หงส์แดงเคาะแล้ว ดีลรับจบที่ 18 ล้านยูโร เปิดตัวกองกลางแนวรับคนใหม่แห่งแดนซามูไร “วาตารุ เอ็นโด” อดีตนักฟุตบอลทีมชาติญี่ปุ่น กัปตันทีมสตุ๊ดการ์ท ร่วมหาคำตอบกับ KUBET แฟนบอลลิเวอร์พูลต่างตั้งคำถาม เหมาะสมแล้วหรือ? เอ็นโดวัย 30 ปี ว่ากันตามเนื้อผ้า ยังคาดหวังได้อีกหรือไม่ แนวป้องกันหน้าใหม่กับที่มาที่ไม่ธรรมดาเช่นกัน
จุดเริ่มต้นของ “วาตารุ เอ็นโด” เขาเกิดในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1993 เดิมทีเป็นนักฟุตบอลชาวญี่ปุ่น ปัจจุบันเข้ารับตำแหน่งกองกลางตัวรับให้แก่ลิเวอร์พูล และนักฟุตบอลประจำทีมชาติญี่ปุ่น เอ็ดโดเริ่มเล่นให้ทีมชาติตั้งแต่ปี 2015 จึงถึงปัจจุบัน ย้อนกลับไปที่จุดเริ่มการเข้าสู่วงการลูกหนัง เขาเข้าร่วมทีมสโมสรใหญ่ตั้งแต่อายุ 17 ปี
ในฐานะตัวหลักของทีมโชนัน เบลมาเร ทำสถิติให้ทีม 23 ประตู ในปี 2016 เส้นทางของเขาก็มีแต่จะก้าวกระโดดขึ้นสูงไปอีก เอ็นโดย้ายมาเข้าร่วมกับทีมอูราวะ เรดไดมอนส์ เขาเป็นตัวหลักให้ทีมคว้าแชมป์ยู 23 ปี ประจำเอเชีย ถือเป็น “เพชรเม็ดงาม” ของวงการฟุตบอลญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ และนั่นเองทำให้เขาได้รับคัดเลือกเป็นหนึ่งในตัวเต็งทีมชาติญี่ปุ่นมาจนถึงปัจจุบัน

เอ็นโดเริ่มเข้าสู่วงการฟุตบอลยุโรปในปี 2018 ในลีกของเบลเยี่ยม ก่อนจะถูกสตุ๊ดการ์ทยืมตัวไปใช้งานจากนั้นก็ได้ทำการเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการกับทีม สถิติหลังย้ายมาอยู่กับสตุ๊ดการ์ท ชนะการครองบอลมากที่สุด 254 ครั้ง ชนะดวลลูกกลางอากาศมากที่สุด 219 ครั้ง เคลียร์บอลมากที่สุด 175 ครั้ง กักบอลจากลูกโหม่งได้มากที่สุด 105 ครั้ง นักเตะที่สัมผัสบอลได้มากที่สุดของลีก 6511 ครั้ง ส่งผลสำเร็จ 3940 ครั้ง ครองบอลกลางสนาม 404 ครั้ง เอ็นโดนักเตะชาวเอเชียมีสถิติการเข้าปะทะมากที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ของลีกยุโรป 208 ครั้ง รวบรวมสถิติโดย kubet
"นี่เป็นการขยับที่ชาญฉลาดมากของลิเวอร์พูล เพราะนี่คือหนึ่งในนักเตะเชิงรับที่ดีที่สุด สามารถครองบอลได้อย่างเหนียวแน่น มีความเป็นผู้นำ และหากพูดถึงตัวเลข นั้นก็การันตีแล้วว่าลิเวอร์พูลเลือกคนไม่ผิด" Jan Aage Fjortoft อดีตนักฟุตบอลกองหน้า ปัจจุบันเป็นนักข่าว
เอ็นโด ถูก แต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีมสตุ๊ดการ์ท เพราะภาวะการเป็นผู้นำของเขา และการปฏิบัติตามกฎ คำแนะนำของโค้ชอย่างเคร่งครัด เขาถือเป็นนักเตะเอเชียคนแรกที่ได้ก้าวเข้าสู่ตำแหน่งกัปตันทีมฟุตบอลใน 5 ลีกใหญ่ของยุโรป ในนามของทีมชาติ วาตารุ เอ็นโด ก็คือกัปตันทีมชาติญี่ปุ่นเช่นกัน
