หมายเลข 7 บนเสื้อของนักเตะทัพ ปีศาจแดง เป็นมากกว่าแค่ตัวเลข มันคือสัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่ เกียรติยศ และความสำเร็จที่ส่งต่อกันมาหลายยุคสมัย แต่ในขณะเดียวกัน มันก็กลายเป็นคำสาป ที่หลอกหลอนนักเตะหลายคนที่ได้รับเสื้อหมายเลขนี้ไปสวมใส่
เสื้อเบอร์ 7 ของแมนยู คำสาปหรือตำนาน?

เสื้อหมายเลข 7 อันโด่งดังของแมนยูเป็นสัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่และตำนาน แต่ในยุคหลังโรนัลโด้ กลับกลายเป็นภาระอันหนักอึ้งที่ไม่มีใครสามารถรับไหว ตั้งแต่จอร์จ เบส ที่สร้างตำนานด้วยลีลาอันพลิ้วไหว อีริค คันโตน่า ที่เปลี่ยนไปด้วยคาแรคเตอร์ ไปจนถึงเดวิด เบคแฮมที่แม่นราวจับวาง
เสื้อเบอร์7 นี้ เคยเป็นของผู้เล่นระดับเทพ เคยเป็นของเหล่าตำนาน นับตั้งแต่ที่โรนัลโดโบกมือลาทีมไปในปี 2009 มีนักเตะ 5 คนที่รับช่วงเบอร์ 7 ต่อ กลับยิงรวมกันแค่ 15 ประตูในพรีเมียร์ลีก ซึ่งมันดูห่างไกลกับตัวเลข 118 ประตูของ CR7 ตลอด 6 ซีซั่นที่เขาอยู่กับปีศาจแดง ไปดูกันว่าทำไมเสื้อเบอร์ 7 กลายเป็นเสื้ออาถรรพ์แห่งโอลด์แทรฟฟอร์ด
เสื้อเบอร์ 7 ปีศาจแดง สัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่



หากเริ่มเรียงตำนานที่ยิ่งใหญ่ของเบอร์ 7 หมายเลขนี้ไม่ใช่แค่ตัวเลขบนหลังเสื้อ แต่มันคือสถาบันทางวัฒนธรรมในวงการลูกหนัง คนแรกที่ทำให้เรื่องนี้เป็นตำนาน นั่นคือ จอร์จ เบส เด็กหนุ่มแห่งเบลฟาสต์
จอร์จ เบส
จอร์จ เบสมาด้วยสไตล์การเล่นที่พลิ้วไหวดั่งสายน้ำ ราวกับนักบัลเลต์ เขายิงไป 179 ประตู จาก 470 นัด กลายเป็นคนแรกที่ทำให้เบอร์ 7 เป็นนักเตะตัวท็อปของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
ไบรอัน ร็อบสัน
ไบรอัน ร็อบสัน มิดฟิลด์จอมบู๊ของยุค 80 ผู้ชายคนนี้ไม่ได้เป็นตัวรุกแบบจอร์จ เบส แต่เขานำทีมด้วยหัวใจ กัปตันร็อบสันพาทีมเอฟเอคัพ 3 สมัย และวินเนอร์สคัพ 1 สมัย ทำให้หมายเลขนี้กลายเป็นเครื่องหมายของความเป็นผู้นำไปทันที
อีริค คันโตน่า
อีริค คันโตน่า นักเตะที่ทำให้เรื่องนี้ยิ่งใหญ่ไปมากกว่าเดิม ในปี 1992 เขาเข้ามาสวมเสื้อเบอร์ 7 กลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของ ปีศาจแดง 82 ประตู จาก 185 นัดของคันโตน่าพาแมนยูยิ่งใหญ่ในพรีเมียร์ลีก เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เคยพูดถึงเรื่องนี้เอาไว้ว่า อีริค คันโตน่า เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาของทุกสิ่ง จากวันนั้นเสื้อหมายเลข 7 ก็เข้าสู่ยุคของเดวิด เบคแฮม
เดวิด เบคแฮม
เดวิด เบคแฮม มาด้วยความสามารถแม่นยำจากลูกนิ่ง ภาพจำลูกฟรีคิกที่ยิงใส่กรีซในปี 2001 ทำให้แมนยูกลายเป็นมากกว่าสโมสรฟุตบอล และเบคแฮมก็มีผลอย่างมากทำให้แมนยูกลายเป็นแบรนด์ระดับโลกที่ขยายอิทธิพลไปทั่วโลก
คริสเตียโน โรนัลโด
คริสเตียโน โรนัลโด สวมเสื้อเบอร์ 7 ระหว่างปี 2003-2009 เป็นช่วงเวลาที่เสื้อเบอร์ 7 เดินทางไปสู่จุดสูงสุดของมัน นักเตะชาวโปรตุเกสรายนี้มาในฐานะดาวรุ่งที่โชว์ลีลาสุดพลิ้ว พัฒนาตัวเองจนกลายเป็นสุดยอดนักเตะของโลก คว้ารางวัลบัลลงดอร์และยิงไป 42 ประตู ในปี 2007 แต่หลังจากนั้น CR7 ได้ย้ายไปทำตามฝันของตัวเองที่เรอัล มาดริด ได้ค่าตัวสถิติโลก 80 ล้านปอนด์ นับว่านี่เป็นจุดเริ่มต้นของคำสาปที่ไม่มีใครปลดล็อกได้
คำสาป เสื้อเบอร์ 7 ปีศาจแดง


