KUBET พาย้อนรอยประวัติศาสตร์ “โศกนาฏกรรมฟุตบอลอินโดนีเซีย” สนามนองเลือดเมื่อปี 2022 เรื่องราวของเกมกีฬาที่จบลงแต่แฟนบอลยังไม่จบ พวกเขาเลือกที่จะปะทะเพื่อแสดงออกถึงความไม่พอใจกับผลการแข่งขันในครั้งนั้น แฟนบอลที่ไม่ได้โกรธแค้นเพียงแค่นักเตะของตัวเอง ทว่ากลับพาลไปถึงฝ่ายตรงข้าม สนามฟุตบอลที่ไม่ได้มีเพียงนักบอลอีกต่อไป ความโกรธเกรี้ยวทำให้ผู้คนขาดสติ นำมาซึ่งโศกนาฏกรรมที่น่าเศร้าของฟุตบอลอินโดนีเซียประจำปี 2022 เรื่องราวในวันนั้นเป็นอย่างไร เกิดอะไรขึ้นบ้าง ย้อนรอยประวัติศาสตร์ไปพร้อมกับเคยูเบทได้เลย
ประเทศอินโดนีเซีย
หากมองย้อนกลับไปที่ต้นกำเนิดของประเทศอินโดนีเซีย หนึ่งในประเทศขนาดใหญ่ของทวีปเอเชีย ที่เต็มไปด้วยความแตกต่างทั้งผู้คน การเมือง ศาสนา วัฒนธรรม รวมถึงฟุตบอลด้วย ด้วยประชากร 260 ล้านคน มากเป็นอันดับ 4 ของโลก ประเทศที่รายล้อมไปด้วยเกาะ ใช้ทั้งภาษาท้องถิ่นและภาษากลาง รวมกันแล้วมากกว่า 700 ภาษา อินโดนีเซียยังเป็นประเทศที่มีประชากรที่นับถือศาสนาอิสลามมากที่สุดเช่นกัน ทว่าก็ยังมีอีกหลายศาสนาที่พวกเขานับถือกันอยู่ แน่นอนว่าทั้งหมดนี่คือความแตกต่างและหลากหลาย และมันก็เป็นจุดสำคัญของการแบ่งแยกเช่นกัน
นอกจากเรื่องชีวิตความเป็นอยู่แล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่พวกเขาให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ นั่นคือ กีฬาฟุตบอล ลีกอาชีพก่อตั้งตั้งแต่ปี 1994 ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว สนามฟุตบอลที่มีความจุเกิน 3 หมื่นคน มากถึง 21 สนาม และมีสนามที่มีความจุคน 5 หมื่นคน ถึง 4 สนาม (Jakarta international stadium ,Gelora Bung karno Stadium , Palaran Stadium และ Gelora Bung tomo Stadium ) แน่นอนว่านามเหล่านี้การันตีแล้วว่าพวกเขาให้ความสำคัญกับกีฬาฟุตบอลมากขนาดไหน
(สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของวงการฟุตบอลได้ทางเว็บไซต์ KUBET)
แม้ว่าจะมีรัฐบาลกลางอยู่ ทว่าในประเทศของพวกเขาก็มีรัฐอิสระที่มีแนวคิด ความเชื่อและอิสระในการบริหารจัดการเรื่องต่างๆด้วยตัวเอง นั่นทำให้คู่อริทางฟุตบอลก็มีมากมายเช่นกัน พวกเขาที่ยืนกันอยู่คนละฝั่งอย่างชัดเจน ไม่ใช่แค่ไม่ชอบใจ แต่พวกเขาใช้คำว่าเกลียดกันเลยทีเดียว
“ความคลั่งไคล้ของแฟนบอลอินโด ถ้าเปรียบกับบ้านเรา มันก็เหมือนกับเมืองทองกับการท่าเรือ ดุเดือด เผ็ดมัน แต่ พวกเขาเกินกว่านั้นเยอะมาก หนักกว่านี้เยอะมาก ทั้งคำชม คำด่า และเต็มไปด้วยความจริงจัง เข้มข้นในวงการฟุตบอลท้องถิ่นของพวกเขา” สุเชาว์ นุชนุ่น อดีตนักเตะทีมชาติไทย (เคยมีประสบการณ์การเล่นในลีกของอินโดนีเซีย)
แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกของการก่อจลาจลในสนามฟุตบอล ทว่าเหตุการณ์ในปี 2022 กลับเป็นโศกนาฏกรรม ที่มีการสูญเสียมากที่สุดของประวัติศาสตร์ฟุตบอลที่เคยมีมา
(สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของวงการฟุตบอลได้ทางเว็บไซต์ KUBET)
โศกนาฏกรรมฟุตบอลอินโดนีเซียปี 2022
