KUBET FOOTBALL กับตำนานที่หลับใหลไปกว่า 40 ปี พร้อมกับการจากไปชั่วนิรันดร์ ทว่าทุกความทรงจำยังตราตรึงอยู่ในใจแฟนบอลตลอดไป “ฌอง ปิแอร์ อดัมส์” อดีตกองหลังทีมชาติฝรั่งเศส ผู้เล่นผิวสีคนแรกๆ ที่ฝ่าฟันอุปสรรค คำดูถูก เหยียดหยามไปจนถึงเวทีระดับโลก แต่ความฝันดับวูบ กับช่วงเวลาที่หายไป 40 ปี
ใครคือ “ฌอง ปิแอร์ อดัมส์”
จุดเริ่มต้นที่เมือง Dakar ประเทศเซเนกัล ฌอง ปิแอร์ อดัมส์ เกิดและโตที่เมืองนี้ ทว่า ครอบครัวของเขาต้องการผลักดันให้ลูกชายหลีกหนีจากความยากจน จึงได้ส่งให้อดัมส์ย้ายไปฝรั่งเศสตอนอายุ 8 ขวบ ภายใต้การดูแลของครอบครัวอุปถัมภ์ เพื่อให้ได้ศึกษาเล่าเรียน รู้จักสังคมที่มากขึ้นในการยกระดับชีวิตให้ได้เจอโอกาสที่หลากหลาย
เด็กชายที่ยังคงเล่าเรียนตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย นอกเหนือจากสิ่งที่ต้องเรียนรู้ในโลกกว้างแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่เขาให้ความสนใจอย่างมากคือ “ฟุตบอล” เพราะเป็นเด็กที่มีรูปร่างแข็งแรง กำยำ ทั้งยังมีทักษะในการเล่นฟุตบอลที่โดดเด่น ทำให้เขาเข้าร่วมกับสโมสรนอกลีกอย่าง RCPF ก่อนจะขึ้นมาเป็นนักเตะอาชีพให้กับสโมสร NIMES OLYMPIQUE ในปี 1970 เขาช่วยให้ทีมผ่านเข้าไปเล่นในฟุตบอลยุโรปครั้งแรกในประวัติศาสตร์ด้วยตำแหน่งกองหลังที่น่าจับตามอง
ในปี 1973 OGC NICE ได้ดึงตัวเขาไปเข้าร่วมทีมได้สำเร็จ เขาทำสถิติให้ทีมด้วยการลงเล่นทั้งหมด 126 นัด พ่วงกับตำแหน่งรองกัปตันทีม อย่างไรก็ดี การเปลี่ยนแปลงในชีวิตของเขาเป็นจังหวะเดียวกันของการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ที่ทำให้เขาได้เจอกับ Bernadette Adams ซึ่งกลายเป็นภรรยาของเขาในอนาคต
( KUBET เว็บไซต์ที่รวบรวมเรื่องราวของวงการลูกหนังจากทั่วโลก อัพเดทแบบเรียลไทม์)
เส้นทางความรัก
ทว่าเส้นทางความรักก็ไม่สวยงามนัก เนื่องจาก ปิแอร์ อดัมส์ เป็นคนผิวดำและภรรยาของเขาเป็นคนผิวขาว ในช่วงที่โลกยังไม่ได้เปิดกว้างเรื่องพวกนี้ ทำให้ความรักของเขาเป็นเรื่องที่ผิดแปลก และได้รับความวิจารณ์ไปในทางเสียหายมากที่สุด ทว่าเขาก็ไม่ได้ย่อท้อ หรือสนใจค่านิยมพวกนั้น ปิแอร์ อดัมส์ ยังคงมุ่งมั่นในสายอาชีพนักฟุตบอลของเขา และความรักของภรรยาไปพร้อมกัน จนสังคมฝรั่งเศสเริ่มเปิดกว้าง เขาได้รับตำแหน่งกองหลังที่ยอดเยี่ยมที่สุด ผลงานเป็นที่ประจักษ์และได้รับการยอมรับทั่วโลก นั่นทำให้ชีวิตคู่ของเขาสวยงามไปด้วย
เส้นทางระดับโลก
ในปี 1972 ปิแอร์ อดัมส์ ถูกเรียกให้เข้าร่วมทีมฉลองเอกราช 150 ปี ของบราซิล และมีชื่อติดทีมชาติฝรั่งเศส โดยเขาลงสนามประเดิมด้วยการเจอกับทีมแอฟฟริกาใต้ด้วยการเป็นตัวสำรอง หลังจากนั้นอีก 5 วัน เขาก็ได้ลงเป็นตัวจริงนัดแรก ในเกมเจอกับโครอมเบีย ในทีมชาติฝรั่งเศส มีนักเตะผิวสีเพียง 2 คนเท่านั้น คือ “ปิแอร์ อดัมส์” และ “Marius Tresor ” โดยทั้งสองเล่นในตำแหน่งกองหลังคู่กัน ทั้งสองได้รับความนิยมอย่างมาก
"อดัมและเทรเซอร์ได้สร้างหนึ่งในการจับคู่กันระหว่างกองหลังตัวกลางที่ดีที่สุดในยุโรปขึ้นมา" Franz Beckenbauer อดีตนักเตะทีมชาติเยอรมนี
