หากพูดถึงกีฬาฟุตบอลแล้ว สิ่งแรกที่ขาดไม่ได้เลยคือ ลูกฟุตบอลนั่นเอง แล้วเรามีวิธีเลือกซื้ออย่างไร? ให้เตะอย่างปลอดภัย ทนทาน แถมใช้ได้หลายปี วันนี้ KUBET รวบรวมข้อมูลมาฝาก ไปดูกันเลย!
ก่อนอื่นสิ่งแรกที่ควรคำนึงก่อนเลือกซื้อลูกฟุตบอลที่ชอบ นั่นคือ เราต้องรู้จักวิธีการเลือกซื้อที่ถูกต้อง เพราะในการเตะฟุตบอลนั้น มีปัจจัยหลายอย่างที่อาจทำให้เราบาดเจ็บได้ง่ายๆ ถ้าเราซื้อลูกที่เนื้อวัสดุแข็งเกินไปและเกรดต่ำ อาจใช้ได้ไม่นานก็ต้องทิ้ง เพราะฉะนั้นการเลือกลูกบอลที่ดี วัสดุทนทาน เหมาะกับใช้ทุกสนาม จึงเป็นข้อสำคัญอย่างยิ่ง เอาหละ ไปดูวิธีการเลือกซื้อกันเลย
ประเภทของลูกหนัง
แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
1.ลูกบอลหนังอัด

คือ ลูกบอลที่ทำการอัดชั้นนอกด้วยหนังแท้ หรือ หนังเทียม เป็นลูกบอลที่มีราคาถูกสุดๆ แถมส่วนใหญ่จะทำจากหนัง PU , PVC โดยทุกแผ่นอัดด้วยกาว ทำให้ลูกบอลอัดหนังไม่มีรอยตะเข็บ เหมาะสำหรับเตะทุกสนาม แต่อายุการใช้งานจะน้อยกว่าประเภทอื่น เพราะกาวหลุดง่าย และตัวลูกบอลจะมีสัมผัสแข็ง หากใช้ไปสักพัก จะปริแตกหรือบวม แต่ทั้งนี้หลายๆบริษัทก็ได้มีการพัฒนาทำให้ตัวกาวเหนียวแน่นมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ทนทานแข็งแรง ใช้ได้นานถึงปี
2. ลูกบอลหนังเย็บ
คือ ลูกบอลที่มีการเย็บหนังชั้นนอกด้วยหนังแท้ หรือ หนังเทียม มีการเย็บ 2 รูปแบบ ได้แก่

- ลูกบอลเย็บด้วยมือ : รูปแบบนี้มีราคาค่อนข้างสูงมาก เพราะใช้แรงงานคนในการตัดเย็บ แต่ตัวลูกจะมีความแข็งแรง และทนทาน เสียรูปทรงได้ยากกว่าชนิดอื่นๆ ส่วนใหญ่จะถูกออกแบบมาเพื่อใช้แข่งขัน แต่หลายครั้งจะงานไม่ละเอียดมากนัก ทำให้ต้องเติมลมอยู่ตลอดเวลา
- ลูกบอลเย็บด้วยเครื่องจักร : รูปแบบนี้ราคาน่าคบหากว่าหลายเท่า และรอยตัดเย็บละเอียดกว่า สามารถเก็บลมได้ดี ตัวลูกบอลจะมีความแข็งแรง ทนทานน้อยกว่ารูปแบบมือ และใช้ไปนานๆจะเสียทรงง่าย
ขนาดมาตรฐานของลูกฟุตบอล
หลายคนอาจไม่เคยรู้ ลูกฟุตบอลที่วางขายอยู่ทุกวันนี้มีหลากหลายขนาด ตั้งแต่เบอร์ 1 ไปจนถึง เบอร์ 5 ดังนั้นเราจึงเลือกขนาดลูกบอลให้เหมาะสมกับช่วงอายุและตัวเรา เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน แบ่งออกเป็น 5 ขนาดมาตรฐาน ได้แก่

