แมนยูฯบุกทุบ เบิร์นลี่ย์ ทีมรองบ๊วยของตารางแบบหืดขึ้นคอ ตั้งแต่ครึ่งแรกยังครั้งหลัง วิดชนะไปไปแค่หนึ่งลูกเท่านั้น เป็นการเก็บสามแต้มที่ลุ้มเหนื่อยสำหรับทีมอย่างแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด อยากรู้ว่าหือขึ้นคอยังไง KUBET จะมาเจาะลึกให้คุณเอง
1-0 จากเบิร์นลี่ย์ หืดขึ้นคอ
บอกเลยว่านี้ถือเป็นการแข่งขันที่แฟนๆแมนยูฯลุ้นที่สุดเลยก็ว่าได้ลุ้นว่าจะชนะไหมหรือจะพ่ายแพ้ต่อทีมรองบ๊วยของตารางในการแข่งขัน พรีเมียร์ลีก อังกฤษอีก ถ้าแพ้ขึ้นมานั้นหมายความว่าแมนยูจะพ่ายแพ้แบบ 4 นัดติด (มันบ้าไปแล้ว) แต่ผลออกมากลับได้รับชนะ แต่รูปแบบกลับทำออกมาได้แย่กว่าที่หลายๆคนเดากันเอาไว้ มันเป็นยังไง ไปดูกัยเลยดีกว่าครับ
การแข่งขันวันที่ 23 กันยายน 2566 กับการเปิดบ้านของเบิร์นลี่ย์ เพื่อต้อนรับการมาเยือนของ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่สนามเทิร์ฟ มัวร์ การแข่งขันก็เริ่มต้นขึ้น
นาทีที่ 10
เริ่มเกมมานาทีที่ 10 เจ้าบ้านอย่างเบิร์นลี่ย์ เกือบทำประตูได้จากการเตะลูกมุมเส้นฝั่งขวาลูกทยานไปหน้าประตูเซกี้ อัมดูนี่ เทกตัวเข้ามาโหม่งลูกบอลกระดอนลงพื้นเสียบเข้าเสา และอ็องเดร โอนานาพุ่งตัวมาปัดทิ้งได้ทัน ทำให้จ้าบ้านพลาดประตูนี้ไป- BY KUBET FOOTBALL
นาทีที่ 17
เจ้าบ้านก็ยังเดินหน้าบุกอย่างต่อเนื่องและสามารถคุมเกมได้ดีกว่า ปีแดงศาจ จนนาทีที่17 เบิร์นลี่ย์ต่อบอลกันพาบอลมาที่ จอช คัลเลน ได้จ่ายขึ้นหน้าให้ อารอน แรมซี่ย์ และเตะจังหวะเดียวบอลพุ่งไปหา เซกี้ อัมดูนี่ หลุดเดี่ยววิ่งโล่งๆเข้าเขตจุดโทษซัดเต็มแรงบอลพุ่งไปด้านซ้ายชนเสาและออกนอกสนามในที่สุด
นาทีที่ 25
“ปีศาจแดง” แมนยู ได้เตะลูกมุมฝั่งขวาของสนาม โดยเซร์คิโอ เรกีลอน เป็นตัวเปิดเข้ากรอบจุดโทษ จอนนี่ อีแวนส์ เทกตัวขึ้นโหม่งลูก ทำให้บอลเข้าประตูไปเต็มๆ แต่ VAR ไม่ให้ลูกนี้เป็นประตูเพราะเนื่องจาก ราสมุส ฮอยลุนด์ ยืนอยู่ในตำแหน่งที่ล้ำหน้า แฟนๆต่างเสียดายลูกนี้ไปตามๆกัน
นาทีที่ 45
แมนยูยังคงเป็นฝ่ายได้บุกต่อ เปิดมาด้วย จอนนี่ อีแวนส์ ได้วางบอลยาวๆไปให้ บรูโน่ เฟอร์นันเดส วิ่งเข้าไปในเขตโทษก่อนที่จะกดด้วยเท้าขวาแบบไม่ต้องจับลูกบอลพุ่งไปตุงตาข่าย ทำให้แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด นำไปก่อน 1-0 ก่อนจบครึ่งแรกแบบหืดขึ้นคอ
ครึ่งหลัง
