KUBET ร่วมย้อนรอยชัยชนะครั้งใหญ่สุดในรอบรองชนะเลิศในประวัติศาสตร์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ชัยชนะรอบรองชนะเลิศที่ยิ่งใหญ่ที่สุด หลังจากที่แมนเชสเตอร์ซิตี เก็บชัยชนะเหนือเรอัลมาดริดได้สำเร็จ เราจะย้อนกลับไปดูชัยชนะครั้งใหญ่สุดในรอบรองชนะเลิศในประวัติศาสตร์ยูฟ่า กับทีมที่สร้างความประทับใจให้ผู้ชมไม่รู้ลืม จะมีทีมใด และจบสกอร์ที่เท่าไหร่กันบ้าง ไปรับชมกันได้เลย
ปี 2022-23
การแข่งขันฟุตบอลสโมสรยุโรปถ้วยใหญ่ที่สุด จัดขึ้นโดยยูฟ่า โดยฤดูกาลนี้เป็นฤดูกาลที่ 68 สำหรับรอบรองชนะเลิศวันที่ 17 มีนา 2566 ที่ผ่านมา เป็นสองคู่การแข่งขันที่ อินเตอร์ มิลาน เจอกับ เอซีมิลาน และเรอัลมาดริดเจอกับแมนเชสเตอร์ซิตี สำหรับการแข่งขันอันดุเดือดของทั้งสองคู่ เอซีมิลานแพ้ให้กับอินเตอร์ด้วยสกอร์ 0 ประตูต่อ 3 ในขณะที่แมนเชสเตอร์ซิตีสร้างปรากฏการณ์ใหม่ด้วยการเอาชนะเรอัลมาดริดไปได้ด้วยสกอร์ 1 ประตูต่อ 5 นับเป็นชัยชนะแห่งประวัติศาสตร์ที่สำคัญอีกครั้งด้วยคะแนนนำที่ทิ้งห่างฝ่ายตรงข้ามอย่างน่าชื่นชม
สำหรับชัยชนะในปีนี้เป็นของแมนเชสเตอร์ซิตี ด้วยการเอาชนะอินเตอร์มิลานไปได้ทั้งหมด 1 ประตูต่อ 0 เป็นเหตุให้แมนซิตีคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกไปครองได้สำเร็จ
ปี 2013/14
เป็นการแข่งขันฟุตบอลสโมสรยุโรป ครั้งที่ 58 มีขึ้นในวันที่ 11 เมษายน 2014 เป็นสองคู่การแข่งขันที่เรอัลมาดริด เจอกับ ไบเอิร์นมิวนิก และอัตเลติโกเดมาดริด เจอกับ เชลซี สำหรับชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ในรอบนี้คือเรอัลมาดริดเอาชนะไบเอิร์นมิวนิกไปได้ด้วยสกอร์ 5 ประตูต่อ 0 เป็นเหตุให้เรอัลมาดริดเข้าสู่รอบชิงที่ต้องเจอกับอัตเลติโกเดมาดริด พวกเขาสามารถเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 4 ประตูต่อ 1 เป็นเหตุให้เรอัลมาดริด คว้าแชมป์ไปได้ในปีนี้ โดยผู้เล่นที่ทำประตูได้สูงสุดในปีนี้คือคริสเตียโน โรนัลโด กับทีมเรอัลมาดริด ด้วยสกอร์ทั้งหมด 16 ประตูด้วยกัน
(สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของวงการฟุตบอลจากทั่วโลกได้ทางเว็บไซต์ KUBET)
รองลงมาคือ ซลาตัน อิบราฮีมอวิช จาก ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง ซึ่งเขาทำไปได้ทั้งหมด 10 ประตูด้วยกันและสำหรับผู้เล่นที่ทำแอสซิสต์ได้สำเร็จมากที่สุดในปีนี้คือ เวย์น รูนีย์ จาก แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด โดยเขาจ่ายบอลสำเร็จไปแล้วทั้งหมด 8 ครั้งด้วยกัน
ปี 2012/13