- ลูกบอลเบอร์ 5: เหมาะสำหรับผู้เล่นอายุ 12 ปีขึ้นไปจนถึงผู้ใหญ่ นิยมใช้เล่นกันทั่วไปและเพื่อแข่งขัน
- ลูกบอลเบอร์ 4: เหมาะสำหรับผู้เล่นอายุระหว่าง 8-12 ปี หรือ ช่วงประถมศึกษาตอนปลาย
- ลูกบอลเบอร์ 3: เหมาะสำหรับเด็กอายุไม่เกิน 8 ปี หรือ ช่วงประถมศึกษาตอนต้น
- ลูกบอลเบอร์ 2: เหมาะสำหรับเด็กเล็กอายุไม่เกิน 6 ปี หรือ ช่วงก่อนประถมศึกษา ไว้ใช้ฝึกทักษะ
- ลูกบอลเบอร์ 1: เหมาะสำหรับผู้เล่นมือใหม่ ช่วงอนุบาล
KUBET – แหล่งรวมข่าวสารฟุตบอลและอัพเดทสาระความรู้เกี่ยวกับโลกของลูกหนังตลอดทุกวัน พร้อมแทงบอลออนไลน์ ด้วยราคาน้ำที่ดีที่สุดในไทย ระบบปลอดภัยสูง ได้ใบรับรองตามมาตรฐานสากล
เลือกลูกฟุตบอลให้เหมาะกับสนามที่ใช้
หลังจากรู้ขนาดของลูกฟุตบอลกันไปแล้ว ก็ควรรู้ว่าวิธีเลือกซื้อลูกฟุตบอลให้เหมาะกับแต่ละสนามควรมีอะไรบ้าง ข้อควรรู้หลัก ๆ 2 ข้อ ได้แก่

- สนามหญ้าจริง แนะนำให้เลือกลูกบอลที่ทำจากยางธรรมชาติ เพราะตัวยางมีความยืดหยุ่นสูงและส่งแรงเด้งได้ดี จึงเหมาะกับสนามหญ้าที่มีแรงผลักน้อย
- สนามพื้นดิน แนะนำให้เลือกลูกที่ทำจากยางสังเคราะห์ เพราะมีความยืดหยุ่นต่ำ และส่งแรงเด้งได้น้อยกว่า จึงเหมาะกับการเล่นบนพื้นดิน หรือ พื้นสนามโรงเรียนทั่วไป ที่มีความยืดหยุ่นของพื้นผิวสูงอยู่แล้ว
ลูกฟุตบอลที่ได้ใบรับรองมาตรฐาน

อีกหนึ่งวิธีการเลือกลูกฟุตบอลสำหรับผู้เล่นที่เป็นมือโปร หรือ มืออาชีพ แนะนำว่าควรเลือกลูกฟุตบอลที่หนังมีคุณภาพดี และได้ใบรับรองตามมาตรฐานสากล โดยเฉพาะมาตรฐานของ FIFA ฟีฟ่า หรือ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ เพราะการันตีได้ว่าเป็นมาตรฐานระดับโลก มีการตรวจสอบคุณภาพอย่างเข้มงวด ทั้งเรื่องรูปทรง ขนาดลูกบอล วัสดุที่ใช้เป็นส่วนประกอบการผลิต และอื่นๆ โดยลูกบอลที่ผ่านการตรวจสอบนี้ สามารถนำมาใช้ในการแข่งขันแมตช์ใหญ่ๆ สำคัญๆ ได้เลย เพราะว่าเป็นลูกฟุตบอลที่ผ่านมาตรฐานอย่างถูกต้องนั่นเอง
KUBET ส่งเสริมให้เยาวชนไทยทุกคนรักการออกกำลังกายด้วยกีฬา ห่างไกลยาเสพติดทุกชนิด และหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้สมาชิกทุกท่านตัดสินใจเลือกซื้อลูกฟุตบอลได้อย่างถูกต้อง เหมาะสมกับการใช้งานของตนเอง และหากสมาชิกท่านใดชื่นชอบกีฬาฟุตบอลและเล่นเกมเดิมพันออนไลน์ อย่าลืมนึกถึงเราเคยูเบท ตัวเลือกอันดับหนึ่งในไทย ที่มีบอลสด บอลออนไลน์ ให้รับชมทุกแมตช์ ทุกลีก รวมทั้งอัพเดทข่าวสารฟุตบอลไทยและฟุตบอลต่างประเทศจากทั่วทุกมุมโลก