KUBET กับเรื่องราวของคันโตน่า หรือ เอริก ก็องโตนา นักแสดงและอดีตนักฟุตบอลชาวฝรั่งเศส ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดในยุคของเขา รวมทั้งเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดตลอดกาลของสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด แฟนผีจดจำเขาได้ในฐานะตัวหลักของทีมแมนยู รวมถึงวีรกรรมที่เขาสร้างไว้ ที่ไม่ได้มีแค่ผลงานในสนามเท่านั้น เรื่องราวสุดจี๊ดของพ่อใหญ่แมนยูจะมีเรื่องราวใดบ้าง ย้อนประวัติคันโตน่าไปพร้อมกับเคยูเบทได้เลย
วีรกรรมของสุดจี๊ดของ “คันโตน่า”
เรื่องที่ 1 ศึกกระชับมิตรที่เขาลงเล่นให้กับ ออแล็งปิกเดอมาร์แซย์ ต้องเจอกับทีมตอร์ปิโด มอสโก ทว่าก็ถูกเปลี่ยนตัวกะทันหัน นั่นทำให้คันโตน่าแสดงความไม่พอใจด้วยการฉีกเสื้อฟุตบอลที่เขาสวมใส่อยู่ เป็นเหตุให้เขาถูกตัดสิทธิ์ลงแข่งในสนามเป็นเวลา 1 เดือน หลังจากนั้นเขาจึงออกมาโจมตีผู้ฝึกสอนทีมชาติฝรั่งเศสทางโทรทัศน์ ก่อนจะย้ายไปอยู่กับ บอร์โด ด้วยสัญญายืมตัว ไม่นานก็ย้ายไป มงเปอลีเย เป็นสัญญายืมตัวในปีเดียวกัน เขาได้สัมผัสถ้วยแชมป์เป็นครั้งแรกในปีนั้น (1989) ก่อนจะถูกมาร์แซย์ดึงตัวกลับ
เรื่องที่ 2 หลังจากมาร์แซย์ขายเขาให้กับนีมอแล็งปิก เขาก็ถูกห้ามลงสนามอีกเป็นเวลา 1 เดือน เนื่องจากขว้างบอลใส่ผู้ตัดสิน เขาได้ออกมาวิจารณ์คำตัดสินเหล่านั้นอีกนั่นทำให้เขาถูกลงโทษเพิ่มเป็น 2 เดือน เขาที่เกือบประกาศแขวนสตั๊ดแล้วในครั้งนั้น ทว่าก็มีแฟนบอลคนหนึ่งที่เป็นเหตุผลหลักให้เขาสู้กับเส้นทางฟุตบอลอีกครั้ง
(สามารถติดตามข่าวสารการเคลื่อนไหวของวงการฟุตบอลได้ทางเว็บไซต์ KUBET)
เรื่องที่ 3 กังฟูคิกครั้งแรกใส่ฝ่ายตรงข้ามในตอนที่เล่นให้กับโอแซร์ เขาโดนใบแดง พร้อมงดลงสนาม 3 เดือน
เรื่องที่ 4 “ถ้าจะให้พูดถึงชื่อนักเตะคนเดียวบนโลกที่ถูกสร้างมาเพื่อแมนยู คนคนนั้นคือ เอริก ก็องโตนา หมอนี่หยิ่งผยองมาก มันเดินยืดอก มองทุกคนราวกับจะบอกสมาชิกใหม่ในทีมว่า ว่าไงวะพวกมึง กูชื่อคันโตน่า พวกมึงของจริงแค่ไหนกันวะ เก่งพอจะเล่นกับกูรึเปล่า” นี่คือคำพูดของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่มีต่อคันโตน่า นักฟุตบอลในสังกัดที่เขาคัดเลือกมาเองกับมือ แน่นอนว่าแม้เขาจะมีท่าทางโอ้อวดแต่เขาก็เจ๋งจริง
และวีรกรรมที่ยังตราตรึงใจแฟนแมนยูก็คือในปี 1993-1994 ศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกรอบ 2 แมนยูพบกับ กาลาตาซาย ที่ประเทศตุรกี เกมครั้งนี้จบลงด้วยสกอร์ 0 ประตูต่อ 0 ทำให้แมนยูตกรอบ แน่นอนว่าในศึกวันนั้นนักเตะแมนยูเห็นแล้วว่าฝั่งกาลาตาซาย เจ้าบ้านที่เล่นถ่วงเวลาจนน่ารำคาญ นั่นทำให้คันโตน่าเองก็หงุดหงิดพร้อมกับด่ากรรมการว่า “มึงโดนซื้อมาใช่ไหม” นั่นทำให้เขาถูกใบแดงไล่ออกจากสนาม
ระหว่างที่เขากำลังเดินออกจากสนาม ถูกขนาบข้างด้วยตำรวจ ก่อนจะเกิดเรื่องตะลุมบอนกัน ซึ่งคันโตน่าโดนตำรวจตีด้วยกระบองนั่นทำให้เขาฟิวส์ขาดของแท้ ก่อนเขาจะใส่กับตำรวจสะตรงนั้นเลย แน่นอนว่าการลงสนามที่ตุรกีเป็นที่เรื่องลือว่าไม่ควรมีเรื่องกับคนตุรกีในสนาม แม้แต่รอย คีนเองก็ยังไม่ขอเอี่ยวหากเป็นสนามที่ตุรกีและเขายังยอมรับว่ากลัวคันโตน่าในตอนนี้มาก
“ตอนนั้นทุกครั้งพยายามห้ามเขา ทั้งเซอร์ อเล็กซ์ และนักเตะคนอื่นๆ ซึ่งปกติแล้วผมไม่ได้กลัวที่จะบวกกับใคร แต่ตอนนั้นผมไม่อยากยุ่งด้วยจริงๆ ตรงนั้นเต็มไปด้วยคนตุรกีเป็นร้อย ถึงผมจะห้าวแต่ผมก็สู้คนเป็นร้อยทีเดียวไม่ได้หรอก แต่ตอนนั้นคันโตน่าโคตรจะเดือด เขาออกไปตีกับตำรวจอีกรอบ” รอย คีน
(สามารถติดตามข่าวสารการเคลื่อนไหวของวงการฟุตบอลได้ทางเว็บไซต์ KUBET)
เรื่องที่ 5 ในปีถัดมา1995 แมนยูพบกับคริสตัล พาเลซ หลังจากที่เขาอัดริชาร์ด ชอว์ กองหลังจากคริสตัลจนร่วง เนื่องจากทีมฝ่ายตรงข้ามเองก็ตามไล่หวดขาของเขาเป็นว่าเล่นเช่นกัน นั่นทำให้เขาโดนใบแดง ระหว่างที่เขากำลังเดินออกจากสนาม ก็มีแฟนบอลคริสตัลที่วิ่งลงมาจากชั้นบนสุดของที่นั่งมาหยุดข้างสนามพร้อมกับตะโกนด่าเขาว่า “ไอ้ลูกกระ** ฝรั่งเศส กลับบ้านมึงไปสะ” นั่นทำให้เขาพุ่งหลาว พร้อมกังฟูคิกใส่แฟนบอลคนนั้นทันที พร้อมกับปล่อยหมัดซ้ำไปอีก
แน่นอนว่าเขาโดนแบนไม่ให้ลงสนามถึง 9 เดือนหลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น พร้อมปรับเงินกว่าหมื่นปอนด์ อย่างไรก็ดี เขาได้ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเหตุการณ์ครั้งนั้นว่า
“ผมไม่เคยเสียใจเลย มันเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมมาก สิ่งเดียวที่ผมเสียใจกับเรื่องวันนั้นคือผมไม่ได้เตะมันให้แรงกว่านี้ ถ้าผมย้อนเวลากลับไปได้ ผมสัญญาว่าจะใส่เต็มทุกดอกเลยล่ะ” เอริก ก็องโตนา
และนี่ก็คือวีรกรรมสุดจี๊ดของ เอริก ก็องโตนา ที่ยังเป็นที่จดจำของเหล่าแฟนบอลมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งหลังจากกระทำการเหล่านั้นไป เขาได้ออกมารับผิดชอบ ผลการกระทำของตัวเองทั้งหมด และทันท่วงทีอีกด้วย แม้ว่าเขาพฤติกรรมของเขาจะส่อแววหัวร้อนอันตรายเพียงใด เหล่าแฟนผีและเพื่อนร่วมทีมก็ยังเลือกที่จะเข้าข้างเขาทั้งหมด และตลอดมาอยู่ดี สามารถติดตามข่าวสารการเคลื่อนไหวของวงการฟุตบอล ประวัติศาสตร์น่ารู้อีกมากมายได้ทางเว็บไซต์ KUBET