เตรียมพบกับเรื่องราวสุดเหลือเชื่อ เบื้องหลังการก่อตั้งสโมสร ฟุตบอล ที่คุณอาจไม่เคยได้ยินมาก่อน จากจุดเริ่มต้นเล็กๆสู่ทีมระดับโลก บางครั้งโชคชะตาก็นำพาให้เกิดเรื่องราวที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่าละคร มาดูกันว่าสโมสรที่คุณชื่นชอบนั้น มีที่มาที่ไปอย่างไรบ้าง
SV Robinhood

ใครจะเชื่อว่าชื่อของวีรบุรุษแห่งป่าเชอร์วูด ผู้โด่งดังจากการ “ปล้นคนรวย ช่วยคนจน” ในศตวรรษที่ 14 จะกลายมาเป็นชื่อของสโมสรฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในทวีปอเมริกาใต้? เรื่องราวสุดเซอร์ไพรส์นี้เกิดขึ้นที่ประเทศซูรินาม ดินแดนที่ฟุตบอลอาจไม่หวือหวาเท่าในยุโรป แต่มีทีมที่สร้างตำนานได้อย่างน่าทึ่ง นั่นคือ สโมสรเอส.วี. โรบินฮู้ด (SV Robinhood)
ย้อนกลับไปในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 1945 แอนตัน บลิจด์ ผู้ก่อตั้งสโมสรแห่งนี้ ไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อสร้างอาณาจักรลูกหนังที่เต็มไปด้วยเงินทองและชื่อเสียง หากแต่เขามุ่งมั่นที่จะมอบโอกาสให้กับเด็กๆ ในเมืองปารามาริโบ เมืองหลวงของซูรินาม ด้วยจิตวิญญาณแห่งการให้เฉกเช่นโรบินฮู้ด สโมสรแห่งนี้จึงถือกำเนิดขึ้น
และแล้ว “ลูกศรเขียว” แห่งซูรินาม ก็สร้างปรากฏการณ์อย่างรวดเร็ว เพียง 4 ปี พวกเขาทะยานจากลีกระดับ 3 สู่ลีกสูงสุดได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ก่อนจะเข้าสู่ยุคทองอันรุ่งโรจน์ในช่วงทศวรรษ 1970 และ 1980 ที่พวกเขาผงาดคว้าแชมป์ในประเทศไปถึง 30 รายการ ชื่อของ SV Robinhood กลายเป็นที่รู้จักในฐานะสโมสรที่แข็งแกร่งที่สุดในซูรินามอย่างไม่ต้องสงสัย
ทว่า เส้นทางแห่งชัยชนะก็มีขึ้นมีลง ในปี 2003 พวกเขาต้องเผชิญกับความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ด้วยการตกชั้น แต่ด้วยหัวใจที่ไม่ยอมแพ้ ในปี 2014 สโมสรโรบินฮู้ดก็กลับมาทวงคืนบัลลังก์ได้อย่างยิ่งใหญ่ และไม่เพียงแต่ในประเทศเท่านั้น ในปี 2023 พวกเขายังสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ด้วยการคว้าแชมป์ระดับทวีปในรายการ คอนคาเคฟ แคริบเบียน คัพ (CONCACAF Caribbean Cup) มาครองได้อย่างน่าภาคภูมิใจ
สิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่าคือ ฟุตบอล อาชีพในซูรินามเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2024 หรือปีที่ผ่านมานี้เอง และทีมที่สามารถคว้าแชมป์ลีกอาชีพสมัยแรกไปครอง ก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็น เอส.วี. โรบินฮู้ด ทีมที่ชื่อได้แรงบันดาลใจจากตำนานนักปล้นผู้ใจบุญ กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความมุ่งมั่น ความหวัง และความสำเร็จที่เหนือความคาดหมายอย่างแท้จริง
F.C. United of Manchester

เคยสงสัยไหมว่าทำไมถึงมีทีมฟุตบอลชื่อคล้ายกับปีศาจแดง อย่าง F.C. United of Manchester? หลายคนอาจคิดว่าเป็นทีมสำรอง หรือทีมในเครือ แต่ความจริงเบื้องหลังนั้น กลับเข้มข้นและเต็มไปด้วยจิตวิญญาณของแฟนบอลอย่างแท้จริง
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นในปี 2005 เมื่อตระกูลเกลเซอร์เข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลุ่มแฟนบอลจำนวนไม่น้อยมองว่าเจ้าของใหม่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับจิตวิญญาณของฟุตบอล แต่กลับมุ่งเน้นไปที่ผลประโยชน์ทางธุรกิจ ความไม่พอใจนี้เองที่จุดประกายให้เกิดการตัดสินใจครั้งสำคัญ พวกเขาประกาศ “เราจะสร้างทีมของเราเอง”
และแล้ว F.C. United of Manchester ก็ถือกำเนิดขึ้น สโมสรที่สร้างขึ้น โดยแฟนบอล เพื่อแฟนบอลอย่างแท้จริง หัวใจสำคัญของทีมนี้คือการบริหารจัดการโดยแฟนบอลกว่า 2,300 ชีวิต ที่ร่วมลงขันบริจาคเงิน ทุกคนมีสิทธิ์มีเสียงเท่าเทียมกันในการตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยอย่างสีชุดทีม หรือเรื่องสำคัญอย่างราคาตั๋ว เพลงเชียร์ ไปจนถึงชื่อของสโมสรเอง
ชื่อแรกที่แฟนๆ เสนอคือ “เอฟซี ยูไนเต็ด” แต่ถูกสมาคม ฟุตบอล อังกฤษ (FA) ปฏิเสธ ทำให้ต้องมีการโหวตกันใหม่อย่างเข้มข้น และในที่สุด “ยูไนเต็ดออฟแมนเชสเตอร์” ก็ได้รับการเลือกสรร
เส้นทางการเติบโตของสโมสร
การเดินทางของพวกเขาเริ่มต้นจากจุดที่ต่ำที่สุด นั่นคือ ดิวิชั่น 2 ของ North West Counties Football League แต่ด้วยพลังศรัทธาและความสามัคคีของแฟนบอล พวกเขาสามารถเลื่อนชั้นได้อย่างต่อเนื่อง ใช้เวลาเพียง 3 ปี ก็สามารถก้าวขึ้นไปสู่ระดับ เนชั่น ลีก นอร์ธ ได้สำเร็จ และในปี 2015 พวกเขายังสร้างความฮือฮาด้วยการทะลุเข้าถึงรอบ 2 ของศึกเอฟเอ คัพ อีกด้วย
ปัจจุบัน F.C. United of Manchester ยังคงโลดแล่นอยู่ในลีกระดับภูมิภาคอย่าง นอร์ธเทิร์น พรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นลีกที่แยกตัวออกมาจากเนชั่น ลีก แม้ผลงานในลีกอาจไม่ได้หวือหวา โดยในฤดูกาลที่แล้วจบอันดับ 14 จาก 22 ทีม และปัจจุบันรั้งอันดับ 11 แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือจิตวิญญาณที่ไม่ยอมจำนน และความภาคภูมิใจในการเป็นสโมสรที่แท้จริงของแฟนบอล “ปีศาจแดง” กลุ่มหนึ่ง ที่เลือกที่จะสร้างทีมของตัวเองด้วยหัวใจ
Thames A.F.C.

