KUBET FOOTBALL กับเรื่องราวของนักเตะที่มีภาพลักษณ์ไม่ค่อยเป็นมิตรนักอย่าง “รัดย่า เนียงโกลัน” นักฟุตบอลชาวเบลเยียมเชื้อสายอินโดนีเซีย ปัจจุบันเล่นในตำแหน่งกองกลางให้กับอินเตอร์มิลาน ภายใต้รอยสักสุดเหี้ยม ใบหน้าเย้ยแข้ง กับทรงผมจ๊าบๆของพี่แก ซ่อนอะไรไว้บ้าง ร่วมค้นหาไปพร้อมกันกับเคยูเบท
รัดย่า เนียงโกลัน คือใคร
ชายหนุ่มลูกครึ่งอินโดเบลเยียม เขาเกิดและเติบโตที่เบลเยียม เมือง Antwerp ย่านชนบท ชีวิตครอบครัวที่ไม่ได้สวยหรูเหมือนใคร พ่อแม่ของเขาแยกทางกัน ซึ่งรัดย่าอยู่กับแม่ของเขามาตั้งแต่เด็ก สิ่งเดียวที่ทำให้เขาแตกต่างจากเด็กในสลัมแถวนั้นคือความสามารถในการเล่นฟุตบอล รัดย่าเริ่มต้นด้วยสโมสรเล็กๆในเมืองเบลเยียมอย่าง Tubantia Borgerhout VK ทีมฟุตบอลสมัครเล่นท้องถิ่น เขาเข้าร่วมตั้งแต่อายุ 5 ขวบ จนอายุ 10 ขวบก็ได้รับข้อเสนอในการย้ายไปเข้าร่วมกับทีมในลีกสูงสุดของเบลเยียม
ในปี 2006 รัดย่าได้รับการติดต่อจากเปียเชนซา สโมสรในอิตาลี ด้วยสัญญาทั้งหมด 4 ปี แน่นอนว่าการย้ายประเทศเป็นเรื่องที่ยากลำบากสำหรับเขาแต่เขาก็ต้องทำ เพราะโอกาสมาถึงแล้ว เขาจำเป็นต้องปรับตัวให้ได้เร็วที่สุด สำหรับสถานที่ใหม่ที่จะย้ายไปอยู่
"ตอนอยู่กับเปียเชรซา ผมได้ค่าจ้างประมาณ 1 พันยูโรต่อเดือน มันมหาศาลมากสำหรับผมในตอนนั้น" รัดย่า เนียงโกลัน
ในปี 2008 -2009 รัดย่าได้ก้าวเข้าสู่ทีมชุดใหญ่ ด้วยตำแหน่งตัวหลักของทีม ลงไปทั้งหมด 38 เกม ทำสกอร์ได้ทั้งหมด 3 ประตู ในตำแหน่งกองกลาง เป็นเหตุให้ทีมรอดพ้นจากการตกรอบได้สำเร็จ ทำให้เขาเป็นที่รู้จักมากขึ้น ก่อนจะมีจากยืมตัวจากคัลยารี ในปี 2010 เขาลงเล่นไปทั้งหมด 7 นัดก่อนจะมีการเซ็นสัญญาเป็นตัวจริงทันที ทว่าความดีที่สุดในชีวิตก็มาพร้อมกับความร้ายที่สุดเช่นกัน
หลังเซ็นสัญญาถาวรได้ไม่นาน เขาก็ได้รับข่าวว่า แม่ของเขาเสียชีวิตแล้ว ด้วยโรคมะเร็ง ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นแรงบันดาลใจสู่รอยสักรูปปีกนกที่อยู่ตามแผ่นหลังของเขา รวมถึงวันเกิด และวันจากไปของแม่ เพื่อระลึกถึงท่านอยู่เสมอ รัดย่ารักแม่ของเขามาก เพราะท่านเป็นคนเดียวที่อยู่กับเขามาตลอด รวมถึงความสำเร็จนี้ก็เพื่อแม่ของเขาเช่นกัน เขาจำเป็นต้องมีชีวิตที่ดีขึ้นเพื่อให้แม่ของเขาได้ภูมิใจ
(ติดตามข่าวสารการเคลื่อนไหวของวงการฟุตบอลได้ทางเว็บไซต์ KUBET)
