การก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดในอาชีพของ เฟดริโก้ ดิมาร์โก้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เขาต้องผ่านการเล่นกับสโมสรที่แตกต่างกัน ด้วยการถูกส่งยืมตัวนับครั้งไม่ถ้วนก่อนที่แบ็กซ้ายจอมบุกรายนี้จะกลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลกตามตำแหน่งของเขา KUBET จะพาไปรู้จักเขาเพิ่มเติมกันครับ

ตลอดสองฤดูกาลที่ผ่านมา ดิมาร์โก้คือตัวขโมยซีนของอินเตอร์มิลานด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะยิงหรือสร้างสรรค์โอกาส เขามีส่วนไม่น้อยที่ทำให้อินเตอร์คว้าแชมป์และไปไกลถึงรอบชิง UCL เมื่อปี 2023 ด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน ขยันและมุ่งมั่น แข้งเยาวชนของอินเตอร์มิลานรายนี้ ปัจจุบันยังคงเป็นส่วนสำคัญในแผนการเล่นของซิโมเน่ อินซากี้
ประวัติโดยสังเขป
เฟดริโก้ ดิมาร์โก้ เข้าร่วมทีมเยาวชนของอินเตอร์มิลานในปี 2004 เมื่ออายุ 7 ขวบและค่อยๆไต่เต้าขึ้นมาเรื่อยๆ นักเตะวัย 26 ปีรายนี้ถูกปล่อยยืมไปให้กับสโมสรอัสโคลี่ ในเซเรียบี ซึ่งพรสวรรค์ของเขาได้ปรากฏให้เห็นอย่างรวดเร็วด้วยการทำไป 4 แอสซิสต์จากการลงสนาม 15 นัดในลีกรองอิตาลี
การยืมตัวเป็นเวลา 6 เดือน ด้วยความที่ยอดเยี่ยมทำให้เขาได้ย้ายไปเล่นกับเอ็มโปลี ทีมที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาในเซเรียอา ดิมาร์โก้ ยังคงโชว์ฟอร์มได้อย่างต่อเนื่อง ครั้งนี้เขาอยู่ในลีกระดับบนของวงการฟุตบอลอิตาลีแต่เขาก็ลงสนามไปเพียง 12 นัดเท่านั้นในขณะที่กลี อัซซูรี่ตกชั้น
ดิมาร์โก้ต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่หลังจากฤดูกาลที่น่าผิดหวังผ่านไป และย้ายไปเล่นให้กับสโมสรซิยงในสวิตเซอร์แลนด์ ด้วยค่าตัวเกือบ 4 ล้านยูโร อย่างไรก็ตามอินเตอร์มิลานก็มีออฟชั่นซื้อตัวกลับซึ่งต่อมาพวกเขาก็ได้ใช้สิทธิ์นั้นในปี 2018 ด้วยราคา 7 ล้านยูโร ซึ่งตัวเลขนี้เป็นการจ่ายที่คุ้มค่าที่สุดของทัพงูใหญ่ในรอบหลายปีเลยทีเดียว
ดูบอลฟรี ถ่ายทอดสดคมชัด ครบทุกคู่ ทุกแมตช์ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ภาพเสถียร ไม่มีสะดุด ได้ที่ KUBET เลยครับ
กลับสู่แดนลูกหนังมักกะโรนี

ดิมาร์โก้ มุ่งมั่นที่จะสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองเพื่อกลับมาเล่นในเซเรียอาอีกครั้งโดยย้ายไปอยู่กับปาร์ม่าด้วยสัญญายืมตัวในปี 2018 ฟูลแบ็กดาวรุ่งในตอนนั้นใช้ฤดูกาล 2018 – 2019 เป็นจุดเริ่มต้นแจ้งเกิดโดยลงเล่นไป 10 เกมซึ่งสิ่งที่ตลกร้ายต่อมาก็คือประตูแรกในอาชีพของเขาเกิดขึ้นในเกมกับอินเตอร์มิลานสโมสรที่เขาเคยเล่นมาตั้งแต่เด็กที่จูเซ็ปเป้ เมียซซ่า
ดิมาร์โก้เก็บบอลได้ก่อนจะหวดด้วยซ้ายระยะเกือบ 30 หลา บอลพุ่งผ่านซาเมียร์ ฮันดาโนวิช เสียบเสาเข้าไปอย่างสวยงาม ประตูนี้ยืนยันสิ่งที่อินเตอร์มิลานรู้ดีอยู่แล้วว่าเด็กคนนี้มีของดีแค่ไหนแต่พวกเขายังรู้สึกว่าดิมาร์โก้ ยังต้องพัฒนาต่อไปจนกระทั่งเขาได้ย้ายไปร่วมงานกับอีวาน ยูริซ ที่เฮลลาส เวโรน่า ที่นั่นเขาพัฒนาฝีเท้าไปสู่อีกระดับ
ดิมาร์โก้แจ้งเกิดในระบบ 3-4-1-2 เขาสถาปนาตัวเองเป็นตัวริมเส้นฝั่งซ้ายที่อันตรายเบอร์ต้นๆในลีก เมื่อได้รับอิสระและความไว้วางใจในเกมบุกเป็นหลักทำให้เขากลายเป็นแบ็กที่เทพที่สุดในเกมรุก และมีความเฉียบขาดในการทำประตูในที่สุดเฮลลาส เวโรน่าก็จบฤดูกาลด้วยผลงานที่น่าพอใจถึงสองฤดูกาล โดยมีดิมาร์โก้อยู่ในทีม ซึ่งถือเป็นผลงานที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ที่พวกเขากลับมาสู่ลีกสูงสุดของอิตาลี
ฟอร์มการเล่นที่ดีของดีมาร์โก้ไม่ได้ถูกมองข้ามโดยอินเตอร์มิลาน เขากลับมาสู่สโมสรในวัยเด็กในฤดูกาล 2021-2022 โดยทางซิโมเน่ อินซากี้ มีบทบาทสำคัญในการดึงเขากลับมาและมองว่าวิงแบ็กรายนี้ เหมาะกับระบบ 3-5-2 ของเขาอย่างสมบูรณ์แบบ ปัจจุบันดิมาร์โก้ได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดในตำแหน่งนี้ อีกทั้งยังได้รับความสนใจจากทีมใหญ่ของยุโรปอย่างปารีส แซงต์ แชร์กแมง และแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดอีกด้วย
สไตล์การเล่นของดิมาร์โก้

– ดิมาร์โก้ ถูกพูดถึงในฐานะนักเตะที่วิ่งไม่รู้จักเหนื่อย เขามีสายตาเฉียบคมที่มองหาโอกาสในการสร้างสรรค์ประตู
– มีการยิงระยะไกลที่ทรงพลัง ลูกครอสด้านข้างที่แม่นยำ และยังเป็นเจ้าพ่อลูกนิ่งอีกด้วย
– มีความเข้าใจแท็กติกเป็นอย่างดี
KUBET – เว็บไซต์ให้คำปรึกษาข่าวฟุตบอล ข้อมูลฟุตบอลอัปเดตแบบเรียลไทม์ ช่วยให้คุณเรียนรู้เกมฟุตบอลล่าสุดและครอบคลุมที่สุด คะแนนฟุตบอล ลีกฟุตบอล สโมสรฟุตบอล และข้อมูลฟุตบอลโลก รวมถึงข้อมูลอื่นๆที่คุณอยากรู้ เช่นประวัติความเป็นมาของสโมสร หรือที่มาที่ไปของโลโก้แต่ละสโมสร โดยไม่ต้องออกจากบ้าน