นี่คือเรื่องราวของสโมสรฟุตบอลที่มีอายุขัยสั้นยิ่งกว่าละคร แต่เบื้องหลังกลับยาวนานกว่าศตวรรษ ย้อนกลับไปในปี 1928 ในย่าน Costom House (ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ London Borough of Newham) กลุ่มทุนผู้สร้างสนามฟุตบอลระดับตำนานอย่างกูดิสัน พาร์ก และไฮบิวรี สเตเดียม (ซึ่งปัจจุบันกลายเป็น เวสต์แฮม สเตเดียม อันโอ่อ่า จุได้ถึง 100,000 ที่นั่ง) ได้สร้างสนามขนาดมหึมาแห่งใหม่ขึ้น
แต่เดิมที สนามแห่งนี้ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อฟุตบอล มันถูกสร้างขึ้นเพื่อจัดการแข่งขันวิ่งสุนัขเกรย์ฮาวด์ เมื่อไม่มีการแข่งขัน เจ้าของสนามจึงเกิดไอเดียสุดแปลก นั่นคือการตั้งสโมสรฟุตบอลขึ้นมา เพียงเพื่อเติมเต็มกิจกรรมในวันที่สนามว่างเท่านั้น
และแล้ว สโมสร Thames A.F.C. ก็ถือกำเนิดขึ้นอย่างไม่เป็นทางการนัก พวกเขาเข้าร่วม Southern Football League และจบฤดูกาลแรกด้วยอันดับที่ 14 ก่อนจะสร้างความประหลาดใจด้วยการทะยานขึ้นสู่อันดับ 3 ในฤดูกาลถัดมา ความมั่นใจที่พุ่งสูงนี้เอง ทำให้พวกเขาประกาศอย่างกล้าหาญว่าจะคว้าผู้เล่นระดับโลกมาเสริมทัพในทุกตำแหน่ง
แต่แล้วความจริงอันแสนโหดร้ายก็ปรากฏ แม้ว่าพวกเขามีรังเหย้าที่ใหญ่โตมโหฬาร จุคนได้เกือบแสน แต่จำนวนแฟนบอลที่เข้ามาชมเกมกลับน้อยนิดอย่างน่าใจหาย ในวันที่ 6 ธันวาคม ปี 1930 เกมที่พบกับลูตัน ทาวน์ มีแฟนบอลเข้ามาในสนามเพียง 469 คน เท่านั้น ลองจินตนาการภาพสนามที่ว่างเปล่า ความเงียบที่ดังสนั่น ท่ามกลางอัฒจันทร์นับแสนที่นั่ง
ด้วยจำนวนผู้ชมที่น้อยนิด ทำให้สโมสร Thames A.F.C. ไม่สามารถแข่งขันกับทีมอื่นๆ ในละแวกใกล้เคียงได้ พวกเขาเผชิญกับวิกฤตทางการเงินอย่างหนัก
ในที่สุด ในปี 1932 สโมสรที่เคยมีความฝันอันยิ่งใหญ่ ก็ต้องประกาศยุบทีมลงอย่างน่าเสียดาย ทิ้งไว้เพียงเรื่องราวอันน่าเหลือเชื่อของสโมสร ฟุตบอล ที่ยิ่งใหญ่ในเชิงกายภาพ แต่กลับเล็กจิ๋วในหัวใจของแฟนบอล บทเรียนราคาแพงว่าสนามที่สวยงามเพียงใด ก็ไม่อาจทดแทนศรัทธาและความรักจากแฟนบอลได้
จะมีสโมสรไหนอีกบ้าง ที่มีจุดเริ่มต้นสุดชิล ไปอ่านกันต่อใน EP.2 ได้เลยครับ
สัมผัสความเร้าใจของเกมกีฬาและความบันเทิง ชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลทุกคู่แบบ HD แทงบอลสดลุ้นรับรางวัลมากมาย และสนุกกับคาสิโนถูกกฎหมายที่เชื่อถือได้ จ่ายจริงไม่มีปัญหา สมัครสมาชิกใหม่วันนี้ รับโบนัสต้อนรับ 1,500 บาท เพียงแค่ใส่รหัส DW338