รัดย่าต้องใช้ชีวิตต่อไป เขามุ่งมั่นและทุ่มเท จนสามารถเป็นตัวหลักของทีมได้สำเร็จ กับสถิติลงเล่นทั้งหมด124 นัดทำประตูไปทั้งหมด 7 ลูก ในตำแหน่งกองกลางตัวรุก ความสามารถของรัดย่าที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากคือการเล่นแบบเปลี่ยนเกมรับไปเกมรุกได้อย่างไหลลื่นไม่ติดขัด เขากลายเป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ที่มีความครบเครื่องมากที่หนึ่งอีกคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ลูกหนังที่เคยมีมา
รัดย่ากลายเป็นขวัญใจของแฟนๆคัลยารี ทุกคนมอบความรักและกำลังใจให้เขาพร้อมตั้งฉายาว่า “นินจา” เพราะสไตล์การเล่นที่รวดเร็ว เคลื่อนไหวคล่องแคล่ว ว่องไว และเขาเองยังมีเชื้อสายของเอเชียผสมอยู่อีกด้วย รัดย่าเล่นให้กับคัลยารีทั้งหมด 3 ฤดูกาลกับสถิติเข้าปะทะบอลได้มาก และโหดที่สุดทำให้เขาได้รับโอกาสอีกครั้งในวงการฟุตบอล
รัดย่า กับ โรมา
ในปี 2014 รัดย่าได้ถูกโรมายืมตัวเข้ามาเล่นในกรุงโรม เขาใช้เวลาไม่นานในการพิสูจน์ตัวเองให้โรมาให้ประจักษ์ และแน่นอนว่าเขาทำมันได้สำเร็จในปีเดียวกัน รัดย่าถูกจับเซ็นสัญญาให้เป็นผู้เล่นตัวหลักของทีมหมาป่ากรุงโรม ด้วยสถิติลงเล่น 35 นัด ทำประตูไปได้ทั้งหมด 5 ประตู 6 แอสซิสต์ พาโรมาไปไกลถึงรองแชมป์ได้สำเร็จในปีนั้น
"เขารู้วิธีทุกอย่างในการเป็นมิดฟีลด์ชั้นยอด เทคนิคดี วางบอลยาวได้ พาบอลขึ้นไปข้างหน้า ยิงประตูได้ ถอยลงได้ สร้างสมดุลในเกมรับ ปะทะดี เขาสุดยอดจริงๆ ทั้งที่เพิ่งย้ายมา แต่เหมือนอยู่กับพวกเรามานานแล้ว" Rudi Garcia อดีตผู้จัดการทีมสโมสร A.S.Roma
รัดย่าได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำปีของสโมสรโรมาหลังจากทำผลงานได้อย่างดีเยี่ยม เขายังคงฟอร์มดุดันอย่างต่อเนื่องจนเข้าตาสโมสรยักษ์ใหญ่จากอิตาลีอย่างอินเตอร์มิลานที่ทุ่มเงินกว่า 38 ล้านยูโรในการซื้อตัวเขามาร่วมทีม
(ติดตามข่าวสารการเคลื่อนไหวของวงการฟุตบอลได้ทางเว็บไซต์ KUBET)
พฤติกรรมส่วนตัว
อย่างไรก็ดี ชื่อเสียงที่โด่งดังมาพร้อมกับการโจมตีในเรื่องของพฤติกรรมส่วนตัวของเขา เรื่องราวในปี 2018 รัดย่าได้ทำการไลฟ์สดผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียของตนเอง ทั้งกินเหล้า สูบบุหรี่ ดื่มกินกันอย่างสนุกสนาน แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องปกติถ้าเขาเป็นคนธรรมดา แต่เพราะการมีชื่อเสียงในวงกว้าง กับอาชีพนักกีฬาที่ควรจะเป็นตัวอย่างให้กับสังคม ทำให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไปในทางที่ไม่เหมาะสมมากกว่าชื่นชม
ถึงอย่างนั้นรัดย่าก็ได้ออกมากล่าวขอโทษกับเหตุการณ์ดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว เพราะความคึกคะนองมากเกินไปของเขา สโมสรโรมาจึงออกมาเทคแอคชั่นกับเรื่องนี้โดยการปรับค่าเหนื่อยของรัดย่าไปทั้งหมด 1 แสนยูโร นั่นทำให้เขาไม่ค่อยพอใจนัก จึงมีความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยดีกับสโมสรตั้งแต่นั้นมา
