5 ประเด็นที่ลิเวอร์พูล ได้แชมป์คาราบาวคัพ ซีซั่น 2023-24 ใครที่อยากรู้ว่าอะไรที่ทำให้หงส์แดงเอาชนะเชลซีมาได้ วันนี้ KUBET ได้รวบรวมมาให้คุณแล้ว ใครพร้อมก็ตามมาดูกันได้เลยครับ
ลิเวอร์พูลดวลเชลซี ศึกคาราบาวคัพ ซีซั่น 2023-24

ลิเวอร์พูล เข้ารอบชนะเลิศศึกคาราบาวคัพ ซีซั่น 2023-24 และต้องเจอกับ เชลซี ที่สนามเวมบลีย์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2024 ซึ่งเป็นการแข่งขันที่ใช้เวลายาวนานมากๆถึง 120 นาที ซ้ำรอยกับเมื่อ 2 ปีที่แล้วไม่มีผิดแต่สิ่งที่แตกต่างออกไปคือ ในนัดนี้หงส์แดงไม่ต้องมาดวลลูกโทษกับสิงโตน้ำเงินครามอีกแล้ว เนื่องด้วยเฟอร์จิล ฟาน ไดค์ กัปตันคนเก่งได้กระโดดโหม่งจนเข้าไปตุงตาข่ายในขณะที่เวลาเหลือแค่ 2 นาทีสุดท้ายเท่านั้นของการต่อเวลาพิเศษ
ส่งผลให้สโมสรทำลายสถิติการคลองแชมป์ลีกคัพ เป็น 10 สมัย และแน่นอนว่าโอกาสคว้าสี่แชมป์ของทีมของหนังแห่งเมอร์ซีย์ไซด์ในซีซั่นสุดท้ายของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ยอดกุนซือชาวเยอรมันได้เริ่มต้นนับหนึ่งอย่างเป็นทางการแล้ว ตั้งแต่ตอนนี้ โดยวันนี้เราจะมาดูว่าอะไรที่ทำให้ลิเวอร์พูลได้แชมป์คาราบาวคัพซีซั่นนี้ไปครอบครอง ทั้งที่ลูกทีมตัวจริงเกือบทั้งหมดต้องนั่งเป็นตัวสำรองเพราะไม่ได้รับบาดมากกว่าครึ่งทีม
1.) เชลซีวางตำแหน่งเดิมเหมือนกับตอนที่แข่งกับแมนซิตี้

เชลซี วางตำแหน่งผู้เล่นชุดเดิมทั้ง 11 คน เหมือนกับตอนที่แข่งขันกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่สามารถตีเสมอได้ด้วยสกอร์ 1-1 ในเกมพรีเมียร์ลีก เพราะด้วยฟอร์มการเล่นของทีมชุดเดิมของเชลซีทำผลงานได้ดี กุนซือจึงยืนยันที่จะไม่เปลี่ยนตัวในการแข่งในนัดสำคัญแบบนี้แต่ด้วยเวลาที่แข่งขันกันถึง 120 นาทีคาดว่าทำให้ผู้เล่นส่วนใหญ่อ่อนล้ากันหมดแล้ว ถึงออกมาอย่างที่เห็นว่า เชลซีแพ้ไปด้วยสกอร์ 0-1 ประตูในช่วงเวลาสุดท้ายของเกม นั่นเอง – BY KUBET
2.) ลิเวอร์พูล ปรับแนวรับใหม่

ลิเวอร์พูล มีการปรับเปลี่ยนผู้เล่นอยู่ 2 จุดด้วยกัน อย่างที่ใครรู้กันว่าหงส์แดงประสบปัญหาผู้เล่นขาดแคลนเนื่องจากอาการบาดเจ็บของผู้เล่นตัวหลักตัวสำคัญอย่างหัวหอกของสองคน โม ซาลาห์ และ ดาร์วิน นูนเญซ ที่ได้รับบาดเจ็บจากเกมที่ต้องเจอกับเดอะ แฮตเตอร์ส ทำให้ต้องปรับเปลี่ยนตัวผู้เล่นใหม่ลงสนามและอีกจุดหนึ่งก็คือแนวรับของทีมที่ได้รับบาดเจ็บเช่นกันโดยให้ อิบราฮิมา โกนาเต้ กับ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน คืนตำแหน่งตัวจริงแทน จาเรลล์ ควานซาห์ กับ โจ โกเมซ
ในขณะเดียวกัน เจอร์เก้น คล็อปป์ ยังตัดสินใจที่บ้ามากๆในการส่งนักเตะดาวรุ่งเยาวชนลงสนามถึง 3 คน ในรอบชิงชนะเลิศแบบนี้ ซึ่งมันเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์สโมสรเลยก็ว่าได้ที่ทำอะไรแบบนี้โดยเจ้าตัวได้ส่งไรอัน กราเฟนแบร์ค , คอเนอร์ แบรดลีย์ และ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ เนื่องจากไม่เหลือตัวให้เปลี่ยนแล้ว แต่ตัวหลักในทีมตอนนั้นก็เหนื่อยล้าเต็มที ซึ่งการทำแบบนั้น ใครจะไปคิดว่าตำแหน่งแชมป์จะเป็นของ ลิเวอร์พูลในที่สุด
3.) นักเตะหลักเจ็บเยอะจนมีแรงกระตุ้น

อย่างที่ได้กล่าวไปตั้งแต่แรกว่า นักเตะตัวหลักของลิเวอร์พูลได้รับอาการบาดเจ็บมากกว่าครึ่งของทีม ทำให้เจอร์เก้น คล็อปป์ เหลือตัวเลือกไม่มากนักในเวลานั้น เจ้าตัวได้ใช้ผู้เล่นทั้งหมดที่มีในมือลงไปสู้อย่างสุดความสามารถแล้ว แต่ก่อนที่นักเตะหน้าใหม่ๆจะลงสนามสิ่งที่คล็อปป์ทำคือเดินเข้าไปปกอดทุกคนและบอกให้ทำให้เต็มที่ ที่สุด สิ่งที่ได้คือนักเตะที่ลงสนามไปใหม่วิ่งตามบอลแบบไม่คิดชีวิตเล่นได้นิ่งมากๆเหมือนนี่ไม่ใช่ครั้งแรกของพวกเขายังไงอย่างนั้น
4.) ผู้ตัดสินเป็นเหตุ

ผู้ตัดสิน ต้องบอกเลยว่าทำแฟนบอลหัวร้อนมากๆกับการตัดสินในเกมนี้บางจังหวะที่เชลซีควรจะได้ใบแดงเพราะปะทะหนักเกินไปจนทำให้ผู้เล่นของหงส์แดงต้องหยุดเล่นและออกนอกสนามไป กับไม่ได้แม้แต่ใบเหลืองและได้เล่นต่อ และยังมีอีกหลายเหตุการณ์ที่ไม่เป็นใจให้กับลิเวอร์พูล การชนะในครั้งนี้จึงเป็นอะไรที่โคตรสุดเลยครับ
5.) ทีเด็ดอยู่ที่ลูกสุดท้าย

ทีเด็ดคือลูกสุดท้ายจริงๆเกมดำเนินมาจนเหลือ 2 นาทีสุดท้าย ลิเวอร์พูลได้ลูกเตะมุมและสิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อลูกบอกลอยเข้ามาที่หัวของเฟอร์จิล ฟาน ไดค์ กัปตันทีมของหงส์แดงโขกลูกบอลเข้าไปยัดประตูเต็มๆทำให้สกอร์จบเกมนี้ 1-0 เป็นอะไรที่ไม่น่าเชื่อว่านักเตะระดับพันล้านของเชลซีต้องมาพ่ายแพ้ในเกมสำคัญให้กับนักเตะระดับเยาวชนของทีมลิเวอร์พูลแบบนี้
จบไปแล้วสำหรับ5 ประเด็นที่ลิเวอร์พูล ได้แชมป์คาราบาวคัพ ซีซั่น 2023-24 ไม่ว่าเหตุผลจะคืออะไรแต่สิ่งเดียวที่หงส์แดงทำให้เห็นก็คือ ไม่ว่าคุณจะเป็นตัวหลักหรือตัวสำรองไม่สำคัญ สำคัญที่เมื่อไหร่ที่คุณลงสนามแล้ว คุณคือนักเตะของสโมสรและทำมันให้เต็มที่ ไม่แปลกใจเลยว่านี่จะเป็นเกมที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ จะภูมิใจกับมันที่สุด สำหรับใครที่ต้องการดูการแข่งขันมันส์ๆแบบนี้ก็สามารถมาดูกันได้ที่ KUBET ได้เลยนะครับ