จากการสัมภาษณ์ของหลุยส์ในพาร์ทที่แล้ว จะเห็นได้ว่าเขาคิดแต่เรื่องผลประโยชน์ของตัวเอง มากกว่าจะคิดว่าจะพาเชลซีประสบความสำเร็จได้อย่างไร วันนี้KUBET จะพาไปดูผลงานอื่นๆของกุนซือคนนี้กันครับว่าจะเป็นอย่างไร พาเชลซีประสบความสำเร็จได้หรือไม่

เริ่มงานใหม่กับเชลซี
การตกลงไปรับงานกับทีมอื่นล่วงหน้าทั้งที่อยู่ระหว่างคุมทีมลุยศึกทัวร์นาเมนต์ใหญ่ ทำให้ผลงานการคุมทีมโปรตุเกสของหลุยส์ เฟลิเป้ไม่ดีเท่าที่ควร หลังจากมีการประกาศว่าเขารับงานที่เชลซีล่วงหน้าแล้วไม่กี่วัน โปรตุเกสก็ตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายยูโรปี 2008 ทันที โดยพ่ายต่อเยอรมนีไป 2-3อย่างไรก็ตามการพาทีมชาติโปรตุเกสเข้ารอบรองชนะเลิศยูโรไม่สำเร็จ นั่นทำให้เขาไปเริ่มงานใหม่กับเชลซีในวันที่ 1 กรกฎาคมปี 2008 ได้ตามสัญญาแบบไม่มีปัญหา
การตัดสินใจของเชลซีที่เลือกหลุยส์มาคุมทีมในปี 2008 มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่ามันเป็นเรื่องที่เสี่ยง เพราะเขาไม่เคยคุมสโมสรไหนในยุโรปมาก่อน และการทำงานกับทีมชาติที่มีโปรแกรมแข่งน้อยไม่เหมือนกับการคุมสโมสรเชลซีที่ต้องลงเตะต่อเนื่องทั้งซีซั่น แถมความคาดหวังสูงขึ้นทุกสัปดาห์

นอกจากนั้นการที่เชลซีเอาคนที่ยังมีภาระกับงานเก่าในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ ย่อมส่งผลให้การตัดสินใจเสริมทัพเป็นไปอย่างล่าช้า หากไม่นับโชเซ่ โบซิงวา ที่สโมสรตกลงทุ่มเงิน 16.2 ล้านปอนด์ คว้าตัวจากเอฟซี ปอร์โต้มาก่อนแล้วล่วงหน้า ถือว่าหลุยส์เซ็นสัญญากับนักเตะใหม่เข้ามาเป็นกำลังหลักเพิ่มอีกเพียงคนเดียวนั่นคือเดโก้ กองกลางที่คุ้นเคยกันดีในทีมชาติโปรตุเกส
การที่เดโก้กลายเป็นนักเตะที่บาร์เซโลนาไม่ต้องการแล้วทำให้เกิดเครื่องหมายคำถามว่าเขาเซ็นสัญญากับผู้เล่นที่จะมายกระดับทีมได้จริงหรือ? อันที่จริงในช่วงซัมเมอร์ปี 2008 หลุยส์ ต้องการโรบินโญ่ ซึ่งในตอนนั้นเขากำลังเป็นซูเปอร์สตาร์ของเรอัล มาดริดมาร่วมทีมเพิ่มอีกคน แต่สโมสรไม่ยอมสู้ค่าตัวและสุดท้ายกลายเป็นแมนเชสเตอร์ซิตี้ได้ไปเสริมทัพแบบช็อกวงการฟุตบอล
จะเห็นได้ว่านักเตะที่หลุยส์อยากได้ มีแต่ผู้เล่นที่เขาเคยร่วมงานในทีมชาติ เขาแทบไม่ได้ทำการบ้านมองหานักเตะคนอื่นในตลาดยุโรปเลย อย่างไรก็ตามหลุยส์ออกสตาร์ทการคุมทีมเชลซีได้อย่างยอดเยี่ยม เมื่อคว้าชัยชนะด้วยสกอร์สวยหรูหลายต่อหลายนัด ในเกมอุ่นเครื่อง เกมแรกของการพาเชลซีไปทัวร์ที่เมืองจีนก็ถล่มกวางโจว ฟาร์มาซูติคอลไปถึง 4-0 นัดถัดมาก็ยำเฉิงตู เบลดส์อีก 7-0 ก่อนจะปิดท้ายการพรีซีซั่นด้วยการถล่มเอสซีมิลาน 5-0 ที่กรุงมอสโก
ผลงานของหลุยส์กับทีมเชลซี
เมื่อฤดูกาลเริ่มต้นขึ้น สิงห์บลูภายใต้การคุมทีมของบิ๊กฟิลก็มีผลงานน่าประทับใจ เพราะ 14 นัดแรกแพ้นัดเดียว กวาดชัยชนะไปถึง 10 เกม และมีมากถึง 11 สัปดาห์ที่พวกเขารั้งตำแหน่งจ่าฝูงของพรีเมียร์ลีก ผลงานเมื่อจบปี 2008 เชลซีทำสถิติเป็นทีมที่ยิงประตูเยอะที่สุด 40 ประตู และเสียประตูน้อยที่สุดเพียง 9 ประตู เก็บคลีนชีทมากที่สุด 13 นัด ตามหลังจ่าฝูงลิเวอร์พูลเพียงแค่ 3 แต้ม โดยที่มีเกมให้เล่นอีกถึง 18 นัด
หากดูจากสถานการณ์ตอนนั้น เชลซีได้กุนซือที่ใช่มาคุมทีมเพราะผลงานดี แถมทีมยังเล่นเกมรุกสนุก แต่สิ่งที่ส่งสัญญาณไม่ดีพออย่างชัดเจนในฤดูกาลนั้น คือมาตรฐานของหลุยส์ที่พาเชลซีทำผลงานย่ำแย่ในการเจอกับทีมใหญ่ เกมที่เชลซีเปิดบ้านพบกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดพวกเขาทำได้แค่เสมอ 1-1 ทั้งที่วันนั้นปีศาจแดงขาดตัวหลักไปเพียบ
เกมเปิดบ้านพบกับลิเวอร์พูลเขาได้พาทีมแพ้คาบ้าน 0-1 จากประตูชัยของชาบี อลอนโซ่ นั่นทำให้สถิติของเชลซีที่ไม่แพ้คาบ้านในพรีเมียร์ลีกนานที่สุดถึง 86 นัดติดต่อกัน ต้องถูกหยุดลงในยุคของกุนซือชาวบราซิลรายนี้
เมื่อเข้าสู่ช่วงครึ่งซีซั่นหลังเชลซีออกไปเยือนทีมใหญ่ บิ๊กฟิล พาทีมแพ้ทั้งแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดและลิเวอร์พูลแบบสู้ไม่ได้ เชลซีโดนยำที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด 3-0 ส่วนเกมที่เยือนแอนฟิลด์ก็แพ้ด้วยสกอร์ 2-0
แม้ว่าผลงานที่เจอกับทีมเล็กจะรับมือได้ แต่มาตรฐานของเชลซีต้องอยู่ในตำแหน่งได้ลุ้นแชมป์ เพราะฉะนั้นการที่ไม่สามารถเทียบชั้นคู่ปรับระดับเดียวกันได้อย่างชัดเจนจึงเป็นสิ่งที่โรมัน อับราโมวิชรับไม่ได้
KUBET มาตรฐานของเชลซีที่ใครๆก็รู้ว่าพวกเขานั้นมีความโหด และความเข้มในด้านผลงานขนาดไหน



นักเตะเชลซีบาดเจ็บ
หากจะให้ความยุติธรรมกับหลุยส์ ปัจจัยที่ทำให้เขาไม่สามารถคุมเชลซีทำผลงานได้ดีในฤดูกาล 2008-2009 นั่นคือปัญหานักเตะตัวหลักบาดเจ็บหลายคน
ในเดือนกันยายนปี 2008 ไมเคิล เอสเซียง เจ็บหนักจากการไปเล่นให้ทีมชาติกานา และหลังจากนั้นเป็นต้นมาสภาพร่างกายของเอสเซียงก็ถดถอย จนไม่สามารถกลับมาเป็นสุดยอดกองกลางได้เหมือนเดิม ทางด้านหัวหอกตัวหลักอย่างดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ก็มีปัญหาบาดเจ็บที่หัวเข่า ส่วนปราการหลังจอมแกร่งอย่าง ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ ต้องพักยาวเพราะมีปัญหากล้ามเนื้อฉีกขาด ขณะที่ตัวทำเกมรุกอย่างโจ โคล ก็บาดเจ็บยาวต่ออีกในเดือนมกราคมปี 2009 จนหมดสิทธิ์ช่วยทีมจนจบซีซั่นไปอีกคน