ซึ่งความสำเร็จของเขาถือเป็นอีกหนึ่งใบเบิกทางให้กับนักเตะผิวสีคนอื่นๆ ได้มีบทบาทในเวทีฟุตบอลโลกมากขึ้น ทว่าโลกใบใหม่ที่กำลังจะยิ่งใหญ่คับฟ้าก็พลันสลายหายวับไปในพริบตา หลังจากเขาทำงานให้ OGC NICE ได้อย่างดีเยี่ยม ในเวทียูฟ่า โดยการเอาชนะบาร์เซโลนาทีมยักษ์ใหญ่ได้ อดัมส์ได้มีโอกาสย้ายไปอยู่กับสโมสร Paris Saint-Germain ในปี 1977
หลังหมดสัญญาเขาก็ไปเล่นให้กับทีมนอกลีกอย่าง Mulhouse และ Chalonnais ก่อนจะแขวนสตั๊ดในปี 1981 หลังจากอำลาหน้าที่นักเตะไปแล้ว เขาก็หันความสนใจมาทางการเป็นโค้ช ทว่าระหว่างการอบรม เขาก็รู้สึกเจ็บหัวเข่า ดูเหมือนจะเป็นอาการที่เป็นมานานแล้วตั้งแต่ตอนยังเป็นนักบอล ก่อนเขาจะตัดสินใจผ่าตัด
(ติดตามข่าวการเคลื่อนไหวของวงการฟุตบอลได้ตลอด 24 ชั่วโมงทางเว็บไซต์ KUBET)
ชีวิตที่หลับใหล 40 ปี
ความผิดพลาดที่ไม่อยากให้ใครเกิดขึ้นในการผ่าตัด เนื่องจากบุคลากรทางการแพทย์ที่ขาดแคลน และคนที่ทำการวางยาสลบให้เขาก็คือนักศึกษาแพทย์ ซึ่งได้ทำการสอดท่อหายใจผิดวิธีการกับเขา ส่งผลให้หัวใจหยุดเต้น รวมถึงขาดออกซิเจนไปเลี้ยงสมอง
"แพทย์วิสัญญีหญิงคนนั้นต้องดูแลคนไข้ 8 คนพร้อมกัน คนแล้วคนเล่า เหมือนกับสายพานในโรงงาน แล้วด้วยเหตุการณ์ที่กำลังมีการประท้วงกันของบุคลากร พวกเขาน่าจะมาบอกฉันว่าความพร้อมมันไม่เต็มร้อย พวกเราจะได้หาทางอื่น หรือเลื่อนวันออกไป" Bernadette Adams ออกมาเปิดเผยผ่านสื่อ CNN
หลังจากหัวใจหยุดเต้นก็ได้มีการปั๊มหัวใจแม้ว่าจะกลับมาเต้นได้ตามปกติแต่ภาวะที่สมองขาดออกซิเจนก็ทำให้สมองของเขาโดนทำลายอย่างหนัก ภาพแรกที่ภรรยาเห็นสามีที่นอกอยู่บนเตียงเต็มไปด้วยสายท่อระโยงระยาง เธอทำอะไรไม่ได้แล้วในตอนนั้น
อดัมส์อยู่ที่โรงพยาบาลกว่า 15 ปีก็ไม่ดีขึ้น ก่อนภรรยาจะตัดสินใจพาสามีกลับไปยังบ้านของตัวเอง เธอดูแลเขาตลอด 15 ปีที่อยู่ในโรงพยาบาล และหลังจากกลับมาที่บ้าน เธอกับเขานอนห้องเดียวกันเพื่อการดูแลได้เต็มที่ ในการพลิกตัว พร้อมทั้งป้องกันไม่ให้เกิดแผลกดทับใดๆ
"มันเลวร้ายเหมือนตายทั้งเป็น ฉันต้องดูแลสามีตลอดเวลา งานการไม่ได้ทำ แถมยังต้องแบ่งเวลาไปขึ้นศาลเพราะคดีฟ้องร้องกับโรงพยาบาล" Bernadette Adams
อย่างไรก็ดี วงการฟุตบอลฝรั่งเศสไม่เคยทอดทิ้งเขา และสหพันธ์ฟุตบอล อดีตสโมสรมากมายที่เขาเคยทำผลงานไว้ต่างมอบทุนให้กับครอบครัวของเขา รวมถึงเงินรายได้ตลอดชีพที่จ่ายให้รายสัปดาห์ให้ภรรยาของเขา เป็นการเยียวยา
การฟ้องร้องกว่า 12 ปีเสร็จสิ้นลงด้วยคำพิพากษาว่าเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลมีความผิดจริง พวกเขาต้องชดเชยเงินค่าเสียหายให้ครอบครัวของอดัมส์และจำคุกตามคำตัดสินของศาล
"ฉันมีความรู้สึกว่าเวลาได้หยุดไปตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม 1982 (วันที่อดัมส์เข้าห้องผ่าตัด)" Bernadette Adams.
กว่า 40 ปี ที่เขาหลับใหลไปพร้อมกับการรอคอยที่ยาวนานของภรรยา และมันได้จบลงไปแล้วในวันที่ 6 กันยายน 2564 ฌอง ปิแอร์ อดัมส์ เสียชีวิตแล้วในวัย 73 ปี สิ้นสุดการรอคอย และไร้ซึ่งการบอกลา ถึงอย่างนั้น เรื่องราวของเขาก็ยังคงถูกจดจำในฐานะ นักฟุตบอลผู้ยิ่งใหญ่อยู่ดี ติดตามข่าวการเคลื่อนไหวของวงการฟุตบอลได้ทางเว็บไซต์ KUBET