ไมเคิล โอเว่น
นับตั้งแต่ปี 2009 หมายเลข 7 ของแมนยูก็เหมือนต้องคำสาป ไมเคิล โอเว่น สวมเสื้อคนนี้เป็นคนแรกหลังโรนัลโดย้ายไปมาดริด แต่ด้วยอาการบาดเจ็บ ทำให้โอเว่นยิงได้เพียง 5 ประตูเท่านั้นในพรีเมียร์ลีก
อันโตนิโอ วาเลนเซีย
จาก 3 ซีซั่นหลังสุด อันโตนิโอ วาเลนเซีย นักเตะผู้ซื่อสัตย์ของทีมได้รับเสื้อเบอร์ 7 ในปี 2012 แต่เล่นไปเพียงแค่ซีซั่นเดียวก็ขอกลับไปใส่เบอร์ 25 เหมือนเดิม เพราะว่ามันกดดันเกินไป
อังเคล ดิ มาเรีย
อังเคล ดิ มาเรีย เข้ามาเส้นสัญญากับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดด้วยราคา 59.1 ล้านปอนด์ ในปี 2014 พร้อมกับความคาดหวังมหาศาล แต่แผนของหลุยส์ ฟานกัล ไม่เข้ากับสไตล์การเล่นของดิ มาเรีย แถมตอนย้ายไปอยู่แมนยู เจ้าตัวโดนขโมยขึ้นบ้าน ทำให้เจ้าตัวต้องขอย้ายออกไปหลังจากอยู่ที่นั่นได้เพียงแค่ปีเดียว
เมมฟิส เดปาย
เมมฟิส เดปายมาพร้อมกับความมั่นใจระดับราชสีห์ ไม่ว่าจะเป็นรอยสัก และรถ แลมโบกินี่ แต่ว่าสุดท้ายจบที่ผลงานสถิติยิงได้ 7 ลูก จาก 53 เกม และถูกขายทิ้งอย่างรวดเร็ว
อเล็กซิส ซานเชส
อเล็กซิส ซานเชส ดีลที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร ค่าเหนื่อยครึ่งล้านปอนด์ต่อสัปดาห์ แต่ยิงได้เพียงแค่ 5 ลูก ใน 45 นัด และเป็นที่มาของวลี เปียโนเก่าในห้องซ้อม มาทำ*อะไร
บอกเลยว่าเสื้อเบอร์ 7 ของทัพ ปีศาจแดง ทำเอานักเตะร้อนๆหนาวๆเมื่อสวมใส่ เรื่องราวยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ไปกันต่อที่ EP.2 ได้เลยครับ
ระเบิดความมันส์แบบไม่มีพัก ดูบอลสดฟรีทุกวินาที แทงบอลออนไลน์ลุ้นรวยไม่รู้จบ และสัมผัสคาสิโนออนไลน์เว็บตรงที่จ่ายหนักจัดเต็ม รับโบนัสต้อนรับ 1,500 บาท เพียงกรอกรหัส DW338 เมื่อสมัครสมาชิกวันนี้