เป็นการแข่งขันฟุตบอลสโมสรยุโรป ครั้งที่ 57 มีขึ้นในวันที่ 12 เมษายน 2013 เป็นสองคู่การแข่งขันที่ไบเอิร์นมิวนิก เจอกับบาร์เซโลนา และ โบรุสซีอาดอร์ทมุนท์ เจอกับ เรอัลมาดริด ซึ่งทีมที่สร้างประวัติศาสตร์ได้ในครั้งนี้นั่นคือ ไบเอิร์นมิวนิก ที่สามารถเอาชนะบาร์เซโลนาไปได้ทั้งหมด 7 ประตูต่อ 0 ด้วยกัน เป็นเหตุให้ผ่านเข้าสู่รอบชิงและสามารถเอาชนะ โบรุสซีอาดอร์ทมุนท์ ไปได้ด้วยสกอร์ 2 ประตูต่อ 1
ส่งผลให้ไบเอิร์นมิวนิกคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกไปได้สำเร็จในฤดูกาลนี้ โดยผู้เล่นที่ทำประตูได้สูงสุดคือ คริสเตียโน โรนัลโด นั่นคือ 12 ประตูด้วยกัน
ปี 2010/11
เป็นการแข่งขันฟุตบอลสโมสรยุโรป ครั้งที่ 56 มีขึ้นในวันที่ 26 เมษายน 2011 เป็นสองคู่การแข่งขันที่ชัลเคอ 04เจอกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด และ เรอัลมาดริด เจอกับ บาร์เซโลนา ซึ่งปรากฏการณ์สร้างโดยแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่สามารถเอาชนะ ชัลเคอ 04 ไปได้ด้วยสกอร์ 6 ประตูต่อ 1 ส่วนผลให้ทีมเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ถึงอย่างนั้นก็แพ้ให้กับบาร์เซโลนาด้วยสกอร์ 3 ประตูต่อ 1 ลิโอเนล เมสซิเป็นนักเตะจากบาร์เซโลนาที่ทำประตูสูงสุดในฤดูกาลนี้ นั่นคือ 12 ประตูด้วยกัน
(สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของวงการฟุตบอลจากทั่วโลกได้ทางเว็บไซต์ KUBET)
ปี 2009/10
เป็นการแข่งขันฟุตบอลสโมสรยุโรป ครั้งที่ 55 เป็นสองคู่การแข่งขันที่ไบเอิร์นมิวนิกพบกับออแล็งปิกลียอแน และ อินเตอร์มิลาน เจอกับ บาร์เซโลนา ซึ่งคู่ที่สร้างความประทับใจให้แก่ผู้ชมคือการเอาชนะของไบเอิร์นมิวนิก ด้วยสกอร์ 4 ประตูต่อ 0 ส่งผลให้ทีมเข้าสู่รอบชิงที่ต้องเจอกับอินเตอร์มิลาน ก่อนจะแพ้ให้ทีมอินเตอร์ด้วยสกอร์ 2 ประตูต่อ 0
ปี 1996/97
เป็นการแข่งขันฟุตบอลสโมสรยุโรป ครั้งที่ 42 เป็นสองคู่การแข่งขันที่โบรุสซีอาดอร์ทมุนท์ เจอกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด และ อาเอฟเซ อายักซ์เจอกับยูเวนตุส ซึ่งคู่แห่งความทรงจำคือยูเวนตุสสามารถเอาชนะอาเอฟเซ อายักซ์ไปได้ด้วยสกอร์ 6 ประตูต่อ 2 ทำให้ทีมเข้าสู่รอบชิงที่ต้องเจอกับโบรุสซีอาดอร์ทมุนท์ก่อนจะแพ้ให้ทีมไปทั้งหมด 3 ประตูต่อ 1 มิลินโค ปานติช จากอัตเลติโกเดมาดริด เป็นผู้ทำประตูได้สูงสุดในปีนี้ โดยเขาทำไปได้ทั้งหมด 5 ประตูด้วยกัน
และนี่ก็คือศึกแห่งประวัติศาสตร์ ชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบรองชนะเลิศของการแข่งขันยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับวงการฟุตบอลจากทั่วโลก โปรแกรมการแข่งขัน การวิเคราะห์ผลบอลก่อนแข่ง และเรื่องราวที่น่าสนใจอีกมากมาย ติดตามได้ทางเว็บไซต์ KUBET เว็บไซต์ที่ให้ข่าวบอลได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทย