แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องเผชิญกับความยากลำบากอย่างหนัก ส่งผลให้ผลงานโดยรวมของทีมย่ำแย่ลงอย่างเห็นได้ชัด ไปดูกันว่าฤดูกาลที่เลวร้ายที่สุดนี้ แมนยู ต้องเจอกับอะไรบ้าง


เมื่อแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดได้ทำการปลดเอริก เทนฮากออกในเดือนตุลาคม 2024 ตอนนั้นพวกเขาอยู่ในอันดับที่ 14 ของตารางพรีเมียร์ลีกอังกฤษและมีแต้มห่างโซนท็อป4 และ 3 อันดับสุดท้ายอยู่ที่ 7 แต้ม เวลาผ่านไป ตอนนี้พวกเขาก็ยังอยู่ในอันดับที่ 14 ก่อนหน้านี้ พวกเขาบุกไปเสมอกับเอฟเวอร์ตันแบบเกือบแพ้ ได้กลับมา 1 แต้ม ซึ่งถือว่ารอดตายไปได้อีกนัด
ไม่มีสถานการณ์พลิกกลับ ในการเปลี่ยนแปลงกุนซือเนื่องจากอโมริมยอมรับว่าเขามีปัญหาหลายอย่าง และงานของเขาก็ค่อนข้างยากมากเลยทีเดียว แมนยูต้องเผชิญกับฤดูกาลที่ย่ำแย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ และอโมริมเผชิญกับอะไรบ้าง ไปดูกันครับ
ทีมที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก

อโมริมอาจจะรีบร้อนเกินไปกับการที่เขาบอกว่านี่เป็นทีมที่ย่ำแย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเมื่อเดือนมกราคม แต่ท้ายที่สุดแล้วมันอาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้ สโมสรเคยตกชั้นไปเล่นลีกรองเมื่อปี1974 แต่ในยุคพรีเมียร์ลีกพวกเขาเป็นทีมที่แย่ตามสถิติ
คะแนนรวม
คะแนนรวมของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด มีอยู่ 30 แต้ม จาก 26 เกม ถือเป็นคะแนนต่ำที่สุดในช่วงนี้ของฤดูกาลในพรีเมียร์ลีก แมนยูไนเต็ดแพ้ไปแล้ว 12 ครั้ง จาก 26 นัด คิดออกมาเป็น 48% สโมสรทำคะแนนเฉลี่ย 1.16 แต้มต่อเกม ซึ่งหากอยู่ในทรงนี้ต่อไป พวกเขาจะได้ราวๆ 44 แต้ม จาก 38 นัด เมื่อจบฤดูกาล ซึ่งถือว่าเป็นคะแนนรวมที่ต่ำที่สุดในการเล่นพรีเมียร์ลีกของพวกเขา
แมนยูชนะ 4 เสมอ3 แพ้ 8 จาก 15 นัด ของอโมริมในพรีเมียร์ลีก มีเพียงอิปสวิชทาวน์ เลสเตอร์ ซิตี้และเซาแธมป์ตันเท่านั้น ที่เก็บได้น้อยกว่า 15 คะแนน ของ แมนยู
ในช่วงอโมริมเข้ามาเป็นผู้จัดการของทีม รวมทุกรายการ อโมริมคุมทีมไปแล้ว 22 นัด เขาพาทีมชนะ 9 เสมอ4 และแพ้ไปอีก9 มีอัตราการชนะอยู่ที่ 43% เท่านั้น ถือเป็นสถิติที่ต่ำที่สุดของผู้จัดการทีมแมนยูไนเต็ด นับตั้งแต่ที่เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันวางมือไปในปี 2013
จากการคุมทีม 21 นัดแรก อันดับที่ตามมาคือหลุยส์ ฟาน กัล ที่อัตรา 48% โชเซ่ มูรินโย่ 52% เดวิด มอยส์ 57% เอริก เทนฮาก 67% และโอเล่ กุนนาร์ โซลชา 71%
ปัญหาการจบสกอร์