"ในฐานะนักฟุตบอล และในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง วาตารุ เอ็นโด มีคุณค่าอย่างน่าเหลือเชื่อ เขาถือเป็นจุดศูนย์รวมในระบบการเล่นของเรา ไม่ว่าเขาจะเล่นในตำแหน่งไหน ผลงานในสนามของเขาถือเป็นเรื่องที่โชคดีมากๆของเรา เขาทำมันได้ดีอย่างสม่ำเสมอ" Sven Mislintat ผู้จัดการทีมสตุ๊ดการ์ท
"ถ้าคุณมีเพื่อนร่วมทีม หรือ กัปตันทีมอย่าง วาตารุ เอ็นโด คุณมั่นใจได้เลยว่าเขาพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับคู่แข่งโดยไม่สนเลยว่าคู่แข่งจะเป็นใคร เก่งกาจมาจากไหนก็พร้อมวัดได้ทั้งหมด" Pellegrino Matarazzo อดีตกัปตันทีมสตุ๊ดการ์ท
หากจะพูดถึงสมรรถภาพทางด้านร่างกายของเขา เอ็นโดในวัย 30 มีความพร้อมของร่างกายมากพอสำหรับการลงแข่งในลีกใหม่มากน้อยเพียงใด ย้อนกลับไปตั้งแต่ก้าวแรกที่เขาเริ่มลงสนาม เอ็นโดได้รับบาดเจ็บจากการลงสนามแข่งฟุตบอลเพียงแค่ 2 ครั้งเท่านั้นตลอดชีวิตการเล่นฟุตบอลของเขา หนึ่งในนั้นคือการป่วยด้วยเชื้อโควิด 19 แสดงให้เห็นถึงความพร้อมของร่างกายที่พัฒนาขึ้นตามลีกและสนามที่กว้างขึ้นเช่นกัน
แม้ว่าเอ็นโดจะไม่ได้มีชื่อเสียงในวงกว้าง หรือ มีชื่อเสียงในวงการลูกหนังอย่างที่ควร หลายคนมองว่าด้วยราคาที่ไม่ได้แพงสำหรับการซื้อขาย กับ ทีมใหญ่อย่างลิเวอร์พูล เหมาะสมแล้วหรือ แน่นอนว่าปัจจัยนั่นมีหลายอย่าง ไม่ใช่เพียงแค่นักเตะที่โด่งดังเท่านั้นที่จะสร้างอิมแพคให้ทีมได้ คุณสมบัติที่เหมาะสมก็สำคัญ
แฟนบอลรู้ดีว่าลิเวอร์พูลมีปัญหากับการครองบอล และไม่มีผู้เล่นที่สามารถนำบอลออกจากเขตตัวเองได้ ลิเวอร์พูลเคยแก้ปัญหาด้วยการยืมตัวอาตูมา แน่นอนว่าเขาทำได้ดีในการครองบอล จ่ายบอล ทว่าตอนยืมตัวก็เป็นจังหวะที่อาตูได้รับบาดเจ็บอยู่ทำให้เขาไม่ได้เข้ามาเสริมทีมเท่าไหร่นัก ในส่วนของการซื้อเอ็นโด จากคุณสมบัติที่เขามี และตำแหน่งที่ขาดหายไปของลิเวอร์พูล ก็เห็นได้ชัดเลยว่า เขามาเพื่ออุดรอยรั่วให้ทีมได้จริงๆ
โดยรวมแล้วทั้งสถิติ ผลงาน และภาพรวมเขาสามารถตอบโจทย์ตำแหน่งกองกลางแนวรับได้ตรงตามคุณสมบัติทุกข้อที่กองกลางควรมี แถมยังทำมันได้ดีที่สุดในทุกข้อเช่นกัน ทั้งความเป็นผู้นำ การปฏิบัติตัวอย่างเคร่งครัดในสนามและนอกสนาม การเล่นตามแผนจนนำมาซึ่งชัยชนะ พลังงานเต็มสูบตลอดการแข่งขัน อีกทั้งยังมีสภาพร่างกายที่สมบูรณ์ในทุกอิริยาบถ หลายเสียงเห็นด้วยกับการดีลในรอบนี้ของลิเวอร์พูล
อย่างไรก็ดี สำหรับเสียงที่ไม่เห็นด้วย เอ็นโด ก็ถือเป็นผู้เล่นที่มีคุณสมบัติครบถ้วน และเขาเหมาะสมสำหรับโอกาสที่จะพิสูจน์ตัวในการแข่งขันที่กำลังจะเกิดขึ้น เรื่องความเหมาะสม คงต้องเป็นเรื่องของระยะเวลาที่จะเป็นตัวตัดสินในเกมครั้งต่อไป ซึ่ง KUBET มั่นใจแน่นอนว่าการดีลครั้งนี้ ลิเวอร์พูลจะไม่ขาดทุน