กลับมาต่อครึ่งหลัง ในนาทีที่ 59 บรูโน่ เฟอร์นันเดส วางบอลยาวๆไปที่กรอบจุดโทษ เป็นมาร์คัส แรชฟอร์ด ที่โหม่งให้กับ ราสมุส ฮอยลุนด์ แต่ต้องพลาดให้กับการสกัดปัดลูกทิ้งของ อามีน อัล-ดาคิล และหลังจากนี้ช่วงเวลาที่เหลือก็ทรงๆทั้งสองทีมไม่มีใครทำประตูได้เลย ทำให้เกมนี้จบสกอร์ไปที่ 1-0 แมนยูบุกเอาชนะเบิร์นลี่ย์ ไปได้- BY KUBET FOOTBALL
ชนะยังไงให้โดนด่า
รายชื่อผู้เล่นทั้ง 2 ทีม
เบิร์นลี่ย์ (4-2-3-1)
เจมส์ แทร็ฟฟอร์ด – คอนเนอร์ โรเบิร์ตส์, อามีน อัล-ดาคิล, ลุยซ์ เบเยอร์, ชาร์ลี เทย์เลอร์ – จอช คัลเลน, จอช บราวน์ฮิลล์ – โยฮันน์ กู๊ดมุนส์สัน, อารอน แรมซี่ย์ – ลูก้า โคเลโอโช่
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด (4-3-1-2)
อ็องเดร โอนาน่า – ดีโอโก้ ดาโลต์, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, จอนนี่ อีแวนส์, เซร์คิโอ เรกีลอน – สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, กาเซมีโร่, ฮันนิบาล เมจบรี้ – บรูโน่ เฟอร์นันเดส – มาร์คัส แรชฟอร์ด, ราสมุส ฮอยลุนด์
มาดูกันว่าเล่นยังไงชนะถึงโดนด่า
- เริ่มจากอย่างแรกเลย 11 ผู้เล่นตัวจริง มีแรกดาวรุ่งของแมนยูทั้งนั้น ทำไมมันออกมาแบบนี้ทำไมการทำประตูสักลูกมาดูยากเย็นซะเหลือเกิน แผนการเล่น 4-3-1-2 เล่นแบบหน้าคู่ แต่สุดท้ายก็เล่นแบบเดิม หน้าต่ำขยับ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ออกไปขวาแค่นั้นเลย
- แมนยูทีมที่ยิ่งใหญ่มาถึงจุดนี้ได้ยังไง จุดที่มาเล่นกับทีมรองบ๊วยของตาราง แต่รูปแบบกับสู้เบิร์นลี่ย์ไม่ได้เลยการครองบอล การเปิดเกมรุกไม่สามารถกดดันสู้แข่งไม่ได้เลย เป็นรองกว่าเจ้าบ้านอีกต่างหาก โอ้แม่เจ้า!!
- อันนี้สำคัญสุดๆ เอริค เทน ฮาก ยังไม่สามารถดึงลูกทีมให้กับมาเล่นเป็นระบบแบบทีมได้ไม่มีคำว่าทีมเวิร์คเลยในเกมนี้ ต่างคนต่างเล่น อาศัยความสามารถเฉพาะตัวในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปเรื่อยๆทีละช็อต
- การที่ไม่เสียประตูเลยของแมนยูไม่ใช่เพราะเกมรับเหนียวแน่นหรืออะไรแต่ตัวบุกของเบิร์นลี่ย์ครองบอลเกมบุกได้หากไม่สามารถจบเกมได้เองต่างหาก กองกลางไม่สามารถหยุดเกมรุกของทีมเบิร์นลี่ย์ได้เลย ทำให้ในหลายจังหวะที่เบิร์นลี่ย์บุกเข้ามาถึงหน้าประตู !!
มันเกิดอะไรกับหัวใจ ควบคุมอะไรไม่ได้เลย แฟนคลับงง คู่แข่งก็งง แมนยูมันมาอยู่ถึงจุดนี้ได้ยังไงโรงละครแห่งความฝันที่หลายๆคนต้องการที่จะมาร่วมอยู่ด้วยกลับกลายเป็นทีมที่เล่นกับรองบ๊วยแต่กับคุมเกมไม่ได้เลย มันหน้าเศร้านะครับใครที่อยากดูบอลสดๆก็แวะเข้ามาดูได้ที่KUBET นะครับ