KUBET กับการรวม 10 บทเรียนชีวิตดาวรุ่งตลอดกาลของวงการฟุตบอล เรื่องราวของวงการฟุตบอลกับนักเตะสร้างชื่อ ที่มักจะสร้างทั้งผลงานและมอบทัศนคติ รวมถึงข้อคิดดีๆให้กับเหล่าแฟนบอลได้สานต่อ หรือนำไปใช้เพื่อเป็นแรงผลักดันเพื่อนำไปสู่วิธีทางที่ดีกว่า สำหรับบทเรียนที่พวกเขาได้ฝากเอาไว้ จะมีเรื่องใดบ้างไปรับชมกันได้เลย
รวม 10 บทเรียนชีวิตดาวรุ่งตลอดกาลของวงการฟุตบอล
คนที่ 1 ทีโอ วอลคอตต์
ทีโอ เจมส์ วอลคอตต์ เป็นอดีตนักฟุตบอลชาวอังกฤษ เล่นในตำแหน่งกองหน้าและเล่นให้กับเซาแทมป์ตันเป็นสโมสรสุดท้าย ปัจจุบันอายุ 34 ปี แน่นอนว่าผลงานตลอดอาชีพค้าแข้งของเขาเป็นที่ประจักษ์ และสิ่งที่ทำให้เขากลายเป็นดาวรุ่งตลอดการนั่นคือ 1. ความคาดหวังจากผู้ใหญ่ ที่พยายามปรับเปลี่ยนและใส่ความมั่นใจจนมากเกินไป และ 2. การกดดันตัวเองมากเกินไปของเขา การพยายามจะทำให้ได้อย่างที่ทุกคนคาดหวังเอาไว้ แต่สุดท้ายแล้วมันไม่เคยเกิดขึ้นจริงเลย ทั้งที่ถูกยกว่าเป็นนักเตะพรสวรรค์สูงคนหนึ่งของอังกฤษ
ปลายทางอาชีพค้าแข้งเขากลับไปยังบ้านเกิดอีกครั้ง พร้อมกับให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับชีวิตที่ผ่านมาว่า “มันเหมือนว่าผมได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง แต่เด็กชายคนนี้ตัวโตขึ้น มีความคิดมากขึ้น และรับมือกับทุกเรื่องได้มากขึ้น”
คนที่ 2 เฟรดดี้ อาดู
อดีตนักฟุตบอลอาชีพชาวอเมริกันที่เล่นเป็นกองกลางตัวรุก สโมสรสุดท้ายที่เขาเล่นให้คือ Österlen FF ในปี 2021 ฉายา “เปเล่คนต่อไป” ที่ถูกตั้งให้ในตอนที่เขาอายุเพียง 14 ปีเท่านั้น เขาเคยเกือบได้ย้ายไปอยู่กับทีมดังทั่วยุโรป ทว่าสุดท้ายชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ดาวรุ่งที่เกือบจะยิ่งใหญ่กลายเป็นเพียงแค่นักเตะธรรมดาคนหนึ่งเพียงเพราะคำว่าอีโก้ แน่นอนว่าฝีเท้าของเขาโดดเด่นตั้งแต่เด็กนั่นทำให้ทุกสิ่งอย่างมุ่งความสนใจมาที่เขา จากเด็กยากจนเมื่อมีข้อเสนอเข้ามา เขาจึงตอบรับมันทุกอย่างจนทำให้เรื่องในสนามถดถอยลง
แน่นอนว่าเขามีผลงานที่โดดเด่นกว่าใคร แต่สิ่งที่เขาไม่มีคือจิตใจที่แข็งแกร่ง รวมถึงการรับมือกับคนที่เข้ามาหาผลประโยชน์กับเขาต้องทำอย่างไร ซึ่งนี่เองที่เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ดาวรุ่งต้องกลายเป็นเพียงแค่ดาวที่ดับแสงไปอย่างรวดเร็ว
(สามารถรับชมการถ่ายทอดฟุตบอลสด ความเคลื่อนไหวของวงการฟุตบอลได้ทางเว็บไซต์ KUBET)
คนที่ 3 ไมเคิล โอเวน
กองหน้าที่มีชื่อเสียงและเป็นกำลังหลักของลิเวอร์พูลในระหว่างปี ค.ศ. 1996 – ค.ศ. 2004 ผู้เล่นที่มีความโดดเด่นอย่างที่สุดในช่วงนั้นเพราะไม่ได้มีเพียงแค่ฝีเท้าของเขาเท่านั้นที่แข็งแกร่ง แต่ยังมีหน้าตาที่หล่อเหลาอีกด้วย หนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดของทีมชาติอังกฤษ ได้บาลงดอร์ตั้งแต่อายุ 22 ปี ทว่าความสำเร็จทั้งหมดของเขาในตอนนั้น กลับถูกมองว่าเป็นจุดเริ่มต้นของความตกต่ำที่กำลังจะตามมานั่นเอง หลังจากมีชื่อเสียงเขาก็ได้รับรู้ว่าการได้เข้าสู่ทีมใหญ่จะทำให้ค่าตัวของเขาเพิ่มมากขึ้น นั่นทำให้การเล่นเพื่อให้ทีมชนะ หรือรักในทีมต้นสังกัดถูกลบเลือนไปทันที
โอเวนเล่นฟุตบอลเพื่อที่จะทำประตูให้ได้มากที่สุด เพื่อที่เขาจะได้ย้ายไปอยู่ในทีมใหญ่และเพื่อมูลค่าของเขาที่จะเพิ่มมากขึ้น ทว่าความทะเยอทะยานนั่นก็เป็นการไม่ให้เกียรติทีมบอลรวมถึงแฟนคลับด้วย บทสรุปเขาไม่ได้ถูกซื้อต่อ อีกทั้งยังต้องเล่นให้ทีมไปอีกจนจบด้วยการไม่ต่อสัญญา เขากลายเป็นนักเตะไร้สังกัดในวัย 29 ปี เขาเคยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า