ย้อนกลับไปในปี 2022 วันที่ 1 ตุลาคม ณ ประเทศอินโดนีเซีย จังหวัดชวาตะวันออก ในศึกฟุตบอลลีกของอินโดนีเซีย ระหว่างทีมอาเรมา (ทีมเหย้า) พบ เปอร์เซบายา สุราบายา (ทีมเยือน) ซึ่งเป็นทีมไม้เบื่อไม้เมากันมานาน ศึกครั้งนี้ถูกเรียกว่า “ดาร์บี้แมตช์แห่งชวาตะวันออก” ทั้งสองทีมมีเรื่องราวฟาดฟันกันนอกสนามของแฟนบอลอยู่บ่อยครั้งกระทั่งครั้งล่าสุด ที่อาเรมาเปิดบ้านต้อนรับเปอร์เซบายา
มีการเตรียมการพร้อมรับสถานการณ์และดูแลความปลอดภัยอย่างแน่นหนา สนามที่ต้อนรับแฟนบอลได้ประมาณ 3 หมื่น เกือบ 4 หมื่นคน เนื่องจากทั้งสองทีมมีเรื่องบาดหมางกันมาตลอดนั่นทำให้มีคำสั่งห้ามแฟนบอลของทีมเปอร์เซบายาเข้าร่วมการรับชมในครั้งนี้ เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดความรุนแรงขึ้น เพราะฉะนั้นแล้วทั้งสนามในเกมนี้มีเพียงแฟนบอลของอาเรมาเท่านั้น
ทั้งสนามในวันนั้นเกือบ 4 หมื่นคน ทุกคนคือแฟนบอลของอาเรมาทั้งหมด แม้ว่าจะมีเพียงแฟนบอลอาเรมาในวันนั้นแต่ ทีมอาเรมาก็ไม่ได้ทำผลงานเป็นที่น่าพอใจนัก จบศึกด้วยเปอร์เซบายาเอาชนะอาเรมาได้ด้วยสกอร์ 3 ประตูต่อ 2 ซึ่งนับว่าเป็นการพ่ายแพ้คาบ้านครั้งแรกให้กับคู่อริในรอบ 23 ปี และมันก็กลายเป็นแรงปะทุหลักของโศกนาฏกรรมครั้งนี้
หลังจบเกมด้วยเวลา 4 ทุ่ม 45 นาที ความเคียดแค้นของเหล่าแฟนบอลที่ไม่ได้จบลงไปด้วย ทันทีที่เสียงนกหวีดสิ้นสุด แฟนเจ้าถิ่นที่เริ่มวิ่งกรูลงไปในสนามเนื่องจากไม่พอใจผลการแข่งขัน พร้อมสบถคำโกรธแค้นนักเตะของตัวเองรวมถึงพาลไปนักเตะฝ่ายตรงข้าม รวมถึงเจ้าหน้าที่ ผู้ตัดสิน สื่อต่างๆ เช่นกัน สื่อรายงานว่าเหล่าแฟนๆเริ่มด้วยการขว้างขวดและขว้างทุกอย่างลงสนามใส่นักเตะทีมเยือน ก่อนจะเริ่มลงสนามมาปะทะกับตำรวจ ก่อนจะเกิดความโกลาหลทันที
(สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของวงการฟุตบอลได้ทางเว็บไซต์ KUBET)
จุดจบโศกนาฏกรรมฟุตบอลอินโดนีเซีย ในปี 2022
เนื่องจากไม่สามารถต้านทานแรงคนจำนวนมหาศาลได้ทำให้เจ้าหน้าที่เลือกใช้แก๊สน้ำตาในการปราบการจลาจลครั้งนี้ นั่นทำให้แฟนบอลแตกฮือพร้อมวิ่งหนีออกจากสนาม แต่ด้วยความแออัดด้วยจำนวนคนมหาศาล สุดท้ายก็ไปตัดกันอยู่ที่ประตูทางออกเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ 34 ราย ยังไม่รวมผู้บาดเจ็บ เมื่อออกไปจากสนามไม่ได้ แฟนบอลจึงเลือกกันมาต่อสู้กับตำรวจอีกครั้งนำมาซึ่งการสูญเสียอีกนับไม่ถ้วน
โศกนาฏกรรมครั้งนี้ใช้เวลากว่า 5 ชั่วโมงในการยุติความรุนแรง และนับเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอลอินโดนีเซีย บทสรุปมีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์มากกว่า 129 ราย และบาดเจ็บกว่า 180 คน หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นมีการสอบสวนถึงข้อเท็จจริงตามระเบียบของสมาคมฟุตบอล และนายกรัฐมนตรีก็เข้ามาร่วมในกระบวนการนี้ด้วย
และนี่ก็คือเรื่องราวของโศกนาฏกรรมฟุตบอลอินโดนีเซียในปี 2022 เมื่อเกมกีฬาไม่ได้มีเพียงแค่ผลของการแข่งขัน อย่างไรก็ดี ความรุนแรงมีแต่จะทำให้เกิดความสูญเสีย และฟุตบอลไม่เคยทำร้ายใคร สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของวงการฟุตบอลจากทั่วโลก ประวัติศาสตร์น่ารู้เกี่ยวกับวงการฟุตบอลได้ทางเว็บไซต์ KUBET