จาก EP.1 ที่เราได้ตั้งคำถามถึงโลกที่ไม่มีการซื้อขาย นักเตะ ใน EP.2 นี้ เราจะมาพิจารณาถึงความท้าทายที่สโมสรขนาดเล็กจะต้องเผชิญ เมื่อไม่สามารถดึงดูดนักเตะชื่อดัง หรือขายนักเตะเพื่อสร้างรายได้ได้ พวกเขาจะอยู่รอดและแข่งขันในโลกฟุตบอลนี้ได้อย่างไร?
หากมีกฎห้ามซื้อขายนักเตะ สโมสรใดบ้างที่จะร่วงและรอด?

ในโลกที่เงินตราดูเหมือนจะเนรมิตทีมแชมป์ได้เพียงชั่วข้ามคืน แต่ลองจินตนาการถึงวันที่ตลาดซื้อขายนักเตะกลายเป็นอัมพาต วันที่สโมสรยักษ์ใหญ่ไม่สามารถทุ่มทุนดึงซูเปอร์สตาร์เข้าสู่ทีมได้อีกต่อไป
ในห้วงเวลานั้นเองรากฐาน ที่แข็งแกร่งจะกลายเป็นลมหายใจสุดท้ายของทุกสโมสร การสร้างทีมระยะยาวจะไม่ใช่แค่กลยุทธ์ที่น่าสนใจ แต่เป็นเส้นทางรอดเดียวที่เหลืออยู่
หากอะคาเดมี่ที่เคยถูกมองข้าม จะกลายเป็นขุมทรัพย์ล้ำค่า นักเตะเยาวชนที่ถูกบ่มเพาะด้วยความใส่ใจ จะเติบโตเป็นหัวใจของทีมอย่างแท้จริง คุณภาพของการฝึกสอน วิสัยทัศน์ของสโมสร และความอดทนในการรอคอยผลิดอกออกผล จะเป็นอาวุธสำคัญยิ่งกว่าเม็ดเงินใดๆ เมื่อถึงเวลานั้น การลงทุนในระบบเยาวชนจะไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป
สโมสรบาร์เซโลนา



ลามาเซีย เป็นศูนย์ฝึกที่ผลิตตำนานลูกหนังระดับโลกไว้หลายคน ไม่ว่าจะเป็น ลิโอเนล เมสซี, ชาบี อลอนโซ, อันเดรส อิเนียสตา และมีนักเตะดังๆรายอื่นอีกมากมายที่ผลิตจากลามาเซีย แม้ว่าช่วงหลังบาร์ซ่าจะหันไปพึ่งการซื้อตัวมากขึ้น แต่ถ้าหากถูกบังคับให้กลับมาใช้เด็กปั้นเต็มระบบอีกครั้ง นี่อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนอีกครั้งที่ทำให้พวกเขากลับไปสู่รากเหง้าของตัวเอง
ลามาเซียมีจุดเด่นที่ไม่ใช่แค่สร้าง นักเตะ เก่งๆ แต่เป็นการสร้างระบบที่หล่อหลอมให้ผู้เล่นเข้าใจดีเอ็นเอของบาร์ซ่า ทุกคนที่ผ่านระบบจะซึมซับแนวทางตั้งแต่เด็ก ทำให้สามารถขึ้นชุดใหญ่ได้แบบไม่ต้องปรับตัว
นักเตะอย่าง กาบี , อันซู ฟาติ หรือ เปดรี้ นี่เป็นหลักฐานว่ายังมีดาวรุ่งที่สามารถก้าวขึ้นมาสืบทอดตำนานจากรุ่นพี่ได้ ในโลกที่ไม่มีตลาดซื้อขายบาร์ซ่าน่าจะกลับมาเป็นอีกหนึ่งทีมที่น่ากลัวทีมหนึ่งเลย
สโมสรอาแจ็กซ์


ไม่มีทีมไหนในโลกที่เหมาะกับฟุตบอลแบบไร้การซื้อขายนักเตะมากไปกว่าสโมสรอาแจ็กซ์ เยาวชนของที่นี่ไม่ได้ถูกฝึกให้เป็นแค่นักเตะ แต่ทุกคนถูกฝึกให้เป็นนักฟุตบอลที่สมบูรณ์แบบ ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน
อาแจ็กซ์ผลิตซูเปอร์สตาร์มาแล้วนับไม่ถ้วน ตั้งแต่โยฮัน ครัฟฟ์, มาร์โก ฟาน บาสเท่น, แฟรงกี้ เดอ ยอง หากโลกฟุตบอลต้องใช้แต่เด็กอะคาเดมี่ เชื่อว่าอาแจ็กซ์เป็นอีกหนึ่งทีมชั้นนำของยุโรป และอาจจะครองลีกดัตซ์แบบยาวๆ
สโมสรปารีส แซงต์ แชร์กแมง


สโมสรปารีส แซงต์ แชร์กแมง เป็นทีมที่นิยามฟุตบอลยุคปัจจุบันด้วยการใช้เงินมหาศาล ดึงนักเตะระดับโลกเข้าสู่ทีม เปแอสเชไม่ได้มีรากฐานอะคาเดมี่ที่แข็งแกร่งเหมือนทีมระดับท็อปอื่นๆ แม้ว่าจะมีดาวรุ่งอย่างโกม็อง, อาเดรียง ราบิโอต์ และคริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ที่เคยผ่านระบบเยาวชนมา แต่นักเตะเหล่านี้มักจะไปแจ้งเกิดกับที่อื่นมากกว่าปารีส ดังนั้นหากปารีสถูกบังคับให้ใช้แค่เด็กปั้น อนาคตของสโมสรจะตกอยู่ในความไม่แน่นอนทันที
สโมสรแมนเชสเตอร์ซิตี้

เรือใบสีฟ้ามีอะคาเดมี่ที่ทันสมัย แต่ปัญหาคือเด็กปั้นของสโมสรแทบไม่มีโอกาสแจ้งเกิดในทีมชุดใหญ่ ทุกวันนี้แมนซิตี้ปั้นอะคาเดมี่มาเพื่อนำไปขายเป็นเงินมากกว่า แม้ว่า ฟิล โฟเดน จะเป็นตัวอย่างที่ดีของเด็กปั้นที่ก้าวขึ้นมาเกิดกับทีมชุดใหญ่สำเร็จ แต่คนอื่นๆกลับย้ายออกไปเพื่อหาโอกาสในการลงเล่น หากวันหนึ่งไม่มีตลาดซื้อขาย นักเตะ แมนซิตี้จะต้องปรับโครงสร้างของทีมครั้งใหญ่แน่นอน
เราจะมาบอกถึงข้อดีข้อเสียถึงหากโลกฟุตบอลมีการยกเลิกซื้อขายนักเตะ รวมถึงแท็กติกและการสร้างทีม จะเป็นอย่างไร ไปกันที่ EP.3 เลยครับ
ดื่มด่ำความบันเทิงไร้ขีดจำกัด ไม่พลาดทุกช็อตเด็ดฟุตบอลสด แทงบอลสดลุ้นรับรางวัลสุดพิเศษ และสนุกกับเกมคาสิโนออนไลน์ที่เชื่อถือได้ จ่ายจริงไม่มีเงื่อนไข สมัครสมาชิกใหม่วันนี้ รับโบนัสต้อนรับ 1,500 บาท เพียงใช้รหัส DW338