“การย้ายไปเล่นให้กับนิวคาสเซิล คือความผิดพลาดครั้งใหญ่ของผม มันคือการก้าวถอยหลัง ผมไม่เคยอยากไปที่นั่น ไม่เคยอยากไปเล่นให้นิวคาสเซิล” และนี่เองที่ยืนยันว่า สิ่งที่ทำให้เขาไม่สามารถไปได้ไกลในวงการค้าแข้ง นั่นคือทัศนคติของเขานั่นเอง
คนที่ 4 เดลี แอลลี
บามีเดลี เจอร์เมน แอลลี เป็นนักฟุตบอลอาชีพชาวอังกฤษ ปัจจุบันเล่นในตำแหน่งกองกลางให้แก่เอฟเวอร์ตัน และทีมชาติอังกฤษ ดาวรุ่งในปัจจุบันที่เกิดขึ้นและเติบโตได้อย่างรวดเร็ว บางครั้งก็กลายเป็นตัวหลักของทีมตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 20 ปีด้วยซ้ำ สำหรับแอลลี เขาเริ่มต้นจากการเป็นเด็กฝึกให้กับมิลตันคีนส์ดอนส์ กระทั่งได้กลายเป็นตัวหลักตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 20 ปี ด้ววยฝีเท้าของเขาเริ่มเป็นที่สนใจจากสโมสรในพรีเมียร์ลีก ซึ่ง ณ ตอนนั้นเขาก็มีชื่อติดทีมชาติอังกฤษเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะถูกซื้อตัวโดยทอตนัมฮอตสเปอร์ ซึ่งเขาทำได้อย่างยอดเยี่ยม
แน่นอนว่าเมื่อเขาถูกวางให้เป็นตัวหลักของทีม ความรับผิดชอบก็มากขึ้นเช่นกัน บวกกับการเล่นในทีมชาติก็ส่งผลให้ร่างกายของเขาเริ่มบาดเจ็บ รวมถึงสภาพจิตใจ และวินัยนอกสนาม ที่เขาเริ่มมีประเด็นมากขึ้น ทั้งเที่ยวกลางคืน ติดผู้หญิง หรือแม้แต่การเล่นโซเชียลต่างๆ รวมถึงการติดเกมด้วย นั่นทำให้ฟอร์มของเขาไม่เสถียรอีกต่อไปทั้งที่เคยทำได้อย่างยอดเยี่ยม อีกอย่างความต้องการของเขาที่ดูเหมือนจะไม่มากพอสำหรับความยิ่งใหญ่ที่รออยู่ นั่นทำให้เขากลายเป็นอีกดาวรุ่งที่ไปไม่ถึงฝันนั่นเอง
(สามารถรับชมการถ่ายทอดฟุตบอลสด ความเคลื่อนไหวของวงการฟุตบอลได้ทางเว็บไซต์ KUBET)
คนที่ 5 มารีโอ บาโลเตลลี
มารีโอ บาโลเตลลี บาร์วูอา นักฟุตบอลอาชีพชาวอิตาลี เล่นในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า ปัจจุบันลงเล่นให้กับอดานาเดมีร์สปอร์ในซือเปร์ลีก และทีมชาติอิตาลี ในตอนที่เขาย้ายไปอยู่กับอินเตอร์ มิลาน เขาได้เจอกับกุนซือ Roberto Mancini ในตอนนั้นเขาอายุเพียง 17 ปี กับฟอร์มที่โดดเด่นนั่นทำให้ Roberto รู้สึกเหมือนได้เพชรเม็ดงามมาครอบครอง ซึ่งมารีโอก็ไม่ได้ทำให้เขาผิดหวังเช่นกัน เขาเติบโตอย่างรวดเร็วที่อินเตอร์มิลาน ก่อนจะจบลงอย่างรวดเร็วแค่พริบตาเดียว หลังจากนั้นไม่นาน Roberto ถูกมิลานสั่งปลดและมีกุนซือคนใหม่เข้ามาแทน ส่งผลต่อมารีโอเช่นกัน
แม้เขาจะทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่องแต่เขามักจะมีปัญหากับวินัย รวมถึงกับกุนซือคนใหม่ เขามีปัญหากับการควบคุมอารมณ์ในสนาม เขาจึงถูกขายออกจากทีมหลังจบฤดูกาลให้กับแมนซิตี้ ซึ่งเขาก็ประสบกับปัญหาเดิมอีกแล้วนั่นคือเรื่องวินัย และการเอาแต่ใจ ซึ่งผลสุดท้ายแม้ว่าเขาจะเล่นได้ยอดเยี่ยมไม่มีตกแค่ไหน หากมีทัศนคติที่ไม่ดี รวมถึงขาดวินัยในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น ก็ไม่สามารถไปถึงฝันได้เช่นกัน
และนี่ก็คือ 5 อันดับบทเรียนจากนักเตะดาวรุ่งที่สามารถร่วงได้ตลอดเวลาเช่นกัน สามารถรับชมเนื้อหาต่อไปได้ทาง EP.2 รวมถึงเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับวงการฟุตบอลจากทั่วโลก ติดตามความเคลื่อนไหวทั้งหมดได้ทางเว็บไซต์ KUBET