จากปัญหาทั้งหมดของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของอโมริม ปัญหาที่เห็นได้ชัดที่สุดของพวกเขาคือ การไม่สามารถทำประตูได้มากพอ หากพิจารณาจากตัวเลขอย่างละเอียดจะพบว่าการอ่านตัวเลขเหล่านี้ไม่สนุกเลย สำหรับแฟนแมนยู
แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดยิงได้ 30 ประตู จาก 26 นัด ในฤดูกาลนี้ ซึ่งถือเป็นอัตรา1.12 ประตูต่อเกมเท่านั้น มีเพียงแค่ 4 ทีมที่ยิงได้น้อยกว่าพวกเขา นั่นคือ อิปสวิชทาวน์ เลสเตอร์ ซิตี้เซาแธมป์ตัน และเอฟเวอร์ตัน
อาหมัด ดิยัลโล่ซึ่งต้องพักตลอดฤดูกาลที่เหลือด้วยอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้า เป็นผู้ทำประตูสูงสุดของทีม โดยยิงไปได้ 6 ประตู และ 9 ประตูรวมทุกรายการ ในขณะที่หน้าเป้าอย่างราสมุส ฮอยลุนด์ทำไปเพียง 2 ประตู และโจซัว เซิร์กซี ทำไป 3 ประตู โดยกองหน้า 2 คน สถิติรวมกันเพียง 5 ลูกเท่านั้น จากการลงสนามรวมกัน 45 นัด ในพรีเมียร์ลีก


ใน 14 นัด ภายใต้การคุมทีมของเอริก เทนฮาก ค่า XG ของแมนยู อยู่ที่ 1.7 แต่เมื่อมาในยุคของอโมริม มันหล่นไปถึง 1.6 ประตูต่อเกมเลยทีเดียว สถิติโอกาสทองของแมนยูเหมือนกันทั้ง 2 กุนซือในซีซั่นนี้ โดยทีมสร้างโอกาสทองได้เพียง 2.9 ครั้งต่อเกม แม้ว่าปีศาจทีมจะดิ้นรน แต่กัปตันทีมอย่างบรูโน่ เฟอร์นันเดส ก็สร้างโอกาสทองได้สูงเป็นอันดับที่4 ในลีก ที่จำนวน 53 ครั้ง ขณะที่สูงสุดเป็นโคล พาลเมอร์ 66 ครั้ง
ในฤดูกาลที่แล้ว ทัพปีศาจแดงจบฤดูกาลด้วยผลต่างประตูได้เสียอยู่ที่ -1 ซึ่งเป็นครั้งแรกของพวกเขากับการเล่นพรีเมียร์ลีก อย่างไรก็ตามในฤดูกาลนี้ พวกเขาอยู่ในเส้นทางที่จะทำลายสถิติด้วยผลต่างประตู -7 แต่ในทำนองเดียวกัน แม้ว่า 57 ประตู ที่พวกเขาทำได้ในฤดูกาล 2023-2024 จะเป็นประตูต่ำสุดร่วม ที่พวกเขาเคยทำได้ ฤดูกาลนี้ หากพวกเขารักษาอัตราการทำประตูอยู่ที่ 1.12 ประตูต่อเกม พวกเขาจะจบฤดูกาล ด้วยการทำประตูเพียง 44 ลูกเท่านั้น
ฤดูกาลที่เลวร้ายของ แมนยู ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ไปกันต่อที่ EP.2 ได้เลยครับ
ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น การเข้าถึงความบันเทิงระดับโลกก็ง่ายดายยิ่งขึ้น คาสิโนถูกกฎหมายออนไลน์เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ด้วยความสะดวกสบายและความหลากหลายของเกมที่นำเสนอ สมัครสมาชิกวันนี้ รับโบนัสสุดพิเศษสูงสุดถึง 1,500 บาท เพียงใส่รหัส DW338 เท่านั้น