ทว่าพฤติกรรมของเขาก็ยังไม่ได้จบลงแค่นั้น รัดย่าเคยสูบบุหรี่ในตอนที่ฝึกซ้อมอยู่กับทีมชาติเบลเยียมในปี 2014 ทำให้เขาถูกตัดสิทธิ์ในการเข้าร่วมทีมชาติออกไป แม้แต่ในปีถัดมา เขาก็ยังโดนเรื่องพฤติกรรมอยู่เรื่อยๆ ทำให้ไม่ได้เข้าสู่ทีมชาติจน รัดย่าได้ออกมาประกาศยกเลิกเล่นทีมชาติในปี 2018
ซึ่งเป็นปีที่เขาย้ายเข้าสู่อินเตอร์มิลาน ทว่าพฤติกรรมเหล่านั้นก็ยังไม่หมดไป อย่างไรก็ดี รัดย่ายังคงฟอร์มดีได้ในช่วงท้ายฤดูกาล
(ติดตามข่าวสารการเคลื่อนไหวของวงการฟุตบอลได้ทางเว็บไซต์ KUBET)
จุดเปลี่ยน
ในปี 2019 รัดย่าได้ตัดสินย้ายไปเล่นให้กับคัลยารีอีกครั้ง เพราะภรรยาของเขาป่วยเป็นมะเร็งเต้านม และภรรยาก็อาศัยอยู่ที่นี่ และนี่ก็คือบ้านของเขา บ้านที่ทุกคนยอมรับในตัวเขาได้อย่างจริงจัง รัดย่าลงเล่นฟุตบอลด้วยความสุขอีกครั้งรวมถึงการได้อยู่กับครอบครัว ในปี 2020 เขาสามารถช่วยให้ทีมรอดในลีกสูงสุดได้ รวมถึงภรรยาของเขาเองก็ชนะโรคร้ายที่เผชิญอยู่เช่นกัน
ในปี 2020-21 รัดย่าถูกเรียกตัวกลับไปอินเตอร์มิลานอีกครั้ง โดย Antonio Conte อย่างไรก็ดี เขาไม่ได้รับความสนใจมากนักจากกุนซือใหม่ รัดย่าได้ลงเล่นให้ทีมแค่ 5 ครั้งเท่านั้นทำให้เขาเลือกที่จะกลับไป คัลยารี บวกกับสถานการณ์โควิดด้วย ก่อนจะหมดสัญญากับอินเตอร์มิลานในปีนั้น และแม้จะย้ายไปอยู่ทีมไหนก็ไม่ได้สร้างผลงานที่โดดเด่นนัก กับพฤติกรรมการสูบบุหรี่ที่ยังคงมีอยู่เรื่อยๆ ทำให้ตอนนี้รัดย่ากลายเป็นนักเตะอิสระเรียบร้อย
เขายังคงมีกำลังที่แข็งแกร่ง ไร้เทียมทาน เป็นนักสู้ ในเรื่องของฟุตบอล แต่ในเรื่องของทัศนคติ หรือความคิดในการใช้ชีวิตมันแตกต่างจากผู้อื่นโดยสิ้นเชิง แน่นอนว่ามีนักฟุตบอลอีกมากมายที่ทำเหมือนเขาแต่ไม่ได้มีภาพหลุดออกมาให้ได้เห็นหรือประณามกัน แต่สำหรับเขาแล้ว เขาก็ยังเชื่อว่าสิ่งที่เขาทำ มันไม่ได้ผิดบาปอะไร เขาก็คือคนธรรมดาคนหนึ่ง คนรอบข้างคาดหวังในตัวเขามากเกินไปรึเปล่า สิ่งที่เขาทำมันจึงผิด เพราะไม่ได้เป็นแบบที่ทุกคนวาดฝันเอาไว้
และนี่ก็คือตัวอย่างความแตกต่างที่มองภาพได้อย่างชัดเจน สำหรับกฎระเบียบของสังคมและความเหมาะสม หรือแม้แต่ความเชื่อ อย่างไรก็ดี กฎระเบียบก็ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้สังคมอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข สามารถติดตามข่าวสารการเคลื่อนไหวของวงการฟุตบอลได้ทางเว็บไซต์ KUBET อัปเดตแบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง