรปคว้ารางวัลรองเท้าทองคำ 2 สมัย ต่อเนื่องกับการเป็นตัวหลักของทีมชาติอุรุกวัยก่อนจะคว้ารางวัลลูกบอลทองคำได้ในศึกฟุตบอลโลกปี 2010 เขายังคงเดินสายทางฟุตบอลไปจนจบสายฟุตบอลอาชีพกับสโมสรคิตฉี ในประเทศฮ่องกง
เส้นทางของเด็กชายที่เล่นเทนนิสเป็นความฝัน จนเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ต้องเลือก และเมื่อต้องเลือกเส้นทางที่แตกต่างออกไปเขาก็ทำได้ดีอย่างน่าเหลือเชื่อเช่นกัน และทั้งหมดนี่ก็คือเรื่องราวของ ดิเอโก้ ฟอร์ลัน ที่ละทิ้งความฝันเพื่อคนที่รัก พร้อมสร้างเส้นทางใหม่ที่งดงามและเติบโต พร้อมกับประสบความสำเร็จได้อย่างยอดเยี่ยม สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของวงการฟุตบอลได้ทางเว็บไซต์ KUBET เว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลข่าวสารด้านฟุตบอลอันดับหนึ่งของประเทศไทย