ในระหว่างที่หลุยส์ไม่สามารถใช้งานดิดิเย่ร์ ดร็อกบาลงสนามได้ คนที่เป็นตัวความหวังพังประตูอันดับหนึ่งของทีมคือนิโกล่าส์ อเนลก้า ดาวยิงทีมชาติฝรั่งเศสสามารถทำผลงานในบทบาทกองหน้าตัวเป้าได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการยิงไปถึง 14 ประตูจนนำโด่งเป็นดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกครึ่งซีซั่นแรกของฤดูกาล 2008 – 2009
แต่เมื่อดร็อกบา ฟิตกลับมาลงเล่นได้อีกครั้ง มันกลายเป็นปัญหาใหม่ในห้องแต่งตัว อเนลก้ายืนยันว่าเขาไม่แฮปปี้ที่จะเปลี่ยนตำแหน่งไปเล่นด้านกว้าง เขาคิดว่าตัวเองสมควรรับบทกองหน้ามากกว่า แถมพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาเล่นดีจริง เมื่อยิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำ


ปัญหาของหลุยส์ เฟลิเป้
ในช่วงเวลานั้นมีข่าวลือว่าหลุยส์ เฟลิเป้ ไม่ใช่เจ้านายที่ลูกน้องในทีมรักเท่าไหร่ ปัญหาใหญ่คือภาษาอังกฤษของเขาไม่แข็งแรง บวกกับตัวเขาเองก็มีอีโก้ไม่น้อย จากการที่คิดว่าตัวเองเป็นกุนซืออายุมากและเคยเป็นแชมป์โลกมาก่อน สุดท้ายเมื่อร่วมงานกันไม่ราบรื่น ความคิดเห็นกับคนภายในทีมไม่ค่อยตรงกัน แถมผลงานเริ่มย่ำแย่
ในช่วงเข้าสู่ 3 เดือนสุดท้ายของซีซั่น ต้นเดือนกุมภาพันธ์ปี 2009 เชลซีได้สั่งปลดหลุยส์ เฟลิเป้ อย่างรวดเร็ว และได้ดึงตัวกุส ฮิดดิ้งค์ เข้ามาคุมทีมแทน
หลุยส์ เฟลิเป้ ปัจจุบัน
ปัจจุบันหลุยส์ในวัย 75 ปี กำลังคุมทีมอยู่ที่บ้านเกิด เป็นกุนซือของอัตเลติโก มิเนยโร่ หลังจากเขาโดนไล่ออกเมื่อ 16 ปีก่อนก็ไม่เคยได้ทำงานที่ยุโรปอีกเลย งานใหญ่หลังจากนั้นคือการไปคุมทีมชาติบราซิลศึกฟุตบอลโลกปี 2014 แต่มีช่วงเวลาไม่น่าจดจำเพราะได้ตกรอบรองชนะเลิศ แพ้ให้กับเยอรมนี 7-1 แต่เขาก็ยังมีงานจ้างไปคุมทีมอยู่เรื่อยๆ
แสดงให้เห็นว่าสำหรับวงการฟุตบอลบราซิล หลุยส์ เฟลิเป้ยังเป็นโค้ชระดับแถวหน้า เพียงแต่การไปคุมทีมในอังกฤษหรือคุมสโมสรในยุโรปอาจจะไม่ใช่สำหรับเขาจริงๆ
KUBET – เว็บไซต์ให้คำปรึกษาข่าวฟุตบอล ข้อมูลฟุตบอลอัปเดตแบบเรียลไทม์ ช่วยให้คุณเรียนรู้เกมฟุตบอลล่าสุดและครอบคลุมที่สุด คะแนนฟุตบอล ลีกฟุตบอล สโมสรฟุตบอล และข้อมูลฟุตบอลโลก รวมถึงข้อมูลอื่นๆที่คุณอยากรู้ เช่นประวัติความเป็นมาของสโมสร หรือที่มาที่ไปของโลโก้แต่ละสโมสร โดยไม่ต้องออกจากบ้าน